X

คุก 14 ปี หญิงชาวไทยโกงเหยื่อในสิงคโปร์

คุก 14 ปี หญิงชาวไทยโกงเหยื่อในสิงคโปร์

ศาลสิงคโปร์ตัดสินคดีโกงที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อสองปีก่อน ศิริวิภา พันธ์ศักดิ์ หรือ แอน ถูกลงโทษจำคุก 14 ปี จากความผิดฉ้อโกงและอีกหลายข้อหา รับพรีออเดอร์สินค้าแบรนด์เนมแล้วไม่ส่งของให้ลูกค้า เสียหายหลายร้อยล้านบาท ขณะใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย

สเตรทส์ ไทมส์ สื่อสิงคโปร์ รายงานว่า ศิริวิภา วัย 30 ปี รับฟังคำพิพากษาลงโทษในวันนี้ผ่านทางวิดีโอลิงค์ เธอก้มมองพื้น และพยักหน้า เมื่อผู้พิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก 14 ปี

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม ศิริวิภา ให้การรับสารภาพความผิดข้อหาหลอกลวง ฉ้อโกง ยักยอกและฟอกเงิน รวม 30 กระทง โดยเก็บเงินค่ากระเป๋าและนาฬิกาหรู ที่ลูกค้าออเดอร์รวมเป็นเงินกว่า 25 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถส่งของให้ได้ เธอถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด 180 กระทง ศาลพิจารณาตัดสินลงโทษโดยคำนึงถึง 150 ข้อหาที่เหลืออยู่ด้วย

คดีนี้เป็นข่าวดังมากที่สิงคโปร์ เมื่อปี 2565 ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคมในปีนั้น มีผู้เสียหาย 187 คนเข้าแจ้งความร้องทุกข์บริษัท เทรดเนชั่น และ เทรดลักชัวรี่ ของศิริวิภา กับ เควิน พี เจี่ยเผิง สามีชาวสิงคโปร์ วัย 29 ปี ว่า ไม่ส่งของให้ทั้งที่จ่ายค่าสินค้าไปแล้วเต็มจำนวน รวมเป็นเงิน 32 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (กว่า 800 ล้านบาท)

ทั้งสองแต่งงานในเดือนกันยายน 2563 ก่อนเปิดบริษัท เทรดเนชั่น ขายนาฬิกาหรู ในเดือนพฤษภาคม 2564 จากนั้นไม่ถึง 1 ปี เปิดอีกบริษัทชื่อ เทรดลักชัวรี่ ขายกระเป๋าแบรนด์เนม ศิริวิภาไม่มีชื่ออยู่ในผู้บริหาร แต่เธอเป็นคนตัดสินใจหลัก ติดต่อลูกค้า หาซับพลายเออร์ และส่งของให้ลูกค้า

เริ่มแรก เธอหาสินค้าแบรนด์เนมในไทย แล้วนำไปขายต่อให้ลูกค้าสิงคโปร์แบบพรีออเดอร์ ในราคาที่ต่ำกว่าเจ้าอื่น 10-20% แต่ก็ยังมีกำไร

ปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 บริษัทเริ่มมีปัญหาหาแหล่งสินค้า ขนส่งล่าช้า และปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับผู้จัดหาสินค้าในต่างประเทศ แก้ปัญหาด้วยการซื้อของจากเจ้าอื่นในสิงคโปร์ โดยยอมจ่ายเพิ่มเพื่อส่งให้ลูกค้า จึงเริ่มขาดทุน และขาดสภาพคล่อง แต่ก็ยังรับออเดอร์และรับชำระค่าสินค้า โดยรู้ทั้งรู้ว่าไม่สามารถส่งของให้ได้ และยังนำเงินไปใช้จ่าย

รวมถึงนั่งเที่ยวบินเครื่องบินส่วนตัว 5 หมื่น 8 พันดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1 ล้าน 5 แสนบาท) กับสามีและเพื่อน , ซื้อบ้านในชื่อของแม่ที่กรุงเทพ มูลค่ากว่า 2 ล้าน 3 แสนดอลลาร์สิงคโปร์ (เกือบ 6 ล้านบาท) และดาวน์รถ เชฟโรเลต คอร์เวตต์ ในชื่อของสามี กว่าแสนดอลลาร์สิงคโปร์ โดยในตอนนั้น สามี เป็นเจ้าของรถหรูแล้ว 3 คัน ได้แก่ โตโยตา อัลพาร์ด แมคราเรน คูเป้ และ พอร์ช มาคัน นอกจากนี้ เธอยังใช้เงิน 1 แสน 2 หมื่นดอลลาร์สิงคโปร์ที่ได้จากลูกค้า ไปรีโนเวทหน้าร้าน เทรดเนชั่น ที่เขต ตันตง ปาการ์

เดวิด โก๊ะ รองอัยการสิงคโปร์ กล่าวว่า ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2565 บริษัทมียอดออเดอร์ค้างสะสม รวมเป็นมูลค่ากว่า 9 ล้าน 3 แสนดอลลาร์สิงคโปร์ ขณะที่ทั้งสองมีทรัพย์สิน มูลค่าเพียง 3 แสน 5 หมื่นดอลลาร์ กระนั้น ศิริวิภา ยังคงรับออเดอร์กระเป๋านาฬิกาหรูต่อไป บริษัททั้งสองแห่งจึงกลายเป็นแชร์ลูกโซ่ ลวงเหยื่อมาติดร่างแหมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยหวังจะมีเงินไปจ่ายซื้อของและส่งให้กับลูกค้าที่มีอยู่เดิม

จากมีนาคมถึงมิถุนายนปีเดียวกัน สองบริษัทมียอดออเดอร์ค้างส่ง รวมเป็นมูลค่า 25.7 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 656 ล้านบาท

อัยการขอให้ศาลลงโทษศิริวิภา 14-15 ปี จากการหลอกลวงและฉ้อโกงเหยื่อทั้งหมด 189 ราย กลายเป็นคดีฉ้อโกงที่มีผู้เสียหายมากที่สุดครั้งหนึ่งในสิงคโปร์ แต่ทนายจำเลย ขอให้ศาลลงโทษจำคุก 12 ปี 8 เดือน ถึง 13 ปี 7 เดือน โดยบอกว่า ลูกความสำนึกผิด และแจ้งคนที่พาเธอหลบหนีเองว่าให้ติดต่อตำรวจไทย และรอมอบตัวอยู่ที่โรงแรมในรัฐยะโฮร์ ที่มาเลเซีย

ทั้งนี้ หลังจากถูกจับกุม และได้รับอนุญาตประกันตัว ศิริวิภากับสามี หลบหนีจากสิงคโปร์ โดยซ่อนตัวในคอนเทนเนอร์รถบรรทุก ข้ามไปรัฐยะโฮร์ ประเทศมาเลเซีย ก่อนถูกจับกุมในที่สุด

ส่วนสามีของเธอ ถูกแจ้งทั้งหมด 9 ข้อหา คดียังอยู่ในชั้นศาล

#บก.ข่าวทีวี

อัปเดตคลิปข่าว

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น