เริ่มวิเคราะห์กล่องดำ เครื่องบิน ชน ฮ.ในสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่กู้กล่องดำเครื่องบินอเมริกัน แอร์ไลน์ ขึ้นมาได้แล้วทั้งสองกล่อง หวังช่วยไขปริศนาเหตุชนเฮลิคอปเตอร์กองทัพ กลางอากาศ คร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้าย 67 ราย ท่ามกลางข้อสงสัยเรื่องการจัดเจ้าหน้าที่ประจำหอควบคุมการบินในน่านฟ้าที่แออัด NTSB เผยอาจออกรายงานสอบสวนเบื้องต้นใน 30 วัน
ความคืบหน้าเหตุเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินในเครืออเมริกันแอร์ไลน์ ชนกลางอากาศกับเฮลิคอปเตอร์ แบล็กฮอว์กของกองทัพบกสหรัฐ ใกล้ท่าอากาศยาน โรนัลด์ เรแกน ในกรุงวอชิงตัน ก่อนตกลงแม่น้ำโปโตแมคเมื่อคืนวันพุธที่ 29 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น ทีมกู้ภัยต้องระงับการค้นหาช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น (30 มกราคม) เนื่องจากสภาพแวดล้อมค่อนข้างอันตราย เวลานี้ หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯกำลังเข้าไปเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนเครื่องบิน เพื่อเปิดทางให้นักประดาน้ำเข้าถึงร่างเหยื่อได้ ทันทีที่ภารกิจนี้เสร็จสิ้นและปลอดภัยพอ ทีมประดาน้ำจะกลับลงไปอีกครั้งหนึ่ง โดยเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถกู้ร่างผู้เคราะห์ร้ายขึ้นมาได้ทั้งหมด ปฏิบัติการครั้งนี้คล้ายกับตอนที่เกิดเหตุเรือคอนเทนเนอร์ ชนสะพาน ฟรานซิส สก็อตต์ คีย์ ในเมืองบัลติมอร์จนพังถล่มเมื่อปีที่แล้ว นักประดาน้ำลงไปงมหาร่างผู้เสียชีวิต แต่ต้องพยายามหลบหลีกเศษซากโลหะขนาดใหญ่ไปด้วย
สำนักข่าว CBSและ CNN รายงานว่า จนถึงขณะนี้ กู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากแม่น้ำได้แล้วอย่างน้อย 40 ศพ คาดคนบนเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่เหลืออีก 27 คนน่าจะเสียชีวิตทั้งหมด แต่หัวหน้าหน่วยดับเพลิงที่ดีซี ระบุว่า ถึงเย็นวันพฤหัสบดี กู้ร่างเหยื่อจากเครื่องบินโดยสาร 27 ราย กับลูกเรือเฮลิคอปเตอร์ 1 ราย มีรายงานว่า ผู้โดยสารอย่างน้อย 2 คน จาก 60 คนบนเครื่องบินโดยสาร มาจากละตินอเมริกา ส่วนสถานทูตจีนในสหรัฐฯ แจ้งว่า จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า มีพลเมืองจีน 2 คนอยู่บนเครื่อง
อีกด้านหนึ่ง CBS รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้กล่องบันทึกข้อมูลการบิน และกล่องสนทนาในห้องนักบิน จากเครื่องบิน บอมบาร์เดียร์ CRJ700 เครื่องบินอเมริกัน แอร์ไลน์มาได้แล้ว ซึ่งน่าจะช่วยไขปริศนาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนเกิดโศกนาฏกรรม กล่องดำทั้งสองกล่องถูกส่งไปวิเคราะห์ที่ห้องแลบของคณะกรรมการตรวจสอบความปลอดภัยการขนส่งสหรัฐฯ หรือ NTSB ใกล้กับที่เกิดเหตุ
