สหรัฐฯ เร่งดับไฟป่า หวั่นลุกลามหนัก
แคลิฟอร์เนียเร่งอพยพประชาชน จากไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในรอบปี หลังลุกลามอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง ครอบคลุม 4 เขต
เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อต่อสู้กับไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดลำดับที่ 7 ที่เคยบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยไฟป่าที่เกิดขึ้นนอกเมืองชิโก ได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 9 แสน 3 พันไร่ ณ ช่วงบ่ายของอาทิตย์ และขนาดพื้นที่ไฟไหม้ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าในชั่ว 24 ชั่วโมง ลุกลามไปทั้ง 4 เขต ได้แก่ บัตต์, พลูมาส, ชาสต้า และเทฮามา เหตุดังกล่าวทำให้เกิดกลุ่มควันเทาหนาทึบขนาดมหึมา ซึ่งกลุ่มควันส่งผลกระทบไปทั่วรัฐใกล้เคียง
ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ระบุว่า สามารถควบคุมเพลิงได้แล้วราว 12 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่า อุณหภูมิที่จะเย็นลง และอากาศที่ชื้นมากขึ้น อาจช่วยชะลอการลุกลาม แต่หัวหน้าหน่วยปฏิบัติงานเตือนว่า หลังจากนั้นอากาศที่ร้อนขึ้นและลมแรง จะยังทำให้ไฟกลับมาโหมกระหน่ำอีกครั้ง ขณะที่นักดับเพลิงที่กำลังทำงานอยู่ 4 พันนาย กำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ รวมถึงภูมิประเทศที่ขรุขระ
เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉิน ส่วนประชาชนหลายพันคนได้รับคำสั่งให้อพยพ มีอาคารทั้งหมด 66 หลังถูกเผาทำลาย และอีกหลายพันหลังยังคงตกอยู่ภายใต้ภัยคุกคาม อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ส่วนสาเหตุไฟป่าครั้งนี้คาดเกิดขึ้นจากชายคนหนึ่งลอบวางเพลิงด้วยการจุดไฟเผารถยนต์ และผลักรถเข้าไปในป่า จนเกิดไฟไหม้ลุกลาม ซึ่งถูกตำรวจควบคุมตัวแล้ว
ทั้งนี้ เมืองชิโกนั้นอยู่ใกล้กับเมืองพาราไดซ์ เมืองที่ได้รับความเสียหายจากเหตุเพลิงไหม้ในปี 2018 ซึ่งจัดว่าเป็นเมืองที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในแคลิฟอร์เนีย โดยมีผู้เสียชีวิต 85 ราย ทำให้การเกิดไฟป่าครั้งนี้สร้างความกังวลใจให้ชาวเมืองอีกครั้ง
นอกจากไฟป่านี้แล้ว ที่รัฐออริกอน ไฟป่าที่เกิดขึ้นเมื่อต้นเดือน ก็ยังคงลุกลามอยู่เช่นกัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ประมาณร้อยละ 50 ส่วนที่ทางตะวันตกของแคนาดา ไฟป่าได้ทำลายล้างเกือบหนึ่งในสามของเมืองแจสเปอร์เมืองท่องเที่ยวยอดนิยม ก่อนที่จะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เมื่อวานนี้
#บก.ข่าวทีวี #ไฟป่า #ลุกลาม #ไฟไหม้ #สหรัฐ
