สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐ 2 รายที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ระหว่างสงครามเริ่มต้นเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จนถึงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งอาวุธจำนวนมากให้อิสราเอล โดยมีทั้งระเบิด MK-84 หนัก 2,000 ปอนด์ อย่างน้อย 14,000 ลูก, ระเบิด 500 ปอนด์ จำนวน 6,500 ลูก, ขีปนาวุธนำวิถีทางอากาศสู่พื้นดินอย่างแม่นยำ 3,000 ลูก, ระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ 1,000 ลูก, และระเบิดขนาดเล็กที่ทิ้งกลางอากาศอีก 2,600 ลูก รวมถึงอาวุธยุทโธปกรณ์อื่นๆด้วย
ทั้งนี้ แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะไม่ได้ระบุลำดับเวลาสำหรับการขนส่ง แต่ผลรวมทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า การสนับสนุนทางทหารของสหรัฐสำหรับพันธมิตรของตัวเองอย่างอิสราเอล ไม่มีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญเลย แม้ว่าจะมีการเรียกร้องระหว่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ให้จำกัดการจัดหาอาวุธให้อิสราเอล รวมถึงการตัดสินใจของฝ่ายบริหารเมื่อเร็วๆ นี้ด้วย ที่ให้ระงับการจัดส่งอาวุธที่ทรงพลังและระเบิด จำนวนการส่งมอบที่ไม่เคยมีการรายงานมาก่อนเช่นนี้ ถือเป็นข้อมูลล่าสุดและครอบคลุมที่สุดของอาวุธที่จัดส่งไปยังอิสราเอล นับตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น
ขณะที่ ทอม คาราโก ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการต่างประเทศของสหรัฐ ได้แสดงความเห็นว่า เนื้อหาของการขนส่งนี้ ดูเหมือนจะสอดคล้องกับสิ่งที่อิสราเอลต้องการ เพื่อเติมเต็มเสบียงที่ใช้ในการปฏิบัติการทางทหารที่เข้มข้นยาวนานกว่า 8 เดือน โดยแม้ว่าตัวเลขเหล่านี้อาจถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วในความขัดแย้งครั้งใหญ่ แต่รายชื่อนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการสนับสนุนอย่างมากจากสหรัฐ สำหรับพันธมิตรอย่างอิสราเอล อาวุธที่ระบุไว้เป็นประเภทที่อิสราเอล เตรียมจะใช้ในการต่อสู้กับกลุ่มฮามาส หรือที่อาจเกิดความขัดแย้งกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์
นอกจากนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ยังรายงานอีกด้วยว่า สหรัฐกำลังหารือกับอิสราเอล เกี่ยวกับการปล่อยระเบิดขนาดใหญ่ที่ถูกระงับไว้เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยตอนนั้นที่ระงับ เพราะมีความกังวลเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์ ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ระงับการจัดส่งระเบิดขนาด 2,000 ปอนด์ โดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในฉนวนกาซา ซึ่งระเบิดขนาด 2,000 ปอนด์ลูกหนึ่งนั้น สามารถทำลายคอนกรีตและโลหะหนาได้ รวมถึงทำให้เกิดรัศมีการระเบิดในวงกว้างด้วย อย่างไรก็ดี ทางสหรัฐก็ยืนยันว่า การส่งมอบอาวุธอื่นๆ ทั้งหมด จะต้องดำเนินการตามปกติ
ทั้งนี้ แม้ว่าสหรัฐจะให้รายละเอียดและปริมาณความช่วยเหลือทางทหารที่ส่งไปยังยูเครน แต่รัฐบาลกลับเปิดเผยรายละเอียดที่น้อยมาก เกี่ยวกับขอบเขตทั้งหมดของอาวุธและกระสุน ที่สหรัฐส่งไปยังอิสราเอล โดยการขนส่งนั้น ค่อนข้างยากต่อการติดตาม เนื่องจากอาวุธบางส่วนถูกจัดส่งไปในฐานะส่วนหนึ่งของการขายอาวุธ ที่สภาคองเกรสอนุมัติไว้เมื่อหลายปีก่อน แต่เพิ่งจะมาดำเนินการได้ในตอนนี้
สำหรับสหรัฐนั้น ในแต่ละปี จะส่งมอบความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่อิสราเอล พันธมิตรที่คบหากันมายาวนาน แม้ว่าไบเดนจะคอยเตือนว่า สหรัฐจะกำหนดเงื่อนไขในการช่วยเหลือทางทหาร หากอิสราเอลล้มเหลวในการปกป้องพลเรือน และต้องยอมให้มีความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซาเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี การสนับสนุนอิสราเอลของไบเดนในการทำสงครามกับฮามาส กลายเป็นความรับผิดชอบทางการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนหนุ่มสาวที่สนับสนุนพรรคเดโมแครต สิ่งนี้ได้กระตุ้นให้เกิดกระแสการประท้วงต่อไบเดนในการเลือกตั้งขั้นต้น และผลักดันให้เกิดการประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ในมหาวิทยาลัยทั่วทั้งสหรัฐ
