จะเด็กกรุงเทพฯ หรือ เด็กต่างจังหวัด “ทุกคน” ต้องได้รับโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียม
ข่าวที่น่าสนใจ
จบลงไปแล้วอย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ สำหรับงาน “Vision Talk 2024 ชัยภูมิ” ครั้งที่ 1 ที่จัดขึ้น ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ โดยความร่วมมือระหว่าง กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ บริษัท ท็อปนิวส์ ดิจิตัล มีเดีย จำกัด
โดยภายในงาน “นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ได้ขึ้นกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการและกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “สร้างโอกาสการเรียนรู้สู่เส้นชัยความสำเร็จ”
“ขอบคุณคณะผู้จัดทำโครงการ ที่ได้จัดงานนี้ขึ้นมา ต้องบอกว่าดิฉันเองเป็นคนชัยภูมิ จากประสบการณ์ในการทำงานที่ผ่านมา สิ่งที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่คิดว่าพอที่จะบอกน้องๆได้นั้นก็คือประสบการณ์ที่เราได้ออกไปเรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ที่เราอยากจะเป็น ต้องบอกว่าความฝันของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และปัจจุบันโลกของเราเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เมื่อก่อนเวลาจะมีการเปลี่ยนผ่านตามยุคต่างๆต้องใช้เวลาวางแผน 5ปี 10ปี 15ปี แต่ปัจจุบันพวกเราทุกคนทราบว่ามันไม่ใช่แล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปเพียงข้ามคืน เพราะว่าเรามีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามา”
นางสาวสุชาดา บอกด้วยว่า ฉะนั้นการศึกษาความรู้ก็ควรมีแบบแผนที่เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งท่านศุภมาส อิศรภักดี กระทรวงอุดมศึกษาวิทยาศาตร์วิจัยและนวัตกรรม ท่านพูดเสมอว่า ท่านต้องการทำให้การศึกษาของประเทศไทย มีการศึกษาที่เท่าเทียมกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่อยู่ต่างจังหวัดหรือคนที่อยู่ในกรุงเทพ ทุกๆคนต้องได้การศึกษาและโอกาสที่เท่าเทียมกัน อย่างในช่วงที่ผ่านมา เมื่อน้องๆเข้ามาอยู่ในมหาวิทยาลัยแล้วก็อาจจะไม่ได้ติดตามข่าวในเรื่องของทีแคส ซึ่งเมื่อก่อนทุกคนต้องจ่ายค่าสมัครสอบคัดเลือก แต่หลังจากที่ ท่านศุภมาส มานั่งตำแหน่งรัฐมนตรี ก็สั่งไม่ให้มีการจ่ายค่าสมัครสอบคัดเลือก เพื่อที่จะเป็นจุดที่ทำให้น้องๆทุกคนเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียม ทุกคนสามารถเลือกอันดับได้ทั้ง 10 อันดับ มันแสดงให้เห็นถึงนโยบายที่มีพลัง และทำให้เป็นนโยบายที่แก้จุดในการเข้าถึงการศึกษา อย่างจริงจัง และท่านรัฐมนตรีก็จะทำต่อไป
“นอกจากเรื่องการศึกษาระดับพื้นฐานแล้ว เราก็ต้องการส่งเสริมเรื่องการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้ที่ไม่ควรหยุดอยู่ในห้องเรียน ถึงได้มีงาน Vision Talk ในวันนี้ หลายๆคนมีความฝันอยากเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรผิดเลยเพราะ อินฟลูเอนเซอร์ ให้เงินเยอะมาก บางคนมีความฝันอยากเป็นเชฟ ทุกคนมีความฝัน มีความกล้าที่จะฝันมากขึ้น เหมือนเมื่อก่อนคุณพ่อดิฉันก็อยากให้เป็นหมอ อยากให้เป็นอาจารย์ ตัวดิฉันคิดภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าจะเป็นหมอได้ยังไงก็เลยไปเรียนวิศวะ ซึ่งก็เรียนไปปวดหัวไปเหนื่อยมาก แต่วันนนี้ดิฉันเชื่อว่าน้องๆทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ มีความเก่งมากกว่าพวกพี่ๆในสมัยก่อน เพราะมีการเข้าถึงเทคโนโลยี มีความกล้า มีความอยากรู้ มีความอยากที่จะเป็น และมีไดเรคชั่นชีวิตของตัวเองค่อนข้างชัดเจนมากกว่า”
ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในลิงค์นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง