logo

บ้านจน จบแค่ชั้น ป.6 พ่อขับแท็กซี่ ชีวิตล้มลุกคลุกคลาน สู่การสร้างแบรนด์ “หงส์ไทย” ติดตลาด

เบื้องหลังชีวิตจริง CEO "หงส์ไทย" กว่าจะมีวันนี้ได้ บ้านฐานะลำบาก พ่อขับรถแท็กซี่ ชีวิตพลิกผันตอนมาเป็นทหารเกณฑ์ ชอบทำมาค้าขาย สุดท้ายเริ่มต้นทำ "พิมเสนน้ำ" ส่งตามร้านค้า ปั้มน้ำมัน ล้มลุกคลุกคลาน ล้มเลิกไปหลายหน จนกลายมาเป็น "สมุนไพรไทย หงส์ไทย"

ถือเป็นสูตรสำเร็จของการสู้ชีวิตที่เริ่มต้นนับ 1 จากครอบครัวที่มีต้นทุนน้อย เป็นลูกคนขับแท๊กซี่หาเช้ากินค่ำ เรียนจบชั้นการศึกษาแค่ ป.6 แต่มีวันนี้ได้เพราะความจริงใจ ซื่อสัตย์ และ ไม่โกง นั้นก็คือชีวิตเมื่อครั้งวันวานของ “คุณธีระพงศ์ ระบือธรรม” ผู้ก่อตั้งและเจ้าของ บจก. สมุนไพรไทย หงส์ไทย ที่ได้มาแชร์ประสบการณ์ ถ่ายทอดแนวความคิด เผยกลยุทธ์เคล็ดลับความสำเร็จ ในเวทีทอล์ค Vision Talk 2024 ชัยภูมิ ที่จัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และ TOP NEWS โดยมีนักศึกษากว่า 400 คนเข้าร่วมฟังกันอย่างคึกคัก ซึ่งนอกจาก “คุณธีระพงศ์” จะนำผลิตภัณฑ์มาแจกในงานแล้ว ยังใจดีแจกรางวัลพิเศษเป็นขวัญถุงให้น้องๆไปเป็นทุนการศึกษา หลังเข้าร่วมกิจกรรม ถามคำถามในช่วง Q&A ท้ายงานอีกด้วย

 

หงส์ไทย

 

คุณธีระพงศ์ ระบือธรรม ยังแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความยากลำบากในวัยเด็ก กว่าจะมาเป็นผู้บริการ บจก. สมุนไพรไทย หงส์ไทย ให้นักศึกษาฟังไว้ได้อย่างน่าสนใจมาก

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เรียนจบแค่ ป.6 บ้านจน พ่อขับแท๊กซี่ แม่ไม่มีรายได้

ความสำเร็จของเราข้อแรกเลยมาจากการที่เราอยู่ในครอบครัวที่ลำบาก พอเกิดมามันทำให้เราได้รู้ ทำให้เราได้เลือก ทำให้เราได้เห็น และสิ่งหนึ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ เราต้องเข้าใจมัน อย่างผมเองออกมาทำงานตั้งแต่อายุ 12ปี เพราะเราเข้าใจแล้ว เราเคยเห็นพ่อเรา เคยเห็นแม่เรา พ่อผมขับรถแท็กซี่หาเงินคนเดียว ส่วนแม่ไม่ได้ทำงาน เลี้ยงลูกอยู่บ้าน วันนึงผมเห็นพ่อผมตอนป่วย แล้วเราก็เห็นซ้ำแล้วซ้ำอีก ถามว่า พ่อเราเคยไปเที่ยวมั้ย มีอารมณ์ที่จะไปช็อปปิ้งมั้ย ไม่มี เห็นภาพอย่างเดียวคือพ่อออกไปทำงาน กลับมาซื้อของเข้าบ้าน เราก็เห็นแบบนี้ตั้งแต่เด็ก เห็นว่าพ่อลำบาก เลยอยากจะช่วยพ่อตั้งแต่ตอนนั้น

 

 

“กลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้ที่ไม่ได้เรียน เพราะผมเรียนแค่ ป.6 แต่สิ่งนึงที่มันทำให้เราได้เรียนรู้คือ เรียนรู้ความจริง เพราะความจริงมันกำลังบอกเราว่า เรากำลังศึกษาเทียบเท่านักเรียน เพราะได้เจอกับประสบการณ์จริงที่สังคมกำลังสอนเราอยู่ สอนทั้งความลำบาก สอนทั้งความไม่รู้ สอนทั้งความจริงของความเข้าใจ ชอบไม่ชอบ ถูกใจไม่ถูกใจ กระบวนการพวกนี้มันมาจากการทำงานหมดเลย และการทำงานที่ผ่านมาทั้งหมด มันทำให้เราได้เลือก แล้วสิ่งที่เราเลือกมันจะถามเราว่าถูกหรือผิด และเมื่อรู้ว่ามันผิด เราก็อย่าไปทำมันซ้ำ แต่เราก็กลับมาทำใหม่เพื่อทำให้มันถูก ชีวิตผมมีเท่านี้”

 

 

จุดเริ่มต้นชอบการค้าขาย เพราะเคยเป็นทหารได้คุมร้านค้า ทำกำไรอู้ฟู่

“ที่สุดของมันก็คือการที่ผมมาเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี ไปค้นพบความสุข ของคำว่าเชื่อในหน้างาน นั้นก็คือการค้าขาย เพราะตอนนั้นเค้าไหว้วานให้ผมไปคุมร้านค้าเล็กๆ ขนาด 2 เมตร 50 คูณ 2 เมตร 50 ซึ่งมันเล็กมาก แต่จะเล็กหรือใหญ่ มันไม่สำคัญ มันสำคัญที่โอกาส ที่เราได้รับหน้าที่ไปขายของให้กับเพื่อนทหาร จุดนึงตรงนั้นมันเป็นจุดประกายแห่งการค้นหาพรสวรรค์ สิ่งที่จุดประกายให้เราคือ “ปาก” ปากคือการพูด พูดแล้วทำให้เรามีความสุข ได้พูดขายของให้เพื่อน ค้นหาของต่างๆนาๆที่เพื่อนต้องการ บริหารจัดการแบบตรงไปตรงมา มันก็สร้างให้เราอยู่กับความสุข และผมก็คุมร้านค้าอยู่จนจบ 2 ปี เลย ไม่ได้ออกไปฝึก เพราะเราคือคนที่สร้างสวัสดิการให้กับร้านค้า และบริหารได้ประสบความสำเร็จ มียอดรายรับที่สูง ได้กำไรมากกว่าสหกรณ์ ที่ผมทำได้แบบนี้ เพราะผมไม่โกง”

 

เริ่มต้นทำพิมเสนน้ำส่งขาย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

พอจบจากการเป็นทหารมา ก็ไปตระเวนสมัครงานแต่ไม่มีคนรับ เพราะผมต้องการเป็นเซลล์ แต่ผู้สัมภาษณ์บอกว่าผมไม่มีคุณสมบัติเป็นเซลล์ ในขณะที่บางบริษัท เค้ารับเรา แต่กลายเป็นการขายของโกหกลูกค้า ก็ไม่ใช่ทางเรา ก็เลยไม่ทำ เพราะผมเชื่อว่าการทำอะไรก็แล้วแต่มันต้องมีความซื่อสัตย์ มันถึงจะมีความสุข ปลดจากทหารมา ผมขับรถคิวก็ไม่พอ ตระเวนขายแคปหมูน้ำพริกก็ไม่พอ ก็เลยหาอาชีพเสริมโดยการไปเรียนรู้ทำพิมเสนน้ำ ตอนนั้นเรายังคิดไม่เป็น คิดไม่ได้ ที่สุดแล้วคือ เราขายได้แต่ขายได้น้อย ก็เลยหยุดขายไป

 

 

