เชชเนีย ลั่นล้างแค้น หลังยูเครนใช้โดรนโจมตี
ผู้นำเชเชนประกาศล้างแค้น หลังถูกยูเครนโจมตีด้วยโดรนเป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์
เมื่อวันอาทิตย์ ยูเครนส่งโดรน 3 ลำโจมตี กรอซนีย์ เมืองหลวงของในสาธารณรัฐเชชเนียของรัสเซีย ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม นับเป็นการโจมตีสาธารณรัฐทางใต้เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์
รามซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชน รายงานว่า การโจมตีดังกล่าวไม่มีผู้เสียชีวิต เนื่องจากระบบป้องกันภัยทางอากาศได้ยิงโดรนของศัตรูตก 2 ลำ ส่วนโดรนลำที่สามตกในบริเวณกองพันตำรวจปราบจลาจล อัคมัต กรอซนีย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กองกำลังป้องกันของรัสเซีย ภาพที่โพสต์บนช่อง Russian Telegram แสดงให้เห็นขีปนาวุธพิสัยไกลคล้ายเครื่องบิน พุ่งเข้าหาอาคารในเมืองกรอซนี พร้อมกับเสียงปืนดังขึ้นเป็นฉากหลัง ตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่น
หลังการโจมตี คาดีรอฟ ได้ประกาศผ่านช่องเทเลแกรมขู่โต้กลับทันที โดยกล่าวว่า ครั้งต่อไปถ้าคิดจะโจมตีเชชเนียด้วยโดรน จำไว้ด้วยว่า เราจะโจมตีแบบเจาะจงใส่ฐานต่างๆที่ทหารยูเครนรวมกันอยู่ และจะตอบโต้แบบเลวร้ายกว่าหลายเท่า อีกทั้งเขาเสริมว่า หลังถูกโจมตี เขาได้แจ้งตำแหน่งของกองกำลังยูเครนแก่กองทัพรัสเซียทันที และว่า จากนั้น ขีปนาวุธ Iskander สองลูกได้สอยทหารยูเครนร่วงไป 200 นาย จากการโจมตีฐานทัพแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟเมื่อเที่ยงวัน ซึ่งต่อมาสื่อของยูเครนได้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว แต่กระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีครั้งนี้
นอกจากนี้การโจมตีด้วยโดรนของยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี ได้สร้างความเสียหายให้กับค่ายทหารในกรอซนีย์ และทำให้ทหารได้รับบาดเจ็บ 4 นาย ซึ่งคาดีรอฟระบุว่า ยิ่งถูกทำร้าย มันยิ่งทำให้ขวัญกำลังใจของเรากล้าแข็งขึ้น เรายิ่งต้องการชนะและตั้งใจที่จะกำจัดศัตรูอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ยูเครนได้โจมตีด้วยโดรนหลายร้อยครั้งในภูมิภาคต่างๆ ของรัสเซียในช่วงสองปีที่ผ่านมา หลังจากที่ความขัดแย้งกับรัสเซียทวีความรุนแรงขึ้น ครั้งแรกที่โดรนเข้าถึงสาธารณรัฐเชชเนียคือเมื่อเดือนตุลาคม โดยมหาวิทยาลัยกองกำลังพิเศษรัสเซีย (RUS) เป็นเป้าหมายในเวลานั้น ก่อนหน้านี้ คาดีรอฟ กล่าวว่า นักรบมากกว่า 4 หมื่น 7 พันคน รวมถึงอาสาสมัคร 1 หมื่น 9 พันคน ได้เข้ารับการฝึกอบรมที่ศูนย์แห่งนี้
นับตั้งแต่ที่ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้นเชชเนียเป็นผู้สนับสนุนสงครามของรัสเซียอย่างแข็งขัน และส่งกองกำลังไปยังยูเครนซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 พันกิโลเมตร เพื่อต่อสู้ร่วมกับกองทัพรัสเซีย
#บก.ข่าวทีวี