นักวิเคราะห์ชี้ แฮร์ริส ชนะ ทรัมป์ ในศึกดีเบตสหรัฐฯ
นักวิเคราะห์ชี้ศึกประชันวิสัยทัศน์ครั้งแรกระหว่างรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์รีส ตัวพรรคเดโมแครตและอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์คู่แข่งจากพรรคริพับลิกันเมื่อคืนวันอังคารที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น แฮร์รีสทำได้ดีเกินคาด สามารถต้อนทรัมป์จนโมโหหลายครั้ง
CNN, AP, และ BBC รายงานว่าศึกประชันวิสัยทัศน์หรือการดีเบตระหว่างแฮร์รีสและทรัมป์ ซึ่งเป็นการเจอครั้งแรกและอาจเป็นครั้้งเดียวก่อนถึงวันเลือกตั้งสหรัฐในวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ศูนย์รัฐธรรมนูญแห่งช่าติ เมืองฟิลาเดลเฟีย เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทั้งคู่เปิดเวทีด้วยการที่แฮร์ริสเดินมาจับมือทรัมป์ ซึ่งก็ได้สร้างความแปลกใจให้กับทรัมป์ จากนั้นก็เริ่มปะทะคารมกันนาน 90 นาที ตั้งแต่นโยบายของประเทศเรื่อยไปจนถึงประเด็นส่วนตัว
ทรัมป์ได้โจมตีแฮร์ริสในประเด็นผู้ลี้ภัยและกล่าวหารัฐบาลไบเดนและแฮร์ริสว่าทำลายเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่แฮร์รีสก็โต้กลับทันควันโดยโจมตีไม่ยั้งในประเด็นสิทธิการทำแท้งของผู้หญิง, วิจารณ์ทรัมป์วัย 78 ปีว่าแก่เกินที่จะเป็นประธานาธิบดีอีกสมัย, ทั้งยังติดคดีความอีกมากมาย ต้อนจนทรัมป์ถึงกับควันออกหู แสดงความหวุดหงิดรำคาญและไม่พอใจอย่างชัดเจน
สำหรับนโยบายต่างประเทศ แฮร์ริสโจมตีทรัมป์ว่าอนุมัตให้สหรัฐขายชิประดับสูงให้จีนจนทำให้จีนนำไปพัฒนาและยกระดับกองทัพจนแข็งแกร่ง แต่ล่าสุดกลับประกาศสงครามการค้าด้วยการประกาศจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนแบบสูงลิ่วหากชนะเลือกตั้ง ซึ่งแฮร์ริสวิจารณ์ว่าผลเสียจะตกแก่ชาวอเมริกันที่จะต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น
หลังดีเบตสิ้นสุด บรรดานักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งต่างให้แฮร์รีสชนะการดีเบตครั้งนี้ วิลเลี่ยม ชไนเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสันชี้ว่าแฮร์รีสเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ไม่มีข้อผิดพลาด และสามารถควบคุมอารมณ์ได้เป็นอย่างดี เรียกว่าทำได้ดีเกินคาด โดยเฉพาะถ้าเทียบกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ขณะที่เทเลอร์ สวิฟต์ ศิลปินชื่อดังชาวอเมริกันได้โพสต์ลงอินสตาแกรมประกาศสนับสนุนแฮร์ริส โดยเรียกแฮร์ริสว่าเป็นผู้นำที่มีพรสวรรค์
อย่างไรก็ตามทิโมธี ลินช์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองอเมริกันจากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นกล่าวว่าแม้แฮร์ริสจะชนะการดีเบตครั้งนี้ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะชนะการเลือกตั้ง เพราะยังเหลือเวลาอีกถึง 56 วัน การเมืองสหรัฐอะไรก็เกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ทรัมป์ก็ไม่ได้ย่ำแย่จนเกินไป
โดยสรุปคือว่าการดีเบตครั้งนี้ไม่น่าจะส่งต่อโพลซึ่งทั้งคู่มีคะแนนสูสีชนิดรดต้นคอ และทั้งคู่ก็มีฐานเสียงเดิมอยู่แล้ว สิ่งที่แฮร์ริสและทรัมป์จะต้องฟาดฟันและแย่งชิงกันก็คือกลุ่มผู้ที่ยังไม่ตัดสินใจ หรือรัฐสวิงสเต็ท โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายก่อการเลือกตั้ง
#บก.ข่าวทีวี
