ปูติน สั่งกองทัพ เร่งขับทหารยูเครน พ้นประเทศ
ผู้นำรัสเซียสั่งกองทัพ ขับไล่ ทหารยูเครนออกจากแผ่นดิน อย่าหวังจะเจรจา ขณะที่ยอดอพยพจากชายแดนแคว้นคูสก์ ทะลุหลักแสน เบลโกรอดอพยพด้วย ด้านยูเครนคุยยึดพื้นที่ได้ 1 พันตารางกิโลเมตรแล้วหลังบุกหนึ่งสัปดาห์
ครบหนึ่งสัปดาห์ที่กองทัพยูเครนสร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการบุกเข้าไปในแคว้นคูสก์ โดยที่รัสเซียตั้งตัวไม่ทัน และกลายเป็นการบุกดินแดนรัสเซียโดยกองทัพต่างชาติครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง สถานการณ์ความคืบหน้าเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเซีย ประชุมกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ ประกอบกับมีรายงานตรงจากผู้ว่าการแคว้นคูสก์ และทางยูเครนก็พูดถึงสถานการณ์ล่าสุดโดยไม่อ้อมค้อมอีกต่อไป
ประธานาธิบดีปูติน กล่าวในที่ประชุมว่า หนึ่งในเป้าหมายชัดของยูเครน คือเพื่อบ่มเพาะความขัดแย้ง ข่มขวัญประชาชน ทำลายความสามัคคีในสังคมรัสเซีย แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้าม เมื่อมีอาสาสมัครจำนวนมาก หลั่งไหลเข้าร่วมกองทัพเพื่อปกป้องชายแดน อีกหนึ่งเป้าหมายหลักในการบุกแคว้นคูสก์ ก็คือเบนความสนในจากดอนบาส ที่กองกำลังรัสเซียรุกยึดดินแดนได้อย่างต่อเนื่อง แต่นอกจากการบุกแดนรัสเซียจะไม่ได้ช่วยชะลอแล้ว ตรงกันข้าม กองทัพรัสเซียยึดพื้นที่ได้เพิ่มอีก
ส่วนเป้าหมายหลักของรัสเซียเวลานี้ คือกองทัพจะขับไล่กองกำลังยูเครนออกจากดินแดนรัสเซีย
ปูติน ประกาศกร้าวว่า ศัตรูจะเจอการตอบสนองอย่างสาสม
ด้าน นายอเล็กเซ สเมียร์นอฟ ผู้ว่าการแคว้นคูสก์ รายงานประธานาธิบดีปูตินว่า จนถึงขณะนี้ (12 ส.ค.) มีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้ว ประมาณ 1 แสน 2 หมื่น 1 พันคน นับตั้งแต่เริ่มมีการสู้รบ และมีอีก 5 หมื่น 9 พันที่ต้องอพยพ ขณะมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ราย บาดเจ็บอีก 121 คน และในวันเดียวกัน ยังได้ขยายพื้นที่อพยพครอบคลุมถึงเขต เบ-ลอฟ-สกี้ ที่มีประชากรราว 1 หมื่น 4 พันคนด้วย นอกจากนี้ ยังมีพลเมืองรัสเซียอีกราว 2 พันคนอยู่ในพื้นที่ยึดครองของกองทัพยูเครน ซึ่งไม่รู้ว่าชะตากรรมพวกเขาเป็นอย่างไร
ขณะที่แคว้นเบลโกรอด ที่อยู่ติดกัน ก็อพยพประชาชนราว 1 หมื่น 1 พันออกจากเขต
คราสโนยา-รุสสกี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดน
ข้อมูลล่าสุดจาก สเมียร์นอฟ ระบุว่า ทหารยูเครนเจาะเข้าไปในแคว้นคูสก์ ได้แล้วอย่างน้อย 12 กิโลเมตร เข้าควบคุมเมืองและหมู่บ้าน 28 แห่ง และแนวปะทะใหม่กินระยะทาง 40 กิโลเมตร
แต่ นายพลโอเลกซานดร์ ซีร์สกี้ ผู้บัญชาการทหารยูเครน รายงานประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์
เซเลนสกี้ว่า เวลานี้ ทหารยูเครนควบคุมดินแดนรัสเซีย 1,000 ตารางกิโลเมตร และการรุกคืบ ยังเดินหน้าต่อไป มีการสู้รับเกือบตลอดแนว แต่สถานการณ์ยังอยู่ภายใต้การควบคุม
ด้าน เซเลนสกี้ กล่าวในการแถลงประจำวันว่า ปฏิบัติการรุกเข้าดินแดนรัสเซีย เป็นเรื่องความมั่นคงล้วน ๆ นั่นคือการยึดพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียใช้โจมตีแคว้นซูมี ของยูเครน และว่ารัสเซียนำสงครามไปบ้านคนอื่น เวลานี้สงครามกลับมาที่บ้านตัวเองแล้ว ยูเครนต้องการแต่สันติภาพ และรัสเซียจะต้องถูกบังคับให้สร้างสันติภาพ ขณะที่ปูติน บอกว่า การสู้รบในคูสก์ เป็นเพียงความพยายามเพิ่มการต่อรองการเจรจาสันติภาพในอนาคต แต่รัสเซียจะเจรจากับฝ่ายที่โจมตีอย่างไม่เลือกเป้า ต่อพลเรือน หรือขู่โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้อย่างไร
สำนักข่าว BBC รายงานว่า ยูเครนอาจได้ขวัญกำลังดีที่บุกรัสเซียได้ แต่ยุทธศาสตร์นี้อาจนำอันตรายกลับไปยูเครน แหล่งข่าวทหารระดับสูง กล่าวว่า มีความเสี่ยงที่รัสเซียจะแค้นจนโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานยูเครนเพิ่มเป็นสองเท่า
#บก.ข่าวทีวี #ต่างประเทศ