X

อิสราเอลตีราฟาห์ กระเทือนนายกฯอย่างไร?

-นักวิเคราะห์แสดงความเห็นถึงสิ่งที่นายกฯอิสราเอลคาดหวังและผลกระทบ หากโจมตีราฟาห์ ชี้เป็นการถ่วงเวลาให้อยู่ในอำนาจเพื่อหลีกเลี่ยงคดีทุจริต, หวังขยายดินแดน, และรอไปถึงการเลือกตั้งของสหรัฐ ที่หวังจะได้ทรัมป์ ด้วยมองว่าให้การสนับสนุนดีกว่าไบเดน
-มูราด ซาดิกซาเด ประธานศูนย์ตะวันออกกลางศึกษาในกรุงมอสโกของรัสเซีย ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับความซับซ้อนของตะวันออกกลาง ได้ออกบทความวิเคราะห์ลง RT สื่อของรัสเซีย ถึงสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลคาดหวังและผลกระทบ หากสั่งโจมตีราฟาห์อย่างสมบูรณ์ ซึ่งในการโจมตีทั้งทางอากาศและบนพื้นดินในบางเป้าหมาย ในช่วงสัปดาห์นี้ ก็ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 30 ราย
-ซาดิกซาเดได้ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์ตอนนี้มีความซับซ้อนมาก ไม่ว่าการโจมตีของอิสราเอลจะแม่นยำเพียงใด มันก็จะนำไปสู่การสังหารหมู่พลเรือนเป็นหลายพันคน และทำให้โลกมีปฏิกิริยาเชิงลบกับอิสราเอล สิ่งนี้ทำให้ชุมชนชาวยิวทั่วโลกมีความกังวล เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่า การกระทำของทางการอิสราเอล จะนำไปสู่การต่อต้านชาวยิว และการรุกรานชาติพันธุ์ของชาวยิวเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ แม้ว่าทางการจะอ้างว่า การโจมตีในราฟาห์ เป็นการมุ่งเป้าไปที่การกำจัดภัยคุกคามจากกลุ่มฮามาส แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เห็นได้ว่า เนทันยาฮูต้องการยืดเวลาความขัดแย้งเพื่อให้อยู่ในอำนาจ ซึ่งก็ด้วยเหตุผลดังนี้
-โดยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์กลุ่มฮามาสถล่มอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลกำลังประสบกับวิกฤตภายในอย่างร้ายแรงอันเนื่องมาจากข้อเสนอการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งการปฏิรูปนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจำกัดอำนาจของศาลฎีกา เป็นการทำให้ศาลต้องถูกยกเลิกความสามารถในการประเมินนโยบายของรัฐบาล และนับว่ามีนัยยะสำคัญต่อคดีทุจริตที่เนทันยาฮูกำลังเผชิญอยู่ เพราะหากระบบตุลาการอ่อนแอลง ก็อาจจะช่วยให้เนทันยาฮูหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษได้ สิ่งนี้ได้จุดชนวนให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือดและการประท้วงครั้งใหญ่
-ดังนั้น ความขัดแย้งในฉนวนกาซาจึงช่วยให้ทางการอิสราเอล หันเหความสนใจของประชาชนไปได้ โดยปัญหาด้านความปลอดภัยนั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับพลเมืองทุกคนในรัฐยิว นอกจากนี้ ในประวัติศาสตร์ความขัดแย้งของอิสราเอล ก็แสดงให้เห็นว่า ทุกครั้งที่มีการเผชิญหน้าด้วยอาวุธครั้งใหญ่กับกองกำลังปาเลสไตน์ ดินแดนปาเลสไตน์ก็จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมโดยพฤตินัยของอิสราเอลมากขึ้น ซึ่งก็อาจเป็นไปได้ว่า รัฐบาลกลุ่มขวาจัดในปัจจุบันของอิสราเอล ไม่เพียงแต่ต้องการแก้ไขวิกฤติภายในเท่านั้น แต่ยังต้องการขยายอาณาเขตของตนด้วยการยึดครองฉนวนกาซาด้วย
-อย่างไรก็ดี รัฐบาลอิสราเอลก็อาจจะคาดไม่ถึงว่า ปฏิบัติการทางทหารกับกลุ่มฮามาส จะทำให้เกิดเสียงสะท้อนในเวทีโลก แบบตีกลับ สิ่งนี้จึงทำให้เนทันยาฮูคาดหวังถึงการช่วยเหลือของสหรัฐ แต่เห็นได้ชัดว่า เนทันยาฮูมีความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับฝ่ายบริหารของพรรคเดโมแครตในสหรัฐมาตลอด แม้แต่กับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ดังนั้น เนทันยาฮูจึงอาจต้องการขยายสภาวะขัดแย้งนี้ออกไป เพื่อรอการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเนทันยาฮูคาดหวังที่จะเห็นการกลับมาทำเนียบขาวของโดนัลด์ ทรัมป์
-การที่เนทันยาฮูคาดหวังในตัวทรัมป์เป็นเพราะว่าเมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ว่า ตนไม่เชื่อในการแก้ไขความขัดแย้งปาเลสไตน์-อิสราเอล ผ่านการสถาปนาสองรัฐ ดังนั้น ตนจึงละทิ้งแนวคิดในการสนับสนุนความเป็นรัฐปาเลสไตน์ต่อสาธารณะ อย่างไรก็ดี ความหวังในตัวทรัมป์ก็มีความลดน้อยลงด้วย เนื่องจากทรัมป์ ได้ไปยกย่องนายเบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีสงครามของอิสราเอล ซึ่งถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของเนทันยาฮู และมีแนวโน้มที่จะขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปด้วย นอกจากนี้ ทรัมป์ยังพยายามที่จะไม่เอ่ยถึงเนทันยาฮูเกินความจำเป็น และยังพูดด้วยว่า มีคนดีๆมากมาย ที่สามารถทำงานนี้ได้ ซึ่งก็ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีสำหรับเนทันยาฮู
-นักวิเคราะห์ได้สรุปว่า เนทันยาฮูได้กลายเป็นตัวประกันให้กับความคิดของเขาเอง ทุกสิ่งบ่งชี้ว่า การเดิมพันของเขาอาจจะไม่ได้ผล และผลที่ตามมาจะรุนแรงมาก เนื่องจากพันธมิตรตะวันตกจำนวนมากแนะนำว่า เนทันยาฮูควรลาออกและมองว่าแกนต์ซ เป็นทางเลือกที่ดีกว่า อย่างไรก็ดี ก็ยังถือว่าเร็วไปที่จะตัดเนทันยาฮูออกไป เนื่องจากเขาก็ได้พิสูจน์มาแล้วหลายครั้งว่า เขาสามารถเปลี่ยนความล้มเหลวที่ร้ายแรงที่สุด ให้เป็นชัยชนะส่วนตัวได้ นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์จำนวนมากในตะวันออกกลางต่างก็เกรงกันอีกประการด้วยว่า เนทันยาฮูอาจกระตุ้นให้เกิดสงครามระดับภูมิภาคขนาดใหญ่กับอิหร่านด้วย

#บก.ข่าวทีวี

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น