3 ประเทศคู่ค้าสหรัฐฯเตือน ทรัมป์ขึ้นภาษี กระทบทุกฝ่าย
3 ประเทศคู่ค้าหลักสหรัฐออกโรงเตือน การขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เสี่ยงทำเงินเฟ้อพุ่ง และกระทบจ้างงาน
รอยเตอร์รายงาน เจ้าหน้าที่เม็กซิโก แคนาดา จีน และกลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่เตือนว่า การขู่ขึ้นภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ เสี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อและตกงาน โดยเมื่อวันอังคารทรัมป์ระกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา 25 เปอร์เซ็นต์ และเก็บภาษีเพิ่มอีก 10 เปอร์เซ็นต์สำหรับสินค้าจากจีน จนกว่าทั้งสามประเทศจะปราบปรามการค้ายาเสพติดผิดกฎหมาย และการหนีข้ามพรมแดนของผู้อพยพ
ข่าวขู่ขึ้นภาษีของทรัมป์ ทำให้ตลาดสกุลเงิน พันธบัตร และหุ้นปั่นป่วนในวันอังคาร เนื่องจากทั้งสามประเทศเป็นพันธมิตรทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ โดยเม็กซิโกและแคนาดามีความเกี่ยวพันเป็นพิเศษในภาคการผลิตยานยนต์ และพลังงานของสหรัฐ แหล่งข่าว 2 รายระบุว่า แผนขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 25 เปอร์เซ็นต์จากแคนาดาและเม็กซิโก ไม่ได้ยกเว้นน้ำมันดิบ
ผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ เรียกร้องให้เกิดความร่วมมือและการเจรจากันในการตอบสนองเบื้องต้นต่อการประกาศดังกล่าว ประธานาธิบดี คลอเดีย เชนบอม ของเม็กซิโก กล่าวระหว่างการแถลงข่าวประจำว่า การตอบโต้ขึ้นภาษีไปมา จะทำให้ในที่สุดภาคธุรกิจตกอยู่ในความเสี่ยง ดังนั้นเธอวางแผนจะส่งจดหมายและโทรศัพท์หาทรัมป์ เพื่อหารือ
ขณะที่ไรส์ เมนเดสรองผู้ว่าการธนาคารกลางแคนาดากล่าวว่า การเคลื่อนไหวขึ้นภาษีของทรัมป์ จะส่งผลสะเทือนต่อทั้งสหรัฐและแคนาดา พร้อมเสริมว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในสหรัฐจะส่งผลกระทบใหญ่ต่อเศรษฐกิจทั้ง 2 ประเทศ ก่อนหน้านี้ โฆษกของสถานทูตจีนในวอชิงตันกล่าวว่า ไม่มีใครจะชนะสงครามการค้าหรือสงครามภาษี
ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ณ เดือนกันยายน โดยรวมแล้วทั้ง 3 ประเทศส่งสินค้าไปสหรัฐเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 9 เดือนแรกของปี นำโดยเม็กซิโก ตามมาด้วยจีน และแคนาดา โดยบริษัทที่นำเข้าสินค้าเป็นผู้จ่ายภาษีศุลกากร แม้ว่าทรัมป์จะระบุอย่างผิดพลาดบ่อยครั้งว่า จะมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็ตาม
ข่าวเมื่อวันอังคาร ส่งผลให้ค่าเงินของเม็กซิโกและแคนาดาร่วงลง และหุ้นของผู้ผลิตรถยนต์ในสหรัฐและยุโรปก็ปิดลบจากความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้น แดเนียล โรเอสกา นักวิเคราะห์จาก เบิร์นสไตน์ ให้ความเห็นว่า หากการขึ้นภาษีเกิดขึ้นจริง จะเป็นหายนะสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐ และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ดีทรอยต์ 3 ซึ่งล้วนนำเข้ารถยนต์จำนวนมากจากแคนาดาและเม็กซิโก รวมถึง โฟล์คสวาเกน และผู้ผลิต OEM ในยุโรปรายอื่นๆ
ส่วนหุ้นน้ำมันก็ปิดลดลงบางตัว โดยกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันเตือนถึงผลกระทบใหญ่หลวงต่างๆ เช่น ราคานำเข้าที่สูงขึ้นและอุปทานวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมันที่น้อยลง รวมถึงการตอบโต้ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค เนื่องจากสหรัฐจำเป็นต้องนำเข้าน้ำมันดิบ เพื่อตอบสนองความต้องการบริโภคในแต่ละวัน และแคนาดาเป็นซัพพลายเออร์ต่างประเทศรายใหญ่ที่สุด โดยส่งน้ำมันมากกว่า 4 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยส่วนใหญ่ส่งผ่านท่อ
อีกทั้ง นักวิเคราะห์ของ ดอยช์แบงก์ประเมินว่า การขึ้นภาษีต่อเม็กซิโกและแคนาดา จะทำให้เงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นชั่วคราว จึงปรับเพิ่มการคาดการณ์ดัชนี CPI (ดัชนีราคาผู้บริโภค) ในปีหน้า จาก 2.6 เป็น 3.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งอยู่ที่ 2.7 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายน
#บก.ข่าวทีวี