-หลังจากที่อิหร่านเปิดปฏิบัติการโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธ 300 ลูก ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้น จนถึงขั้นก้าวขึ้นสู่สงครามโลกได้หรือไม่ เรื่องนี้ มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมาก ออกมาแสดงความเห็น ซึ่งส่วนมากก็เห็นว่า อิหร่านเพียงต้องการแสดงเชิงสัญลักษณ์ เตือนอิสราเอลอย่ามายุ่งอีก และกับอิสราเอลนั้น ก็สามารถคิดได้ว่า เป็นยุทธวิธีเบี่ยงความสนใจโลก ให้ออกจากฉนวนกาซา และยังคงกระหายที่จะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด
-ดร.ร็อกแซน ฟาร์แมนฟาร์มาเอียน อาจารย์การเมืองและการศึกษาระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ของอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AFP ว่า สิ่งที่น่าสนใจคือ นี่เป็นการโจมตีที่นอกจากจะมีการวางแผนแล้ว ยังมีการออกคำเตือนมาตลอดจนอิสราเอลและสหรัฐสามารถเตรียมตัวได้ จึงมองได้ว่า การโจมตีนี้ จะเป็นเชิงสัญลักษณ์มากกว่า และไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายด้วย
-ฟาร์แมนฟาร์มาเอียนมีความเห็นต่อว่า เรื่องนี้ มีนัยยะของการเบี่ยงความสนใจของสื่อออกจากฉนวนกาซา เพราะทุกวัน สื่อเอาแต่รายงานความโหดร้ายในฉนวนกาซา จนอิสราเอลมักถูกประณาม สิ่งนี้เป็นแรงกดดันอย่างมากต่ออิสราเอล ซึ่งสหรัฐก็เข้าใจจุดนี้ แต่ก็เตือนว่า อย่าให้เรื่องบานปลายเป็นการโต้ตอบเพิ่มไปอีก เพราะสหรัฐจะไม่เข้ามายุ่งแน่
-นอกจากนี้ ฟาร์แมนฟาร์มาเอียนยังมองถึงประเด็นส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเองด้วย เพราะเนทันยาฮูยังไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องที่สำคัญที่สุด อย่างเรื่องของการช่วยเหลือตัวประกัน ทำให้เมื่อสงครามสงบ เนทันยาฮูก็อาจจะต้องเผชิญกับการขึ้นศาลและการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะมีแต่ผลลัพธ์ที่ไม่ดีรออยู่ ดังนั้น เนทันยาฮูจึงอยากจะยื้อสงครามไว้ให้นานที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
-ด้านดร.ไซมอน แพรตต์ อาจารย์รัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น ของออสเตรเลีย ได้แสดงความเห็นกับ CNA ของสิงคโปร์ว่า ในการโจมตีนั้น อิหร่านใช้โดรนชาเฮดที่เคลื่อนที่ช้าๆ นั่นอาจหมายความว่า อิหร่านคาดการณ์ที่จะให้ขีปนาวุธส่วนใหญ่ถูกยิงตก เพราะอิหร่านน่าจะต้องการแสดงให้เห็นชัดๆว่า การโจมตีครั้งนี้ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของสงครามใหญ่ แต่เป็นอย่างที่อิหร่านบอกนั่นคือ เป็นแบบครั้งเดียวและเสร็จสิ้น
-ขณะที่นายโจนาธาน พานิคอฟฟ์ ผู้อำนวยการโครงการริเริ่มความมั่นคงตะวันออกกลางสโคว์ครอฟต์ ของสภาแอตแลนติก ก็มีความเห็นว่า อิหร่านต้องการทำให้อีกฝ่าย รับรู้ถึงการเตรียมพร้อมของอิหร่าน หลังจากนักวิทยาศาสตร์นิวเคลียร์ของประเทศ เคยถูกลอบสังหาร ในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาถึง 2 ครั้ง ทั้งนี้ อิหร่านน่าจะบอกไปถึงอิสราเอลว่า อิหร่านมีความสามารถ และจะใช้มันหากอิสราเอลไม่ยอมหยุด
-ด้านนายพอล ซาเลม ประธานและซีอีโอ สถาบันตะวันออกกลางแห่งสหรัฐ ได้แสดงความเห็นกับสำนักข่าว AFP ว่า ในระยะยาว มันจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก อิหร่านกำลังขีดเส้นสีแดงว่า เมื่อเจ้าหน้าที่หรือนายพลของตนถูกสังหาร หรือถูกโจมตีโดยตรง อิหร่านเองก็จะตอบโต้ และสำหรับเนทันยาฮูนั้น ตนคิดว่า เขาจะมีเวลาทางการเมืองมากขึ้นอีกเล็กน้อย เพราะสิ่งที่ชาวอิสราเอลไม่เห็นด้วยคือเรื่องสถานการณ์ตัวประกัน และสิ่งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซา แต่พวกเขาไม่ได้ไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับภัยคุกคามจากอิหร่าน ยิ่งเมื่อได้เห็นขีปนาวุธและโดรนเหนืออิสราเอลเป็นจำนวนมากแล้ว พวกเขาก็มองเห็นอิหร่านเป็นความน่ากังวลใจ
-ทั้งนี้ เมื่อประมวลความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้จะเห็นว่า อิหร่านเพียงแต่ต้องการส่งคำเตือนครั้งใหญ่ ไม่ให้อิสราเอลล้ำเส้นมากเกินไป การโจมตีจึงไม่ได้ถึงขั้นไปถึงชีวิตประชาชน นอกจากนี้ ก็ได้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่การโจมตีจากอิหร่าน จะเป็นความต้องการของตัวนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ต้องการให้เกิดขึ้นเพื่อเบี่ยงความสนใจของสื่อ กับความล้มเหลวของตัวเอง ที่ยังช่วยตัวประกันไม่ได้ และทำให้สถานการณ์ในฉนวนกาซา เลวร้ายลงเรื่อยๆ รวมถึงยังเป็นการต่ออายุตัวเอง ให้ยังได้อยู่ในอำนาจต่อไปด้วย
#บก.ข่าวทีวี