วันนี้ (15 กันยายน 64) หลังจากที่วานนี้ มีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์ในเฟซบุ๊คชื่อ Xiang Hong เล่าเรื่องราวเตือนภัย หลังถูกแก๊งมิจฉาชีพโทรศัพท์ติดต่อมาหา อ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทขนส่งเอกชนชื่อดัง แจ้งว่าพัสดุที่ส่งไปเป็นพาสปอร์ตปลอม 13 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 9 ใบ และเสื้อผ้าอีกจำนวนหนึ่ง ถูกศุลกากรยึดไว้ที่สนามบินเนื่องจากเป็นพาสปอร์ตปลอม ขณะกำลังจัดส่งไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน จึงได้ปฏิเสธไปว่าไม่ได้เป็นคนส่ง
โดยชายที่อ้างเป็นพนักงานขนส่ง แนะนำให้แจ้งตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมโอนสายไปให้กับอีกคนที่อ้างตัวเป็นร้อยเวร โดยคนที่สองนี้บอกให้แอดไลน์ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมโทรคุยและบันทึกเสียงเพื่อให้ปากคำลงบันทึกประจำวัน โดยบอกจะทำการอัดเสียงไว้เพื่อเป็นหลักฐานทางราชการ
จากนั้นได้ให้ไปติดต่อไปคุยกับสารวัตรหญิงอีกคนหนึ่ง บอกว่าจะช่วยให้เป็นผู้บริสุทธิ์สอบถามว่ามีบัญชีธนาคารกี่บัญชี และมีจำนวนเงินเท่าไหร่ และบอกให้โอนเงินสองแสนบาทไปให้เพื่อตรวจสอบ และห้ามบอกคนรอบข้างเป็นเวลา 7 วันตนเองเลยขอเปิดกล้อง แต่ปลายสายก็ไม่ยอมเปิด จึงรู้ตัวว่าถูกหลอก
หญิงสาวเจ้าของเรื่อง บอกว่า ได้โทรศัพท์ไปสอบถามที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่บอกทันทีว่าถูกหลอกอย่าหลงเชื่อ ไม่มีตำรวจตามที่กล่าวอ้าง ที่ผ่านมามีคนโทรมาถามวันละหลายราย จึงนำเรื่องนี้มาโพสต์เตือนภัยไม่ให้ใครหลงเชื่อ
ด้าน พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ช่วง 1-2 เดือน ที่ผ่านมา พบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ทักแชทไปหลอกลวงประชาชนหลายสิบรายให้โอนเงิน โดยสร้างเรื่องข่มขู่ให้ผู้เสียหายหวาดกลัว อ้างว่าตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่จะถูกจับกุมดำเนินคดี พฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะโทรศัพท์หรือส่งข้อความไปหาผู้เสียหาย แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ศุลกากร หรือ ปปส. ได้อายัดพัสดุที่ภายในมีสิ่งของผิดกฎหมายทั้งพาสปอร์ต ยาเสพติดและสินค้าหนีภาษี ซึ่งถูกกำลังจะถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยพัสดุมีชื่อของผู้เสียหายเป็นผู้ส่ง จากนั้นจะใช้บัญชีไลน์ที่มีชื่อและภาพโปรไฟล์เป็นตำรวจ มีทั้ง สารวัตร ผู้กอง และ ร้อยเวร ติดต่อไปในไลน์ของเหยื่อตามเบอร์โทรศัพท์ของผู้เสียหาย พร้อมเสนอความช่วยเหลือ โดยให้โอนเงินเพื่อถอนอายัดของกลางและเคลียร์คดีให้ก่อนที่เรื่องจะถึงพนักงานสอบสวน
จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพจะเลือกเหยื่อที่อยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ห่างไกลจากจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เสียหายเข้าไปติดต่อที่โรงพักได้ง่าย ๆ ส่วนหมายเลขโทรศัพท์ของผู้เสียหาย คาดว่าจะซื้อมาจากกลุ่มขายประกันชีวิต โดยช่วงเดือนที่ผ่านมามีผู้เสียหายโทรศัพท์มาสอบถามที่โรงพักแล้วกว่าสิบราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำไปแล้วว่าอย่าหลงเชื่อโอนเงิน นอกจากนี้สามารถแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลการกระทำผิดผ่านสายด่วน ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมและความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ANSCOP) หมายเลข 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง