ผบ.ภาคสหรัฐฯ กับ จีน คุยกันครั้งแรกในรอบหลายปี
นายทหารระดับผู้บัญชาการภาคอินโด-แปซิฟิคสหรัฐและยุทธบริเวณของจีน หารือผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะสองมหาอำนาจพยายามฟื้นสัมพันธ์ทางทหารเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
พลเรือเอก ซามูเอล ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐภาค อินโด -แปซิฟิค ได้พูดคุยกับ พลเอก อู๋ ย่าหนาน ผู้บัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบในทะเลจีนใต้ที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ที่ผู้บัญชาการระดับภาคของสองมหาอำนาจ ได้สนทนากันอย่างเป็นทางการ
กระทรวงกลาโหมจีน ยืนยันเรื่องการพูดคุยกัน พร้อมระบุว่า สองฝายได้แลกเปลี่ยนมุมมองเชิงลึกเกี่ยวกับประเด็น ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน ด้านทำเนียบขาว ระบุว่า สองฝ่ายหารือกันอย่างสร้างสรรค์ เคารพกันและกัน
ผู้บัญชาการทหารทั้งสองคนต่างก็ยังใหม่กับตำแหน่งนี้ นายพลปาปาโร เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ส่วน นายพลอู๋ ได้รับแต่งตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน ตัดการติดต่อทางทหารกับสหรัฐฯ นับตั้งแต่ แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต เดินทางเยือนไต้หวัน ในเดือนสิงหาคม 2565 ทำให้จีนไม่พอใจอย่างรุนแรง
การรื้อฟื้นติดต่อระหว่างสองกองทัพ เป็นเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของประธานาธิบดีไบเดน และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ก็เห็นพ้องกัน หลังจากทั้งสองประชุมสุดยอด ที่ซานฟรานซิสโก ในเดือนพฤศจิกายน 2566 นับแต่นั้นมา ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์และพบปะกับรัฐมนตรีกลาโหมจีนด้วยตนเอง ส่วน คิว ซี บราวน์ ประธานเสนาธิการร่วมสหรัฐฯได้พบปะพูดคุยกับฝ่ายจีนเช่นกัน แต่สถานการณ์ในภูมิภาคนี้ เป็นเรื่องที่สหรัฐฯกังวล
กองบัญชาการทหารสหรัฐภาคอินโด-แปซิฟิก รับผิดชอบพื้นที่ทะเลจีนใต้และช่องแคบไต้หวัน และพลเรือเอกจอห์น อาคีลีโน ผู้บัญชาการคนก่อน ต้องการหารือกับผู้บัญชาการยุทธบริเวณภาคใต้ และตะวันออกของจีน ซึ่งบผิดชอบช่องแคบไต้หวัน มาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แต่จีนเมินเฉย
ทั้งนี้ นายพลปาปาโรได้เน้นย้ำความสำคัญ ในการสานต่อพูดคุยกับนายพลอู๋ และผู้บัญชาการยุทธบริเวณอื่นของจีนอีก 4 ภาค เพื่อลดความเสี่ยงการตีความ หรือคำนวณผิดพลาด อย่างไรก็ดี โอกาสนี้ นายพลสหรัฐฯได้ขอจีน ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และทบทวนยุทธวิธีที่อันตราย ขู่เข็ญ และอาจทำให้สถานการณ์ในทะเลจีนใต้ และบริเวณอื่นๆ ลุกลามบานปลาย หลังจากมีเหตุกระทบกระทั่งหลายครั้ง ระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรสหรัฐ ในทะเลจีนใต้ โดยการที่เรือจีนฉีดน้ำแรงสูงใส่เรือฟิลิปปินส์ หรือพุ่งชน
#บก.ข่าวทีวี