หลังจากรัฐบาลทหารเมียนมาประกาศกฎหมายบังคับหนุ่มสาวอายุตั้งแต่ 18 ปี รับราชการทหาร ทีมข่าว TopNews ได้รับเสียงสะท้อนจากแรงงานชาวเมียนมาว่ารู้สึกหวาดกลัว และเริ่มมีทหารเข้าพื้นที่ตามจับตัวไปเป็นทหารแล้ว
จากกรณีที่รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศใช้ “กฎหมายรับราชการทหารของประชาชน” ที่ออกมาเมื่อปี 2010 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ระเบียบเกณฑ์ทหารดังกล่าวครอบคลุมพลเมืองชาวเมียนมาทุกคน โดยชายที่มีอายุตั้งแต่ 18-35 ปี และหญิงที่มีอายุตั้งแต่ 18-27 ปี ต้องเข้ารับราชการทหารเป็นเวลาอย่างน้อย 2 ปี และสามารถขยายระยะเวลาประจำการได้สูงสุดถึง 5 ปี ภายใต้คำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน หากใครฝ่าฝืนคำสั่งอาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี ซึ่งกระทรวงกลาโหมเมียนมาเตรียมประกาศรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ปัจจุบันยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้ที่ถูกเรียกตัวจะต้องไปทำหน้าที่อะไรบ้าง
ล่าสุด นาย มยิทสุ หนึ่งในแรงงานชาวเมียนมา ที่พักอาศัย และเข้ามาทำกินอยู่ในประเทศไทย ได้สะท้อนปัญหาถึงกรณีที่รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศให้กฎหมายรับราชการทหารของประชาชน มีผลบังคับใช้ ว่า ตนเองรู้สึกหวาดกลัว เพราะคนที่บ้านตายกันเยอะ เมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้วระเบิดลง ทหารเมียนมาเขวี้ยงระเบิดใส่ ประชาชนต่างหนีตาย ตอนนี้คนในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก สำหรับวัยรุ่นอย่างเขา ตอนนี้ทราบข่าวมาว่าทางการทหาร เริ่มตามจับ พวกเราแก้ปัญหากันไม่ได้ ต่างพากันหลบหนี หลายคนหนีเข้าประเทศไทยเยอะมาก เท่าที่ฟังจากเพื่อนๆ ตอนนี้เขาต่างหวาดกลัว หลายคนหนีเข้าไร่นา เขาอยู่ที่บ้านไม่ปลอดภัย ต้องหวาดระแวง เพราะเห็นทหาร ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มพูดกันแล้ว หลายคนเริ่มทุกข์ใจเป็นอย่างมาก ส่วนตนเองนั้นเป็นห่วงแม่ และหลานที่บ้าน
ทั้งนี้ นาย มยิทสุ ยังบอกด้วยว่า อยากให้คนที่มีอำนาจในการตัดสินใจ หรือคนที่เรียนสูงๆ ที่ออกมาพูดให้กับชาวโลกได้ยิน อยากให้ช่วยคิด และแก้ปัญหาที่บ้านเรา ตอนนี้ทุกคนอยู่อย่างไม่มีความสุข ในฐานะประชาชน เราอยากเห็นบ้านเมืองเรามีความสุขสงบสุข ไม่อยากให้มีการใช้ความรุนแรง แต่ยิ่งนับวันกลับยิ่งแย่ลง หลายคนติดชายแดนข้ามกลับมาไม่ได้ เขาปิดชายแดนแล้ว นอกจากนี้ยังพบว่าการสื่อสารในพื้นที่ บางทีก็ถูกตัดขาด เพราะทหารเมียนมาไม่อยากให้เห็นการสู้รบ บางคนอยากใช้โทรศัพท์ต้องปีนขึ้นไปบนต้นไม้สูงๆ เพื่อให้มีสัญญาณในการสื่อสาร