เจนนิเฟอร์ โฮเมนดี ประธาน NTSB แถลงว่า การทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ต้องมองที่ข้อเท็จจริงรอบด้าน และเป็นเรื่องที่จะต้องใช้เวลา เช่นเดียวกับ ทอดด์ อินแมน กรรมการ NTSB ที่บอกว่า เรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงมากพอ จนตัดสินได้ว่าเป็นความผิดพลาดของคน หรือปัจจัยทางเทคนิก ซึ่งทั้งหมดอยู่ในกระบวนการสอบสวนของ NTSB คาดว่าจะมีการออกรายงานในเบื้องต้นในเวลา 30 วัน
ถ้อยแถลงของ NTSB สวนทางกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่โทษอย่างรวดเร็วว่า เป็นความผิดของนักบินเฮลิคอปเตอร์แบล็อกฮอว์ก และการใช้พนักงานหลากหลายทางเพศมาทำงาน เมื่อถูกถามว่าใช้อะไรในการสรุปว่า เรื่องความหลากหลายมีส่วน ทรัมป์บอกง่ายๆ ว่า เพราะผมมีคอมมอนเซนส์ ซึ่งต่อมา รองประธานาธิบดี เจดี แวนซ์ และ พีท เฮสเซธ รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ ก็ออกมารับลูก โจมตีนโยบายเดียวกันว่าการจ้างงานอิงความหลากหลาย ทำให้ชาวอเมริกันที่มีความรู้ความสามารถหลุดจากงานที่ต้องอาศัยความรับผิดชอบ
ท่าอากาศยานเรแกน ตั้งอยู่ใกล้เมืองหลวงมากที่สุดในบรรดาท่าอากาศยานหลัก 3 แห่งในพื้นที่ มีเที่ยวบินขึ้นลงวันละมากกว่า 800 เที่ยวและมีผู้โดยสารใช้บริการมากเป็นอันดันที่ 24 ของสหรัฐ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากทำเนียบขาวและกระทรวงกลาโหม น่านฟ้าค่อนข้างแออัดทั้งเครื่องบินทหารและเครื่องบินพลเรือน แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า นักบินอเมริกันแอร์ไลน์เที่ยวบิน 5342 และนักบินแบล็กฮอว์ค ต่างก็คุ้นชินการเดินอากาศในน่านฟ้าซับซ้อนดังกล่าวเป็นอย่างดี
นิวยอร์ก ไทมส์ อ้างรายงานภายในของสำนักงานการบินสหรัฐฯ หรือ FAA ในเบื้องต้นว่า ขณะเกิดเหตุ มีพนักงานประจำหอควบคุมการบิน “ไม่ปกติสำหรับช่วงเวลานั้นของวันและปริมาณการจราจร” เจ้าหน้าที่ี่หอควบคุมการบินที่ดูแลเฮลิคอปเตอร์ในบริเวณใกล้เคียงสนามบินเมื่อคืนวันพุธ ยังทำหน้าที่ควบคุมเครื่องบินที่กำลังลงจอดและออกจากรันเวย์ด้วย โดยปกติแล้ว จะใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมสองคน ไม่ใช่คนเดียว ส่วน CNN รายงานเช่นกันว่า มีเจ้าหน้าที่ทำงานคนเดียวในเวลาที่ปกติจะใช้ 2 คน แต่ก็ไม่ถือว่า “ผิดปกติ” สำหรับการที่เจ้าหน้าที่ 1 คน จะดูแลทั้งการจราจรของเฮลิคอปเตอร์และเครื่องบิน
ขณะที่ ฮัสซัน ชาฮิดี ประธานมูลนิธิความปลอดภัยทางการบิน กล่าวว่า เวลานี้มีแต่การคาดเดาไปต่าง ๆ นานา การสอบสวนยังไม่ได้เริ่มเลย การจัดพนักงานแต่ละช่วงเวลา แตกต่างกันไปตามความเหมาะสมและปริมาณการจราจรขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เหตุเครื่องบินชนเฮลิคอปเตอร์เกิดกลางคืนเวลาประมาณ 21 นาฬิกา เป็นช่วงที่การจราจรเบาบางลงแล้ว
#บก.ข่าวทีวี