“ผู้การแต้ม” แจงปมวิจารณ์วงการสีกากี ไม่หวั่นโดนฟ้อง ย้ำความเห็นเป็นข้อ กม. ไม่ได้ว่าใครผิด

"ผู้การแต้ม" แจงปมวิจารณ์วงการสีกากี ไม่หวั่นโดนฟ้อง ย้ำความเห็นเป็นข้อ กม. ไม่ได้ว่าใครผิด

Top news รายงาน “รองแต้ม” พลตำรวจตรีวิชัย สังข์ประไพ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ ถึงประเด็นที่อาจจะเป็นบุคคลที่เข้าข่ายถูกฟ้องร้องจากกรณีที่ออกมาให้ความเห็นถึงปัญหา และสถานการณ์ความขัดแย้งในองค์กรตำรวจ ว่า

ทุกวันนี้ ประชาชนไม่เชื่อมั่นตำรวจ ไม่ศรัทธาตำรวจ และไม่ไว้ใจตำรวจ เพราะสิ่งที่ปรากฏมาทุกวันนี้ มองว่าประชาชนพึ่งตำรวจไม่ได้ และตำรวจเอง ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนได้ ซ้ำแล้วยังเป็นผู้ก่อเหตุ กระทำความผิดเสียเอง ทำให้ประชาชนเรียกร้องให้ต้องมีการปฏิรูป และแก้ไของค์กรตำรวจ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม ในองค์กรตำรวจที่มีกว่า 2 แสนนายนั้น มีทั้งคนดี และไม่ดี ซึ่งคนที่กระทำความผิดนั้น มี แต่ไม่เยอะ ซึ่งประชาชนให้ความสนใจ และปัจจุบันการตรวจสอบทำได้รวดเร็ว ซึ่งมองว่าการปฏิรูปตำรวจนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำให้เร็วที่สุด เพื่อให้เป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งการปฏิรูปการทำงานไม่ต้องไปผ่านสภาฯ หรือนายกฯ อยู่ที่ผู้นำองค์กรสามารถสั่งการ และดำเนินการได้เลย ซึ่งผู้นำต้องทำตัวเป็นแบบอย่าง เพราะถ้าหัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก

ส่วนเรื่องที่ตนเองออกมาให้ความเห็นในเรื่องการทำงาน และการปฏิรูปตำรวจนั้น ก็เป็นเรื่องข้อกฎหมายทั้งหมด ไม่ได้ว่าใครผิด ใครชั่ว ใครเลวเลย ตนเองมีจุดยืนชัดเจนด้วยความหวังดี และต้องการเห็นองค์กรตำรวจเป็นที่พึ่งได้ของประชาชนอย่างแท้จริง และไม่หวั่นหากจะถูกฟ้องร้อง เพราะมีเจตนาที่สุจริตในการให้ความเห็นผ่านสื่อทุกครั้ง โดยไม่มีจุดประสงค์ที่จะเข้าข้างใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

 

ส่วนในประเด็นคำสั่งที่ลงนามโดยพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะรักษาราชการแทน ผบ.ตร. เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ให้พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ มาตรา 131 นั้น รองแต้ม เห็นว่า เป็นคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ซึ่งในวันนี้ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ซึ่งจะประชุมในประเด็นการให้ออกจากราชการของบิ๊กโจ๊ก ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งผลการตัดสินในครั้งนี้จะเป็นการวางไปสู่อนาคต และการวางบรรทัดฐานในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจต่อไป

ทั้งนี้ รองแต้ม ยังมองว่า การที่พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ในฐานะตำรวจที่โดนคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ก็สามารถร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมไปยังคณะกรรมการ พิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งมีอำนาจรับเรื่องร้องเรียนจากตำรวจทุกระดับทั่วประเทศ แต่ถ้า ก.พ.ค.ตร. เห็นด้วยกับคำสั่งให้ออกจากราชการ บิ๊กโจ๊ก ก็ยังสามารถไปร้องต่อศาลปกครองสูงสุดได้อีก

อย่างไรก็ตาม รองแต้ม ยังได้ย้ำด้วยว่า ในทางคดี ถือว่าพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษา แต่ประเด็นที่ยังเป็นข้อถกเถียงกันในสังคมคือ ประเด็นเรื่องข้อกฏหมาย และการลงโทษทางวินัยของข้าราชการตำรวจ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ซีพีเอฟ โดย JerHigh พร้อมเคียงข้าง "ชุดปฏิบัติการสุนัข K9" ฮีโร่ 4 ขา ในภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต จากเหตุแผ่นดินไหว
"อนุทิน" ไม่ติดใจพรรคร่วมฯ ส่งแข่ง "ภท." ชิงเลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีฯ เขต 8
เมียช่างเหล็ก เล่าทั้งน้ำตา ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตหลังเกษียณกับสามี ทำได้เพียงนำร่างกลับภูมิลำเนา
MEA ลงพื้นที่ตรวจสอบความปลอดภัยระบบไฟฟ้า บริเวณจุดเกิดเหตุอาคารถล่ม ย่านจตุจักร
จนท.เจอสัญญาณชีพอีก 1 คน ใต้ซากตึกสตง.ถล่ม เร่งค้นหาต่อเนื่อง แม้ครบ 72 ชม.
“ซาบีดา” นำทีมตรวจอาคารเอ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ หลังคนอพยพอลหม่าน
ร่างเหยื่อพม่าล้น รอเผาอื้อ-เร่งค้นหาร่างพระพม่า ขณะห้องสอบพังถล่ม
“อธิบดี ปภ.-ชัชชาติ” แถลงยันเหตุการณ์ปกติ ขอปชช.อย่าตื่นตระหนก หลังหลายอาคารอพยพคน
ศาลอาญา สั่งจำคุก 1 ปี "สิระ" ไม่รอลงอาญา สมัครเลือกตั้งโดยรู้มีคุณสมบัติต้องห้าม
"3 บริษัทประกันภัย" ยันสถานะการเงินไม่กระทบ พร้อมรับผิดชอบเหตุตึกสตง.ถล่มตามสัญญา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น