นายกรัฐมนตรี นำทัพลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ลั่นเปิดเฟส 3 ในส่วนท่าเรือ F1 ได้ตามแผน พร้อมรับนักลงทุนต่างชาติ

นายกเศรษฐา​ ลงพื้นที่ตรวจราชการพื้นที่ก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง​ระยะที่​ 3 ชื่นชม​ กทท.​ -​ทุกส่วนงานร่วมมือเร่งรัดแผนดีเกินคาด​ เชื่อเปิดท่าเรือ​ F1​ได้ตามกำหนด​ พร้อมรองรับการลงทุนต่างประเทศ​ตามเป้าหมายรัฐบาล

วันที่ (23 มิถุนายน 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชลบุรี-ระยอง พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม และคณะฯ เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างท่าเรือ แหลมฉบังระยะที่ 3 ในส่วนงานก่อสร้างงานทางทะเล โดยมีนายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข ผู้อำนวยการ กทท. ผู้บริหาร กทท. ผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการฯ และผู้แทนกิจการร่วมค้า CNNC ร่วมให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี

นายเกรียงไกร ไชยศิริวงศ์สุข รายงานว่าการก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนงานที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเล มีกิจการร่วมค้า CNNC เป็นผู้รับจ้าง มูลค่างานรวม 21,320 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยงานถมทะเลทั้งหมดประมาณ 2,846 ไร่ หรือ 4.5 ล้านตารางเมตร งานขุดลอกร่องน้ำและแอ่งจอดเรือให้มีระดับความลึก 18.5 เมตร และงานเขื่อนกันคลื่น โดย กทท. ได้ออกหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้างเริ่มเข้าดำเนินการก่อสร้างเมื่อพฤษภาคม 2564 “ตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผมมารับตำแหน่งได้สั่งการทุกหน่วยงานเร่งรัดงานก่อสร้าง การบริหารสัญญา ซึ่งขณะนั้นยังมีความคืบหน้าน้อยมาก จนกระทั่งสามารถส่งมอบงานถมทะเลพื้นที่ 1 ได้เมื่อสิงหาคม 2565 และงานถมทะเลพื้นที่ 2 เมื่อตุลาคม 2566 ในช่วงที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้มาตรวจราชการและติดตามความคืบหน้างานก่อสร้างทางทะเล เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 มีความคืบหน้าเพียง 13.26% พร้อมได้สั่งการให้ กทท. เร่งรัดการก่อสร้างให้ทันตามแผน หลังจากนั้น กทท. ได้กวดขัน ติดตามการบริหารสัญญา และควบคุมการทำงานของผู้รับจ้างตามข้อสั่งการ รวมถึงนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แต่งตั้งคณะทำงานติดตามการก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 (ส่วนที่ 1) งานก่อสร้างงานทางทะเล เพื่อเร่งรัดการปฏิบัติงานในรายสัปดาห์และรายเดือน ซึ่งคณะทำงานฯ ได้มาตรวจติดตามเป็นประจำทุกเดือนและล่าสุดต้นเดือนมิถุนายน คณะกรรมการ กทท. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมพื้นที่ก่อสร้างและท่านปลัดกระทรวงคมนาคมในฐานะประธานกรรมการ กทท. ได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านวิศวกรรมเป็นการเฉพาะ เพื่อมากำกับงานด้านวิศวกรรมให้เป็นไปตามมาตรฐานและตามเงื่อนไขสัญญา เพื่อให้สามารถส่งงานการก่อสร้างได้ตามแผน จึงทำให้ในช่วง 7 เดือนสามารถเร่งรัดได้เนื้องานเพิ่มขึ้นกว่า 17%”

ผู้ควบคุมงานก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะ 3 รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการส่วนที่ 1 งานก่อสร้างงานทางทะเลว่า “ณ เดือนพฤษภาคม 2567 ดำเนินงานได้ 31.12% จากแผนปฏิบัติงาน 35.11% แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะดำเนินงานอย่างเต็มที่ แต่ยังคงล่าช้ากว่าแผน 3.99% ซึ่งผู้ควบคุมงานก็ได้จัดทำแผนเร่งรัดการปฏิบัติงาน โดยเพิ่มเครื่องจักรทางบก ทางน้ำ และแรงงานให้สัมพันธ์กัน เพื่อให้สามารถขุดลอก ได้มากกว่า 2,000,000 ลบ.ม. ต่อเดือน ตามเป้าหมาย ทั้งนี้ได้กำกับดูแลและควบคุมเร่งรัดการทำงานให้ ผู้รับจ้างมีผลงานโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3% ต่อเดือน”

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกรัฐมนตรี​ กล่าวหลังจากได้รับฟังรายงานความคืบหน้าว่า​ “เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ได้มาตรวจพื้นที่การก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 พบว่ามีความล่าช้ากว่าแผน แต่ในวันนี้ท่านรองนายกสุริยะ และท่านมนพร​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมได้ติดตามจนทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนเร่งรัด​ และความล่าช้าเหลือเพียงไม่ถึง 4% และคาดว่าจะสามารถ​ Catch Up ได้ภายในสิ้นปี​2568 การมาตรวจงานครั้งนี้เป็นการพูดคุยรายงานผล ปัญหาอุปสรรคกันอย่างตรงไปตรงมา ขณะนี้พบว่ามีปัญหาการขาดแคลนหินที่จะใช้ในการก่อสร้าง จึงสั่งการให้เร่งรัดแก้ไขโดยเร็วและขอเป็นกำลังใจให้กับผู้บริหาร​ กทท.​ และทีมงานผู้รับจ้างให้พยายามดำเนินงานทุกอย่างได้ตามแผนงานเพื่อพร้อมเปิดท่าเรือ​ F1 ตามกำหนด​