“สุดท้าย อายุ 24 ปี ไปโดนรถชนได้หยุดพัก ไป 2 เดือน เลยมานั่งคิดใหม่ในการทำพิมเสนน้ำรอบที่ 2 แล้วนำไปส่งตามปั้มน้ำมัน ตามถนนใหญ่ เปลี่ยนรูปแบบ พัฒนาความคิดใหม่ จากเดิมที่เราเคยคิดง่าย เปลี่ยนมาเป็นคิดใหม่ให้มันไม่เหมือนเดิม  และทำให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น เพราะเราทำส่งเป็นของชำร่วยด้วย ถือว่าก็ผลิดไม่ทันเหมือนกันในช่วงนั้น แต่มีปัญหาเรื่องราคาสินค้า เพราะร้านค้าที่รับต่อเราไปกดราคา เมื่อสินค้าต้นทุนต่ำ เราก็ทำให้มันคุณภาพดีไม่ได้ตามสูตร ร้านค้าก็เลยไม่รับซื้อของเรา ไปซื้อร้านที่ถูกกว่า จนเราต้องยุติการขายพิมเสนไปรอบที่ 2 “

 

 

 

สุดท้ายกลายเป็นเจ้าของ “หงส์ไทย” ที่ใครๆ ก็รู้จักทั่วประเทศ

ต่อมาก็ได้ไปตระเวนทำงานแบบเป็นเรื่องเป็นราว สุดท้ายก็มีเหตุให้ออกจากงาน ก็เลยมา สอบถามที่ปั้มน้ำมันว่า ยังมีลูกค้านิยมพิมเสนอีกมั้ย ซึ่งก็น่าชื่นใจที่เค้าบอกว่ายังมีลูกค้ามาถามหาพิมเสนของเราอยู่ แม้จะหยุดผลิตไป 2 ปี ตรงนี้มันทำให้รู้สึกว่าเราเจอจิ๊กซอว์ตัวแดง ทำอะไรออกมาดีๆ แล้วไม่มีวันตาย เหมือนปลุกชีวิตให้ตื่นขึ้น และคำเรียกร้องของลูกค้ามันเป็นกำลังใจทำให้เราต้องพยายามทำสินค้าให้ดีที่สุด จนกระทั่งวางแผนใหม่ครั้ง ที่ 3 จนกลายมาเป็น “หงส์ไทย” ทุกวันนี้ ด้วยคำเดียวเลยคือ “ทำอะไรออกมาดีๆแล้วไม่มีวันตาย”

 

 

 

 

 

 

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ใน Vision Talk session 2: Change to Chance การบริหารโอกาสสู่เส้นชัยด้วยความสำเร็จที่ออกแบบได้ 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อิสราเอลขู่ทำลายล้างอิหร่าน
ยอดวิว “ร้อคสตาร์” ของลิซ่าทะลุ 45 ล้าน
ตำรวจเซอร์เบียยิงดับคนร้ายก่อเหตุหน้าสถานทูตยิว
หนุ่มใหญ่โชว์เหนือจับงู พลาดถูกกัดเจ็บ แจ้งกู้ภัยฯช่วย
สืบสวนพัทยาซุ่ม 3 คืน รอรวบหัวขโมย จับได้ชาวบ้านแค้นกระทืบยับ
“แม่เชื่อมจิต” จ่อพบผอ.ปมแชทครูหลุด เล็งให้ลูกออกมาเรียนคนเดียวที่บ้าน
"อาจารย์อุ๋ย" ชี้ตรงประเด็น เจตนารมย์รธน.ต้องการให้ปชช.มีส่วนร่วมวุฒิสภา เตือนอย่ายัดเยียดสีเสื้อตัดสินผลงาน
ฉะเชิงเทรา อาชีวศึกษาจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ 1 วิทยาลัย 1 ครูอนามัย
เกิดเหตุระเบิดหน้าแฟลตตำรวจ สภ.บันนังสตา ยะลา พบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย
"บิ๊กแจ๊ส" เดินทางใช้สิทธิ เลือกนายกฯอบจ.ปทุมธานี ย้ำกำลังใจดี แต่เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ เพราะได้ยินเสียงหมาหอน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น