เสียงร้องไห้ระงมของบรรดาญาติพี่น้องที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจาก “โรคฮีทสโตรก” หรือโรคลมแดด ซึ่งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัด สาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้ ณ เวลานี้มีคนไทยเสียชีวิตแบบปัจจุบันทันด่วนนับสิบราย
มหันตภัยคลื่นความร้อน ได้คร่าชีวิต น.ส.อรุโณทัย ศุกระเศรณี อายุ 57 ปี ขณะนอนหลับที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบสันนิษฐานว่า น.ส.อรุโณทัย น่าจะเสียชีวิตหลังเกิดอาการฮีทสโตรก เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด แม้ว่าจะเปิดพัดลมช่วยคลายคลายร้อนแต่ก็ไม่ยื้อชีวิตเอาไว้ได้
มฤตยูคลื่นความร้อนยังถาโถมคร่าชีวิต นายภีร์ม กิ่งกลาง ชาว จ.เพชรบูรณ์ หลังญาติไปพบว่า นายภีร์ม นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้านเช่าหลังหนึ่งภายในชุมชนที่ 13 บ้านวังยาง ต.สะกกรัง อ.เมือง จ.อุทัยธานี ตอนพบศพ นายภีร์ม นอนห่มผ้าคลุมตัวอย่างมิดชิด โดยเปิดพัดลมและเปิดแอร์อุณหภูมิอยู่ที่ 31 องศาเซลเซียส เจ้าหน้าที่คาดว่า นายภีร์ม ซึ่งเป็นคนชอบดื่มสุราและสูบบุหรี่ น่าจะเสียชีวิตหลังเกิดอาการฮีทสโตรกด้วยเช่นกัน
มหันตภัยฮีทสโตรก ยังคร่าชีวิต น.ส.แจ่มจันทร์ เขียวอ่อน ชาว อ.กันทรารมย์จ.ศรีสะเกษ หลังมีชาวบ้านศพ น.ส.แจ่มจันทร์ นอนเสียชีวิตคว่ำหน้าอยู่กลางทุ่งนา ตามร่างกายไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เมื่อตรวจสอบประวัติผู้ป่วยพบว่า น.ส.แจ่มจันทร์ เป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่ไม่ยอมกินยา แถมยังกินเหล้าขาว 40 ดีกรีเป็นประจำ จึงคาดการณ์ว่า น.ส.แจ่มจันทร์ น่าจะดื่มเหล้าขาวปริมาณมากท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ น.ส.แจ่มจันทร์ เปิดอาการฮีทสโตรกเป็นลมเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนา
ภัยร้ายจากคลื่นความร้อนยังจบชีวิตของ นายสง่า สังสัญชาติ อายุ 52 ปี หลังมีชาวบ้านไปพบว่า นายสง่า นอนเสียชีวิตอยู่ที่สวนหน้าบ้าน โดยที่เกิดเหตุพบไม้พยุงเดิน และสายยางฉีดน้ำตกอยู่ใกล้ตัวผู้เสียชีวิต จากการตรวจสอบพบว่า นายสง่า มีโรคประจำตัว คือ โรคเบาหวานและโรคหลอดเลือดในสมองตีบ ประกอบกับสภาพอากาศร้อนจัด และอาจพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงเป็นเหตุให้ นายสง่า เสียชีวิตกระทันหัน
สำหรับ “มหันตภัยฮีทสโตรก” เกิดขึ้นจาก 2 สาเหตุ คือ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาษร้อน ทำให้อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น มักเกิดขึ้นหลังจากสัมผัสสภาพอากาศร้อนเป็นเวลานาน สาเหตุที่ 2 คือ การเป็นโรคฮีทสโตรก จากการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องใช้กำลังมาก หรือการออกกำลังกายอย่างหนักในสภาพอากาศร้อนจัด
สัญญาณการเกิดโรคฮีทสโตรก จะพบว่า ผู้ป่วยจะอุณหภูมิในร่างกายจะสูงถึง 40 องศาเซลเซียส / ไม่มีเหงื่อออก / รู้สึกกระหายน้ำมาก / หายใจถี่ / ชีพจรเต้นแรง / ปวดศีรษะ / หน้ามืด / ความดันโลหิตต่ำ / อ่อนเพลีย / คลื่นไส และอาเจียน
ดังนั้นเราควรรู้วิธีรักษาอาการของฮีทสโตรก นั่นก็คือการช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายของผู้ป่วย โดยขั้นแรกให้นำผู้ป่วยไปอยู่ในที่ร่ม พร้อมกันคนที่ห้อมล้อมผู้ป่วยออกเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวกขึ้น
– จับผู้ป่วยนอนศีรษะราบ ยกขาทั้งสองข้างให้สูงขึ้น โดยหาสิ่งของมารองปลายเท้าเพื่อให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงหัวใจได้ดีขึ้น
– คลายเสื้อผ้าที่รัดแน่น ปลดเข็มขัด ถอดรองเท้า ถุงเท้า ถอดเครื่องประดับออก
– ใช้ผ้าชุบน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง เช็ดใบหน้า ลำตัว ท้ายทอย และข้อพับ หรือใช้น้ำแข็งประคบที่ซอกคอ ขาหนีบ รักแร้ แล้วรีบนำตัวไปส่งโรงพยาบาลโดยเร่งด่วน
สุดท้าย คือ วิธีป้องกันโรคฮีทสโตรก ควรสวมเสื้อผ้าที่หลวมหรือบาง เมื่อสัมผัสกับความร้อนหรือบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก / สวมหมวก / สวมแว่นกันแดด / ทาครีมกันแดด / จิบน้ำบ่อยๆ เพื่อรักษาอุณหภูมิร่างกายให้ปกติ / ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องใช้แรงมาก และงดออกกำลังกายอย่างหนักในบริเวณอากาศร้อน หรือบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ขอให้ใช้เวลาอยู่ในสถานที่ดังกล่าวให้น้อยที่สุด