ด้านผู้อำนวยการ กทท. กล่าวเพิ่มเติมว่าจากปัจจุบันผลงานก่อสร้างของผู้รับจ้างยังมีความล่าช้ากว่าแผนฯ แต่ก็มีความคืบหน้าเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมั่นใจว่าการก่อสร้างงานทางทะเลจะดำเนินการแล้วเสร็จตามแผนภายในมิถุนายน 2569 รวมถึงจะไม่กระทบกับสัญญาของบริษัทเอกชนคู่สัญญาบริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด ที่ กทท. จะต้องมีการส่งมอบเฉพาะพื้นที่งานถมทะเลท่าเทียบเรือ F1 ปัจจุบันมีความคืบหน้าการถมไปกว่า 97% คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกรกฎาคม 2567 นี้ หลังจากนั้นจะมีเวลาอีกประมาณ 1 ปีเศษ ที่จะต้องการตรวจสอบการปรับปรุงคุณภาพพื้นที่ เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับบริษัท จีพีซี ได้ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568

สำหรับงานส่วนที่ 2 งานก่อสร้างอาคาร ท่าเทียบเรือ ระบบถนน และระบบสาธารณูปโภค ได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแล้วเสร็จเมื่อเร็วๆ นี้ โดยบริษัทไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาที่วงเงิน 7,298 ล้านบาท ซึ่งเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางประมาณ 160 ล้านบาท กทท. สามารถลงนามในสัญญาได้ภายในต้นกรกฎาคม 2567 สำหรับงานส่วนที่ 3 งานก่อสร้างระบบรถไฟ มูลค่า 799 ล้านบาท และส่วนที่ 4 งานจัดหาประกอบและติดตั้งเครื่องจักรอุปกรณ์สำหรับขนย้ายสินค้า พร้อมออกแบบประกอบและติดตั้งระบบเทคโนโลยีสำหรับบริหารท่าเรือและโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 2,257 ล้านบาท ทั้งสองส่วนอยู่ระหว่างการสรรหาผู้รับจ้างจัดทำเอกสารประกวดราคา คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในช่วงปลายปี 2567 นี้

โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการรองรับปริมาณตู้สินค้าที่จะเพิ่มขึ้น หากโครงการแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการจะสามารถรองรับปริมาณการขนส่งตู้สินค้าได้เพิ่มขึ้นอีก 7 ล้าน ทีอียูต่อปี ประกอบด้วยท่าเรือ F1 จำนวน 2 ล้าน ทีอียูต่อปี ท่าเรือ F2 จำนวน 2 ล้าน ทีอียูต่อปี ท่าเรือ E จำนวน 3 ล้าน ทีอียูต่อปี ซึ่งเมื่อรวมกับขีดความสามารถเดิมของท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 1 และ 2 ที่ 11 ล้าน ทีอียูต่อปี แล้วจะทำให้ท่าเรือแหลมฉบังมีขีดความสามารถในการรองรับตู้สินค้าได้ถึง 18 ล้าน ทีอียูต่อปี ซึ่งในส่วนนี้ จะทำให้เพิ่มปริมาณการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟและท่าเรือชายฝั่ง รวมถึงการเชื่อมโยงการขนส่งทางราง กับท่าเรือบกให้เพิ่มมากขึ้นด้วย เป็นการเพิ่มศักยภาพและรองรับการขยายตัวสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ การลงทุนของประเทศอย่างมหาศาล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ของภูมิภาค อีกทั้งช่วยสนับสนุนการลดต้นทุนการขนส่งโดยรวมของประเทศจากร้อยละ 14 ของ GDP เหลือร้อยละ 12 ของ GDP สอดรับนโยบายของรัฐบาลที่ตั้งเป้าหมายลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์มุ่งให้ไทย เป็นศูนย์กลางการขนส่งของภูมิภาคต่อไป

ภาพ/ข่าว จารุ สุขศรี ผู้สื่อข่าว ประจำ จ.ชลบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.จัด “กิจกรรมอารามอร่าม 11 วัด 1 โบสถ์พราหมณ์ 1 พิพิธภัณฑ์ ประดับไฟฉลองต้อนรับเทศกาลปีใหม่ 2568”
"นายกฯ" ตรวจสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ กำชับความปลอดภัย เข้มมาตรฐานคนขับรถ สร้างมั่นใจปชช.
งานเข้ารัวๆ ตร.แจ้งข้อหา "เอ็ม เอกชาติ" ปม "แบงค์ เลสเตอร์" ดื่มเหล้าจนเสียชีวิต
กระพือข่าวมั่ว สื่อกัมพูชาตีข่าว ชี้ “คนไทยคลั่งชาติ” คือภัยที่เขมรต้องเผชิญในปี 2025
ดราม่าร้อนระอุ สาวสวมชุดพยาบาล ปาร์ตี้ดื่มเหล้าในรพ. จี้ตรวจสอบผิดวินัยหรือไม่
คอมเมนต์เอกฉันท์ หลัง “พระ” ด้อยค่า “พีระพันธุ์” ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป
“ศศิกานต์” เผยจอดรถยนต์ฟรี สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ ตั้งแต่วันนี้-1 ม.ค. 68
เปิด MAP ส่อง “โรงงานว้า” ผลิตและจำหน่าย แห่ซูมภาพทำไมอยู่ในเขตไทย?
"เถ้าแก่น้อย" แจงชัดไม่เกี่ยวข้องร้านชาบูดัง หลังโซเชียลขุดภาพ คอนเทนต์แกล้ง "แบงค์ เลสเตอร์"
แตกอีกค่าย “กองทัพชิน” ประกาศชัย เปิดศึกถล่มทหารพม่าพ้นเมือง “มินดัท”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น