ค่ายเสื้อส้มปัดเล่นการเมืองหนุนหลัง “สว.”
ขณะที่ฝ่ายประชาธิปไตย ที่มี “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้าเจ้าของพรรคก้าวไกลตัวจริงเป็นหัวหอกฝ่ายประชาธิปไตย เริ่มรณรงค์หาแนวร่วมตั้งแต่เดือนมีนาคม ประกาศอุดมการณ์ชัดเจนว่า “อยากเห็นการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ อยากเห็นการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน และ อยากเห็นการแต่งตั้งองค์กรอิสระที่จะไปทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม” วางเป้าหมายต้องปั่นยอดผู้สมัครเครือข่าย “สว.ส้ม” อย่างน้อยต้องให้ได้ 1 แสนคน ขึ้นไปถึงจะมีลุ้น แต่พลาดเป้า!
นาทีสุดท้ายก่อนจะโหวตในรอบไฟนอล วันที่ 26 มิถุนายน “ธนาธร” ดึงสติ “สว.” ค่ายเสื้อส้ม ว่า กฎกติกาออกแบบมาให้เราแตกแยกกันเอง ทะเลาะเบาะแว้งกันเอง ไม่ไว้วางใจกัน ใครทรยศเพื่อนได้เข้ารอบ ได้เป็น สว. ในเวลาเช่นนี้เอง เป็นเวลาพิสูจน์ความเข้มแข็งของขบวนการประชาธิปไตย ว่าเราสามารถรวมกันป็นหนึ่ง ก้าวข้ามความเห็นแก่ตัว เสียสละเพื่อผลักดันวาระประชาธิปไตยได้หรือไม่
สอดรับกับการเคลื่อนไหวของ “พรรคก้าวไกล” โพสต์ข้อความผ่านโซเซียลมิเดีย การันตีว่า พรรคก้าวไกลไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการส่งผู้สมัคร หรือ ช่วยเหลือผู้สมัคร สว.คนหนึ่งคนใดหรือกลุ่มใดก็ตาม ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียง หากมีการอ้างถึงพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะด้วยวิธีการอย่างใดก็ตาม ขอให้ทราบว่านั่นคือการหลอกลวงแอบอ้าง
เป็นไปในทิศทางเดียวกับ “ยิ่งชีพ อัชฌานนท์” ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชา ชน (iLaw) ที่ขับเคลื่อนแคมเปญ สว.ประชาชน ได้โพสต์เฟซบุ๊คสรุปบทเรียนว่า หนึ่งในแนวร่วม “คณะก้าวหน้า” และ “ก้าวไกล” ออกมาแก้ข่าวพัลวัน ว่า ไม่ได้ดัน หรือ ส่งใครเป็นผู้สมัครสว. สาย iLaw
หวั่น “สว.บ้านใหญ่” ฟาดเรียบซ้ำรอย “สภาผัวเมีย” การเมืองล้วงลูกฝ่ายนิติบัญญัติ
ขณะที่คาดการณ์กันว่า สว.เครือข่ายบ้านใหญ่ จะเข้าวินมากที่สุด เพ่งเล็งไปที่ระดับหัวกะทิ อาทิเช่น สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายก น้องเข “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีเจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ตัวเต็งประธานสภาสูงคนถัดไป จึงทำให้บรรดานักสังเกตการณ์ทางการเมืองต่างหวั่นเกรงปรากฎการณ์ในอดีตจะตามมาหลอน ! “สภาผัวเมีย” กล่าวคือฝ่ายการเมืองเข้ามาครอบงำการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ เพราะอย่าลืมว่า สว.ชุดใหม่ แม้ไม่มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีก็จริง แต่ยังมีอำนาจอื่นที่น่าเกรงขาม
1. การพิจารณาและกลั่นกรองกฎหมาย
-การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ร่าง พ.ร.บ.ทั่วไป และร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับงบประมาณรายจ่าย
-การอนุมัติพระราชกำหนด พระราชกำหนดทั่วไป พระราชกำหนดเกี่ยวด้วยภาษีอาการหรือเงินตรา
-การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ
2. ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
-การตั้งกระทู้ถาม
-การเปิดอภิปรายทั่วไปวุฒิสภา
-การเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมรัฐสภา
-การตั้งกรรมาธิการ
3. การให้คำแนะนำหรือให้ความเห็นชอบ ให้บุคคลดำรงตำแหน่ง ในองค์กรอิสระ องค์กรตุลาการ
-ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
-คณะกรรมการการเลือกตั้ง
-ผู้ตรวจการแผ่นดิน
-คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
-คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง.
-คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ตามกติการัฐธรรมนูญ กำหนดให้มีสมาชิกวุฒิสภา ดำรงตำแหน่งคราวละ 5 ปี เป็นได้วาระเดียว ดังนั้นวันที่ 26 มิถุนายน เป็นการคัดเลือกในด่านสุดท้าย ระดับประเทศ หากกระบวนการผ่านพ้นไปได้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จะประกาศผล ผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นสว.200 คน และ 100 คน สำหรับตัวสำรอง หากตัวจริงขาดคุณสมบัติ หรือ สละสิทธิ์ น่าจะประกาศผลออกได้ในวันที่ 2 กรกฎกาคมนี้
