บินรบสหรัฐฯ ถูกพวกเดียวกันสอยร่วงในทะเลแดง
เครื่องบิน F/A-18 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ถูกเรือรบของตัวเอง ยิงตกโดยไม่ตั้งใจในทะเลแดง
กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ หรือ เซนต์คอม ที่รับผิดชอบพื้นที่ตะวันออกกลาง ระบุในแถลงการณ์ว่า นักบินกองทัพเรือสหรัฐฯ 2 คน ดีดตัวออกจากเครื่องบินขับไล่ F/A-18 ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต และได้รับการช่วยเหลือในเวลาต่อมา โดยมี 1 คน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังจากเครื่องบินรบที่ทั้งคู่ควบคุม ถูกยิงตกในทะเลแดง เมื่อเช้าวันอาทิตย์ (22 ธันวาคม) ซึ่งเป็นการยิงจากพวกเดียวกัน
เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากเซนต์คอม แถลงความสำเร็จในการโจมตีทางอากาศ พุ่งเป้าคลังขีปนาวุธ ศูนย์บัญชาการและควบคุมของกลุ่มกบฏฮูตี ในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน นอกจากนี้ ยังได้โจมตีทำลายโดรน และขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือของฮูตีในทะเลแดง
แถลงการณ์ของเซนต์คอม ระบุว่าเครื่องบิน F/A-18 ที่ถูกยิงตก เพิ่งทะยานขึ้นจากดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบิน “ยูเอสเอส แฮร์รี ทรูแมน” ก่อนถูกเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี “ยูเอสเอส เกตตี้สเบิร์ก” ส่วนหนึ่งของกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินทรูแมนฯ ยิงด้วยความเข้าใจผิด โดยไม่ได้ขยายความเพิ่มเติม ว่า เรือเกตตี้สเบิร์กเข้าใจผิดว่า เครื่องบินขับไล่ F/A-18 เป็นอากาศยานหรือมิสไซล์ของข้าศึกได้อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่เรืออยู่ในกลุ่มเรือรบที่เชื่อมโยงกันด้วยเรดาร์และวิทยุสื่อสาร อย่างไรก็ดี เซนต์คอม ระบุว่า ก่อนหน้านั้น เรือรบและเครื่องบินรบสหรัฐฯ ยิงทำลายโดรนฮูตีหลายลำและขีปนาวุธร่อนต่อต้านเรือ 1 ลูก ที่ถูกยิงมาจากฮูตี ซึ่งการโจมตีในลักษณะนี้ ทหารบนเรือมีเวลาแค่หลักวินาทีในการตัดสินใจ
เป็นครั้งแรกที่สหรัฐฯสูญเสียเครื่องบินรบ นับตั้งแต่กองกำลังสหรัฐฯ เข้าไปสู้รบกับฮูตี เป็นเวลา 14 เดือน แม้ว่าเป็นการยิงจากพวกเดียวกันก็ตาม ไม่นับรวมกับโดรนพิฆาต เอ็มคิว-นายน์ รีปเปอร์ ที่ฮูตีอ้างว่า สอยร่วงไปหลายลำ
กลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน แฮร์รี เอส ทรูแมน เข้าไปในตะวันออกกลาง เมื่อ 15 ธันวาคม แทนกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบิน อับราฮัม ลินคอล์น ที่ออกจากน่านน้ำในภูมิภาคเมื่อเดือนพฤศจิกายน
นับจากการไปถึงของเรือทรูแมน กองทัพสหรัฐฯได้ยกระดับการโจมตีทางอากาศต่อฮูตีในทะเลแดง และพื้นที่โดยรอบ แต่อีกด้าน กลุ่มกบฏฮูตีก็กลับมาโหมโจมตีเรือรบสหรัฐฯครั้งใหม่เช่นกัน เหมือนกับที่เรือบรรทุกเครื่องบิน “ ดไวท์ ดี ไอเซนฮาวร์” เคยเผชิญก่อนหน้านี้ ซึ่งกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่าเป็นการสู้รบหนักหน่วงที่สุดนับจากสงครามโลกครั้งที่ 2
#บก.ข่าวทีวี