จีน ย้ำจุดยืนนิวเคลียร์มีไว้เพื่อป้องกันตัวเอง
จีน ยืนยันว่า นโยบายนิวเคลียร์ยังคงเดิม มีไว้เพื่อป้องกันตนเอง หลังทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป หรือ ICBM ตกลงในแปซิฟิกในสัปดาห์นี้
การทดสอบยิง ICBM ติดหัวรบหลอกของจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ทศวรรษ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา(25 ก.ย.) เรียกเสียงประท้วงจากหลายประเทศในภูมิภาค โดยเฉพาะเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น ที่ไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้า ไต้หวันก็ออกมาประณาม ส่วนออสเตรเลีย บอกว่าต้องการคำอธิบาย และนิวซีแลนด์ ระบุว่าเป็นพัฒนาการที่ไม่น่ายินดีและน่าวิตก
รัฐบาลจีนโดยโฆษกกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเรื่องนี้เมื่อวาน (26 ก.ย.) ย้ำว่า การทดสอบ ICBM เป็นการเตรียมการตามปกติและชอบธรรม มีเป้าหมายเพื่อการฝึกและทดสอบอาวุธ และนโยบายนิวเคลียร์ของจีนนั้น ก็มีเสถียรภาพ สม่ำเสมอและสามารถคาดการณ์ได้อย่างมาก
จีนปฏิบัติตามนโยบายนิวเคลียร์ที่วางไว้อย่างเคร่งครัด นั่นคือไม่คิดใช้อาวุธนิวเคลียร์ก่อน และดำเนินยุทธศาสตร์นิวเคลียร์เพื่อการป้องกันตัวเอง นอกจากนี้ จีนไม่ได้พยายามสั่งสมอาวุธ และสัญญาว่าจะไม่ใช้ หรือขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ ต่อประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ หรือเขตปลอดอาวุธโดยเด็ดขาด จีนจะยังคงรักษาศักยภาพนิวเคลียร์ไว้ในระดับต่ำสุด และในระดับที่จำเป็นเพื่อความมั่นคงของชาติ
วันเดียวกัน กองทัพจีนเผยภาพการขีปนาวุธ ขณะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า จากสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่เปิดเผย นักวิเคราะห์ กล่าวว่า จากภาพบ่งว่า น่าจะเป็นขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีป “ตงเฟิง-31 เอจี” ที่เคยถูกนำมาแสดงในพิธีสวนสนามครั้งหนึ่ง เมื่อ 7 ปีก่อน
ประธานาธิบดีโมเอไท บราเธอร์สัน แห่งเฟรนช์โปลีนีเซีย ดินแดนฝรั่งเศสในแปซิฟิก กล่าวว่า ขีปนาวุธของจีนตกไม่ไกลจากหมู่เกาะมาร์เคซัส ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของตน ขณะที่ข้าหลวงใหญ่ฝรั่งเศส ระบุในแถลงการณ์ว่า จีนแจ้งมาล่วงแล้วว่าจะทำการทดสอบยิงขีปนาวุธ เช่นเดียวกับกระทรวงกลาโหม ที่ระบุว่า สหรัฐฯได้รับแจ้งล่วงหน้า ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ถูกต้อง เพราะจะช่วยป้องกันการเข้าใจผิด
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่า ปกติ จีนจะไม่ยิงขีปนาวุธพิสัยไกลลงทะเลเช่นนี้ แต่จะทดสอบโดยไม่ประกาศล่วงหน้าในมณฑลห่างไกล เช่น ที่เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน การทดสอบครั้งนี้ จึงเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี ที่จีนยิงขีปนาวุธพิสัยไกลลงสู่น่านน้ำสากล และประกาศต่อสาธารณะ
เบนจามิน โฮ นักวิชาการโครงการจีน สถาบันการศึกษาระหว่างประเทศ เอส ราชารัตนัม ในสิงคโปร์ มองว่า รัฐบาลปักกิ่งกำลังส่งสัญญาณถึงสหรัฐและพันธมิตร ว่าจีนมีขีดความสามารถทางทหารในการตอบโต้ กรณีความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐฯลุกลามบานปลาย
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯระบุว่า จีนพัฒนาคลังแสงนิวเคลียร์ได้เร็วกว่าที่คาด ประเมินว่า ถึงเดือนพฤษภาคม 2566 จีนครอบครองหัวรบนิวเคลียร์พร้อมใช้ กว่า 500 ลูก และน่าจะเพิ่มเป็นกว่าพันลูกภายใน 6 ปีข้างหน้า
#บก.ข่าวทีวี
