ผวา!!! รัสเซียช่วยอิหร่าน พัฒนานิวเคลียร์
สหรัฐฯและอังกฤษวิตก รัสเซียอาจช่วยอิหร่านเร่งสปีดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แลกกับการส่งขีปนาวุธไปให้ ขณะอิหร่านเอือมตะวันตก ป่านนี้แล้วยังไม่รู้ว่า การคว่ำบาตรเป็นเครื่องมือที่ล้มเหลว
การกระชับสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างรัสเซียกับอิหร่าน เป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือระหว่างที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ พบหารือกับนายกรัฐมนตรี เคียร์ สตาเมอร์ แห่งอังกฤษ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รวมถึงในระหว่างการพูดคุยกันของ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กับ เดวิด แลมมี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษในสัปดาห์เดียวกัน
เดอะ การ์เดียน รายงานว่า สองประเทศไม่ได้มุ่งแค่กรณีอิหร่านส่งขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ให้รัสเซียเท่านั้น แต่ยังวิตกว่า รัสเซียอาจให้อะไรบ้างแก่อีกฝ่ายเป็นการแลกเปลี่ยน
บลิงเคน กล่าวว่า รัสเซียกำลังแบ่งปันเทคโนโลยีที่อิหร่านแสวงหา รวมถึงนิวเคลียร์และเทคโนโลยีอวกาศ และกล่าวหารัสเซียกับอิหร่าน ร่วมมือกันทำกิจกรรมบ่อนทำลาย ขยายความไม่มั่นคงทั่วโลก ขณะที่อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ประสานเสียงเตือนในสัปดาห์เดียวกันว่า คลังแร่ยูเรเนียมของอิหร่านที่ผ่านการเสริมสมรรถนะแล้ว เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีเหตุผลการใช้ในทางพลเรือนรองรับ และเชื่อว่า อิหร่านได้สะสมไว้ในปริมาณมากพอผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้
ความวิตกที่ว่า อิหร่านใกล้ที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ได้แล้ว ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดในตะวันออกกลาง แม้ยังไม่รู้แน่ชัดว่า อิหร่านมีองค์ความรู้ทางเทคโนโลยีมากเพียงใด ในการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ในเวลานี้ หรือสร้างได้เร็วแค่ไหน แต่ค่อนข้างแน่นอนว่า การทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญรัสเซียที่มีประสบการณ์ หรือใช้องค์ความรู้จากรัสเซีย อาจจะช่วยเร่งกระบวนการผลิตให้เร็วขึ้นได้ กระนั้นอิหร่านไม่เคยยอมรับว่ากำลังพยายามผลิตระเบิดนิวเคลียร์
ปี 2558 อิหร่านบรรลุข้อตกลงระงับโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แลกกับการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯและประเทศตะวันตก แต่ 3 ปีต่อมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯในขณะนั้น ฉีกข้อตกลงนี้ อิหร่านตอบโต้ด้วยก้าวข้ามข้อจำกัดว่าด้วยปริมาณแร่ยูเรเนียมเสริมสมรรถนะที่สามารถครอบครองได้
รัสเซียกับอิหร่าน ไม่ใช่พันธมิตรในทางประวัติศาสตร์กันมาแต่เดิม แต่มาจับมือกันแน่นขึ้นเพื่อต่อต้านตะวันตก อันเป็นส่วนหนึ่งของ แกนแห่งความเปลี่ยนแปลง (axis of upheaval) ที่มีเกาหลีเหนือและจีน รวมอยู่ด้วยในระดับที่ต่างกันออกไป คล้ายกับการแข่งขันในยุคสงครามเย็น
ส่วนกรณีที่ อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ประกาศคว่ำบาตรครั้งใหม่ พุ่งเป้าการขนส่งทางอากาศของอิหร่าน หลังจากกล่าวหาอิหร่าน ส่งขีปนาวุธไปให้รัสเซียใช้ทำสงครามยูเครนนั้น สำนักข่าว IRNA ของทางการอิหร่าน อ้างถ้อยแถลงนายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศ ว่า น่าประหลาดใจที่ชาติตะวันตกยังไม่รู้ว่า การคว่ำบาตรเป็น “เครื่องมือที่ล้มเหลว” และพวกเขาไม่สามารถบังคับใช้เป้าหมายของตัวเองต่ออิหร่านผ่านการคว่ำบาตรได้
รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่า การคว่ำบาตร เป็นเครื่องมือของการกดดัน และเผชิญหน้า ไม่ใช่เครื่องมือของความร่วมมือ อิหร่านนั้นเปิดกว้างสำหรับการเจรจาและการสนทนาอย่างสร้างสรรค์กับประเทศอื่นเสมอ แต่การสนทนาควรตั้งอยู่บนพื้นฐานการเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การข่มขู่และกดดัน
#บก.ข่าวทีวี
