X

จับ2ตี๋ หิ้วเครื่องส่ง sms ดูดเงิน ว่อนห้าง

จับตี๋ฮ่องกง หิ้วเครื่องส่งสัญญาณ ส่งSMS แนบลิงก์ดูดเงิน คาห้างดัง ซัดทอดนายทุนชาวมาเลย์

วันนี้ (9 เม.ย.67) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ / นายวิสิฐศักดิ์ เจริญไชย ผู้จัดการส่วนงานองค์กรสัมพันธ์ AIS และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายไทลอยส์ (MR.TAI LOI) อายุ 43 ปี และนายมันลุคลี (MR.MAN LOK LEE) อายุ 25 ปี องหนุ่มชาวฮ่องกง พร้อมของกลางเครื่องจำลองสถานี (False Base Station) แบบพกพา หรือเครื่องสตริงเลย์ หรือปลากระเบน จำนวน 1 เครื่อง และโทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน

พลตำรวจโท วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการประสานงานทาง AIS Monitor ว่ามีคนร้ายส่งข้อความไปยังผู้ใช้บริการเครือข่าย ระบุว่า แจ้งบัญชีคะแนนกำลังจะหมดอายุ จากนั้นให้เข้าไปกดแลกสินค้า หรือแลกของสมนาคุณ และหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัว บัตรเครดิต ซึ่งหากเหยื่อหลงเชื่อก็จะกดลิงก์เข้าไปที่หน้าเว็บที่คนร้ายสร้างขึ้นมา และกรอกข้อมูลเข้าไป คนร้ายก็จะดูดเงินออกไปจนเกลี้ยงบัญชี นอกจากนี้ยังพบข้อความในลักษณะต่างๆ จำนวนมาก ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก

หลังรับแจ้ง ชุดสืบสวนได้ตรวจสอบ และถอดแผนพฤติกรรม กระทั่งพบว่าคนร้ายได้ใช้เครื่องสตริงเลย์ ในการส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วส่งข้อความแนบลิงก์ปลอม ต่อมาได้ตรวจพบความเคลื่อนไหวที่บริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน จึงนำกำลังไปตรวจสอบ ก็พบผู้ต้องหาทั้งสองคนสะพายกระเป๋าเดินวนไปมา เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ ก็พบเครื่องสตริงเลย์ จำนวน 1 เครื่อง ผลิตจากประเทศมาเลเซีย ก่อนนำตัวไปตรวจค้นที่ห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านบางรัก ก็พบแบตเตอรี่สำรอง 1 เครื่อง จึงตรวจยึดไว้

ทั้งนี้จากข้อมูลการสอบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า มิจฉาชีพจะนำเครื่อง “สตริงเลย์” สะพายไปยังสถานที่ต่างๆ ก่อนส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์มือถือที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วส่ง SMS แนบลิงก์ปลอม ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง บช.สอท. เคยจับกุมได้ โดยครั้งนั้นเครื่องสตริงเลย์จะมีแบตเตอรี่ ทำหน้าที่ชาร์จไฟอุปกรณ์ และคอมพิวเตอร์ เพื่อป้อนข้อความเข้าระบบ ก่อนจะส่งเข้ามือถือประชาชน ซึ่งจะถูกติดตั้งโปรแกรมมาแล้ว โดยใช้คือ IMSI-catcher หรือเสาส่งสัญญาณแบบพกพา เพื่อปล่อยสัญญาณ

แต่จากการจับกุมในครั้งนี้พบว่าคนร้ายได้พัฒนาแผนประทุษกรรม โดยนำเครื่องสตริงเลย์เชื่อมต่อมือถือแทนคอมพิวเตอร์ ตระเวนไปตามเป้าหมายหลัก เช่น ย่านชุมชน ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า เพราะกลุ่มคนที่จับจ่ายซื้อของ มักจะใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง เพื่อให้เกิดความคล่องตัว และยากต่อการติดตาม โดยส่งข้อความได้ 2-3 หมื่นเลขหมาย ในระยะ 1 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะทำการส่งของกลางให้กับทางกองบังคับการตรวจสอบและวิเคราะห์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บก.ตอท. ตรวจสอบอีกครั้ง

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่า เมื่อกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศมาเลเซีย จากนั้นได้รู้จักกับชายคนหนึ่งไม่ทราบสัญชาติ ชื่อว่าอาเคน และได้พูดคุยกันว่าจะเดินทางมาท่องเที่ยวต่อที่ประเทศไทย ซึ่งอาเคน ได้บอกว่าหากถึงประเทศไทยให้ติดต่อมาหา จากนั้นทั้งสองคนได้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ผ่านด่านพรมแดนสะเดา จังหวัดสงขลา พอมาถึงกรุงเทพฯ ก็ได้พูดคุยกับอาเคน ก่อนที่อาเคน จะให้ไปรับสิ่งของลักษณะเป็นกระเป๋าเป้ที่บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ โดยมีคนไทยไม่ทราบชื่อมาส่งมอบให้ อาเคนบอกว่า หากไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ให้สะพายไปด้วย โดยก่อนหน้านี้ได้สะพายไปตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ จำนวนสามจุด ประกอบไปด้วยเซ็นทรัลเวิลด์ ไอคอนสยาม ก่อนที่จะมาถูกจับกุมที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน

เบื้องต้น แจ้งข้อหา “ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต / ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคม โดยไม่ได้รับใบอนุญาต / และร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคม โดยไม่ได้รับอนุญาต”

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น