ญาติร้องสื่อขอความเป็นธรรม พี่ชายถูกจับเมาขับเข้าเรือนจำถูกรุมทำร้ายเสียชีวิต

เมื่อเวลา 17.36 น.วันที่ 25 มิถุนายน 2567 นายสัมฤทธิ์ บุญเชิด อายุ 39 ปี เดินทางมาติดตามคดีที่สภ.บางละมุง พร้อมกับนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังพี่ชายคือนายจรินทร์ บุญเชิด อายุ 46 ปึ ถูกดำเนินคดี ในข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำหนองปลาไหล แต่กลับถูก กลุ่มนักโทษ รุมทำร้ายร่างกายจน ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเศร้าโศกเสียใจและความ ครางแครงใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก รวมถึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงขอให้สื่อช่วยเป็นกระบอกเสียง
โดยนายสัมฤทธิ์ น้องชาย เล่ารายละเอียดว่า เมื่อ ช่วงเช้าของวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา นายจรินทร์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ซาเล้ง ไปเฉี่ยวชนกับคู่กรณี จนได้รับความเสียหาย ซึ่งกลุ่มญาติได้เดินทางเดินทางไปไกล่เกลี่ยกับผู้เสียหาย ส่วนนายจรินทร์ นั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองพัทยา ส่งตัวดำเนินคดีในข้อหาเมาแล้วขับ แต่เนื่องจากปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จึงไม่สามารถประกันตัวในชั้นโรงพักได้ เมื่อไปถึงชั้นศาล ได้มีคำตัดสินมีโทษจำคุก 21 วัน โดยได้ส่งตัวเข้าเรือนจำ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.
กระทั่งในค่ำคืนของวันที่ 19 มิ.ย.นายจรินทร์ ได้ทุกกลุ่มนักโทษรุมทำร้าย ตลอดทั้งคืน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยทางเจ้าหน้าที่เรือนจำได้พาส่งรักษาตัว ที่โรงพยาบาลบางละมุงในช่วงเช้า พร้อมทั้งแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสภ.บางละมุง ว่านายจรินทร์ ถูกกลุ่มนักโทษรวม 7-9 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมนำรายชื่อส่งให้พนักงานสอบสวน ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นเป็นผู้ต้องขังโทษคดียาเสพติดทั้งสิ้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในขณะที่นายจรินทร์ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางละมุง มีอาการเลือดออกในสมอง เจ้าหน้าที่พยายามรักษายื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ แต่ผู้บาดเจ็บทนบาดแผลไม่ไหว จึงเสียชีวิตในวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทางญาติก็พยามติดตามเรื่องของ การดำเนินคดี ซึ่งทางพนักงานสอบสวนยืนยันส่งฟ้องผู้ก่อเหตุทั้งหมด 9 ราย
ส่วนทางด้าน เจ้าหน้าที่ของเรือนจำ ยังมีการเปิดเผยถึงสาเหตุ ที่เกิดเหตุทำร้ายพี่ชายจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมไปถึงความปลอดภัยในการควบคุมดูแลนักโทษในเรือนจำแต่อย่างใด มีเพียงแจ้งหากทางพนักงานสอบสวนติดขัดหรือขาดหลักฐานใดให้ติดต่อที่เรือนจำได้ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยสาเหตุกับญาติแต่อย่างใด ซึ่งทางญาติคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดถึงที่สุดด้วย

 

ภาพ/ข่าว อนันต์ กิ่งสร ทิวากร กฤษมณี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สก.นภาพล" จี้ "ชัชชาติ" เร่งเคลียร์หนี้รถไฟฟ้าสีเขียว เสียดายภาระดอกเบี้่ยวันละ 5.4 ล้าน ควรใช้นำพัฒนากทม.
เวียดนามเริ่มเจรจาการค้าปมภาษีตอบโต้กับสหรัฐแล้ว
มูลนิธิมาดามแป้ง มอบอาหารและของใช้จำเป็น มูลค่า 100,000 บาท ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เมียนมา
ตำรวจทางหลวง จับมือ ซีพีเอฟ รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย ช่วงสงกรานต์ กับแคมเปญ 'หิวไม่ขับ พักเติมพลังกับไส้กรอกซีพี' พร้อมเสิร์ฟ ฟรี 2 จุดหลัก วังน้อย-วังมะนาว
ซีพี – ซีพีเอฟ หนุนโครงการ ‘สานใจไทย สู่ใจใต้’ รุ่นที่ 44 เสริมสร้างโอกาสการศึกษา พัฒนาความคิดและทักษะอาชีพแก่เยาวชนไทยรุ่นใหม่
บันเทิงไทยสู่เวทีโลก! ผู้ประกอบการไทยโชว์ผลงานเด่นใน FILMART 2025
จีนเตือนนศ.ประเมินเสี่ยงก่อนไปสหรัฐฯ
"รองผู้ว่าสตง." แจงกมธ.ที่มาตึกถล่ม คนงานเสียชีวิตมาก ทั้ง ๆ บริษัทจีนถูกยกเลิกสัญญาก่อสร้าง
ทรัมป์เผยอิสราเอลจะเป็นหัวหอกถล่มหากอิหร่านเมินดีล
ฮูตีเผยคลิปซากโดรน MQ-9 สอยร่วงลำที่ 18

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น