X

ดักคอเพื่อไทย ผุดแผนลึกแก้ พ.ร.บ.ธปท.-โยกหนี้..

พรรคเพื่อไทยพยายามพลิกวิกฤตเป็นโอกาส กรณี”อุ๊งอิ๊ง”ทัวร์ลงหลังตำหนิแบงก์ชาติเป็นอุปสรรคการฟื้นเศรษฐกิจ เผยเกมใหญ่รัฐบาลเศรษฐาเล็งแก้พ.ร.บ.ธปท.และพ.ร.ก.โยกหนี้กองทุนฯให้แบงก์ชาติดูแล

กรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร “อุ๊งอิ๊ง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แสดงวิสัยทัศน์ในงาน “10เดือนไม่รอ เดินหน้าต่อให้เต็ม10” ของพรรคเมื่อ 3 พ.ค.2567 ว่ากฎหมายที่ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)เป็นอิสระเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ประเด็นดังกล่าว ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง หรือ ”ทัวร์ลง” อุ๊งอิ๊ง ลุกลามถึงนายใหญ่ จน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ บรรดาผู้ใหญ่ ระดับสูงของพรรคเพื่อไทย ต้องออกมาปกป้องกันอย่างเป็นขบวนการ

การกดดัน แบงก์ชาติ พร้อมๆกันนั้น มาพร้อมกับกระแสข่าวระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้เตรียมที่จะแก้ไขกฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.ธนาธารแห่งประเทศไทย ซึ่งมีการแก้ไขครั้งล่าสุดเมื่อปี 2550 โดยจะแก้ให้รัฐบาลมีอำนาจในการกำกับดูแลธนาคารแห่งประเทศไทยได้มากขึ้น กับ พ.ร.ก.กำหนดปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2555 ซึ่งเป้าหมายการแก้พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ฯ ก็เพื่อโยกหนี้ที่เหลืออยู่ประมาณเกือบ 6 แสนล้านบาท ให้ธปท.ดูแล จะได้ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ เปิดช่องให้รัฐบาลขยายวงเงินกู้ได้กว้างขึ้น

สำหรับหนี้เงินกู้ส่วนนี้ปัจจุบันอยู่ในบัญชีของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (Financial Institutions Development Fund) หรือ FIDF ปัจจุบันมีหนี้ ที่คงเหลืออยู่ จำแนกตามบัญชี FIDF 1 และ FIDF 3 ณ เดือน เม.ย.2567 เป็นวงเงิน 590,869 ล้านบาท จากยอดที่รับมาดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค.2555 อยู่ที่ 1.13 ล้านล้านบาท แบ่งได้ ดังนี้

1.FIDF 1 ยอดที่รับมาดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค.2555 อยู่ที่ 463,275 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือ 265,327 ล้านบาท

2.FIDF 3 ยอดที่รับมาดำเนินการเมื่อเดือน ม.ค.2555 อยู่ที่ 675,030 ล้านบาท ปัจจุบันเหลือ 325,542 ล้านบาท

ทั้งนี้ หนี้ในส่วนนี้แม้ว่าปัจจุบันรัฐบาลจะมีการออกกฎหมายเมื่อปี 2555 ให้หนี้ส่วนนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ ธปท.โดยมีการออก พ.ร.ก.การปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน

โดยกำหนดให้ ธปท. นำอัตราเงินนำส่งเงินสมทบกองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF fee) จากธนาคารพาณิชย์อัตรา 0.46% ต่อปี มาเข้ากองทุนเพื่อชดเชยส่วนนี้แทนการตั้งงบประมาณใช้คืนที่ทำมานับสิบปีปีละ 50,000-60,000 ล้านบาท แต่ปัจจุบันหนี้ส่วนนี้ยังนับเป็นหนี้สาธารณะ เพราะอยู่ในบัญชีหนี้สาธารณะของรัฐบาลทำให้สำนักบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ต้องบันทึกหนี้สาธารณะรายงานและคำนวณในหนี้สาธารณะของประเทศทุกปี

อย่างไรก็ตามการแก้ไขกฎหมายของทางพรรคไทย ไม่ง่ายเสียแล้ว เมื่อมีเสียงคัดค้านโดยเฉพาะพ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่หลายฝ่ายอ่านเกมออกว่าพรรคเพื่อไทยน่าจะผลักดันก่อน อาทิ

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นว่าพ.ร.บ.ธปท.ขณะนี้เหมาะสมดีแล้ว อดีตการตัดสินนโยบายการเงินตัดสินโดยผู้ว่าฯธปท.เพียงคนเดียว แต่กฎหมายปัจจุบันแก้ให้มีคณะบุคคลร่วมตัดสินนโยบายการเงิน มาจากคนนอก 4 คน คนของธปท.3 คน ส่วนการแก้พ.ร.ก.บริหารหนี้เงินกู้ฯ ที่สุดแล้วนายประสารเชื่อว่าไม่น่าจะทำให้หนี้สาธารณะลดลง แต่จะเป็นการย้ายบัญชีการบริหารหนี้เท่านั้น

ขณะที่ฝ่ายค้าน อย่าง นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า น่าจับตาว่าพรรคเพื่อไทยจะเสนอแก้ไข พ.ร.บ.เพื่อลดความเป็นอิสระของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ แต่ตนเห็นว่าถ้าต้องการให้แบงก์ชาติทบทวนเป้าหมายเงินเฟ้อ การที่ออกมาพูดสั้นๆ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของสปีชได้ส่งผลกระทบต่อวงกว้าง

รายงานข่าวแจ้งว่าล่าสุดพรรคเพื่อไทยยังออกอาการละล้าละลังว่าจะแก้ไขกฎหมายทั้งสองฉบับหรือไม่ ในขณะที่นักสังเกตการณ์ทางการเมือ ง ตลอดจนนักการเมือง หลายคนเช่น นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี,นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์คล้ายกันว่าการโจมตีแบงก์ชาติของ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร เป็นส่วนหนึ่งของการหาแพะรับบาปมาตอบโจทย์เรื่องดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งมีแนวโน้มจะล้มเหลวนั่นเอง

#บก.ข่าวทีวี #การเมือง #ดักคอเพื่อไทย #อุ๊งอิ๊ง #ธปท

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น