จนท. UN ถูกยิง เหตุ อิสราเอล ถล่มฐาน ในเลบานอน
เจ้าหน้าที่กองกำลังสันติภาพ UN 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ หลังรถถังอิสราเอลยิงถล่มฐานทัพใหญ่ในเลบานอน ด้านอิตาลี ผู้สนับสนุนหลักของกองกำลังสันติภาพโกรธจัด ชี้การกระทำนี้ เข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม
กองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน (ยูนิฟิล) ได้เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ 2 นายได้รับบาดเจ็บจากการที่รถถังของอิสราเอล ยิงไปที่หอสังเกตการณ์ที่สำนักงานใหญ่ของกองกำลังในเมืองนาคูรา จนเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย กระเด็นตกลงมาจากหอดังกล่าว แต่อาการไม่ได้สาหัส รวมถึงยังมีการยิงไปที่ทางเข้าบังเกอร์ที่เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพกำลังหลบภัยอยู่ จนสร้างความเสียหายให้กับยานพาหนะและระบบสื่อสาร นอกจากนี้ ยังมีการสังเกตเห็นโดรนของกองกำลังป้องกันอิสราเอล บินอยู่ภายในฐานทัพของยูนิฟิล จนถึงบังเกอร์อีกด้วย อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด
ยูนิฟิลระบุต่อว่า สำหรับการโจมตีกองกำลังรักษาสันติภาพโดยเจตนานั้น ถือได้ว่าเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง เราขอเตือนกองทัพอิสราเอลและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เกี่ยวกับภาระหน้าที่ในการรับรองความปลอดภัยและความมั่นคงของบุคลากร และทรัพย์สินของสหประชาชาติ รวมถึงเคารพในความที่ไม่สามารถละเมิดสถานที่ตั้งของสหประชาชาติตลอดเวลาด้วย ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ยูนิฟิลเปิดเผยว่า กองทัพอิสราเอลได้ขอให้เจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพ ย้ายออกจากฐานในบางตำแหน่ง ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินภายในเลบานอน แต่ทางยูนิฟิลปฏิเสธ
ด้านกองทัพอิสราเอลก็ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทหารของตนเปิดฉากยิงใกล้ฐานทัพของยูนิฟิล เนื่องจากมีรายงานว่า กลุ่มก่อการร้ายฮิซบอลเลาะห์ปฏิบัติการจากภายในและใกล้พื้นที่พลเรือน ในเลบานอนตอนใต้ รวมถึงในพื้นที่ใกล้ฐานทัพยูนิฟิลด้วย ทั้งนี้ การปฏิบัติการของกองทัพอิสราเอลนั้น มีการรักษาการติดต่อสื่อสารกับยูนิฟิลอยู่เป็นประจำ
สำหรับยูนิฟิลนั้น ก่อตั้งขึ้นในปี 1978 (พ.ศ. 2521) และขยายตัวหลังจากเกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในปี 2006 เพราะเจ้าหน้าที่ของยูนิฟิลได้รับมอบหมายให้ติดตามการหยุดยิงระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย จากมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ กองกำลังนี้มีกำลังพลประมาณ 10,500 นาย ประจำการอยู่ทางใต้ของเลบานอน โดยมีประเทศที่มีส่วนสนับสนุนหลักๆ ได้แก่ ฝรั่งเศส อิตาลี อินโดนีเซีย มาเลเซีย และกานา
ขณะเดียวกัน กีโด โครเซตโต รัฐมนตรีกลาโหมของอิตาลี ซึ่งเป็น 1 ในประเทศที่ให้การสนับสนุนหลักของยูนิฟิล ก็ออกแถลงกับผู้สื่อข่าว เกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า นี่ไม่ใช่ความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุ มันอาจเข้าข่ายอาชญากรรมสงครามและถือเป็นการละเมิดกฎหมายการทหารระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ถือเป็นการละเมิดที่ไม่สามารถยอมรับได้
โครเซตโตกล่าวต่อว่า ตนได้แจ้งไปกับเอกอัครราชทูตอิสราเอล เพื่อให้ไปแจ้งรัฐบาลอิสราเอลว่า สหประชาชาติและอิตาลีไม่รับคำสั่งจากอิสราเอล สหประชาชาติและอิตาลีอยู่ที่นั่นเพื่อดำเนินการตามมติของสหประชาชาติ และวิธีเดียวที่จะหารือเกี่ยวกับสิ่งที่เราทำคือ การหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารืออย่างเป็นทางการกับสหประชาชาติ ไม่ใช่โดยการออกคำสั่งให้กองกำลังยูนิฟิล ซึ่งอยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องกฎหมายระหว่างประเทศ ให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งตามที่อิสราเอลสั่ง
#บก.ข่าวทีวี