“อาจารย์อุ๋ย” ชี้ตรงประเด็น เจตนารมย์รธน.ต้องการให้ปชช.มีส่วนร่วมวุฒิสภา เตือนอย่ายัดเยียดสีเสื้อตัดสินผลงาน

"อาจารย์อุ๋ย" ชี้ตรงประเด็น เจตนารมย์รธน.ต้องการให้ปชช.มีส่วนร่วมวุฒิสภา เตือนอย่ายัดเยียดสีเสื้อตัดสินผลงาน

อาจารย์อุ๋ย” ชี้ตรงประเด็น เจตนารมย์รธน.ต้องการให้ปชช.มีส่วนร่วมวุฒิสภา เตือนอย่ายัดเยียดสีเสื้อตัดสินผลงาน

เมื่้อวันที่ 29 มิ.ย. 67 นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรือ อาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมาย และอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ถึงผลการเลือก สว.ชุดใหม่ว่า “การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้ ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ พ.ศ. 2560 ซึ่งผ่านการลงประชามติแล้ว และ พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 โดยมีเจตนารมณ์เพื่อให้วุฒิสภาเป็นองค์กรที่สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อให้วุฒิสภาเป็นสภาที่จะรับรู้ความต้องการหรือความเดือดร้อน หรือส่วนได้เสียของคนกลุ่มต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองอย่างแท้จริงและเพื่อให้ความต้องการของประชาชนเหล่านั้นได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง จึงเป็นที่มาของวุฒิสภาที่จะมาจากประชาชนทุกหมู่เหล่า ทุกอาชีพ ทุกลักษณะกว่า 20 กลุ่มอาชีพ

อาจารย์อุ๋ย

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งถือว่าก้าวหน้ากว่าสภาสูงของอังกฤษ ที่เป็นต้นแบบของเราเสียอีก เพราะของสภาสูงของอังกฤษนั้นมีที่มาจากขุนนาง เพื่อรักษาประโยชน์ของชนชั้นสูง ส่วนวุฒิสภาที่เราสร้างขึ้น เป็นการรักษาประโยชน์ของคนทุกระดับชั้น ดังนั้นการที่วุฒิสภาจะมีสมาชิกซึ่งเป็นครู หมอ ชาวสวน พ่อค้าแม่ค้าในตลาด ช่างเสริมสวย ผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือคนขับรถ จึงสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของผู้ร่างรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้วุฒิสภาเป็นเวทีของประชาชนจากทุกภาคส่วน ทุกระดับชั้นอย่างแท้จริง

ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าวุฒิสมาชิกงวดนี้เป็นคนของพรรคการเมืองนั้นพรรคการเมืองนี้ สีนั้นสีนี้ ผมมองว่าให้โอกาสท่านว่าที่ สว. เหล่านี้ ทำงานไปก่อน แล้วค่อยตัดสินดีกว่า เพราะผลงานจะเป็นเครื่องพิสูจน์เองว่าท่านเหล่านั้น เป็นคนของพรรคการเมือง หรือเป็นคนของประชาชน

 

ส่วนข้อขัดข้อง ข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการเลือกตั้ง กกต. ก็มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย และมีกรอบเวลากำหนดอยู่แล้วใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 และกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นทุกฝ่ายควรให้ กกต. ใช้อำนาจและดุลพินิจโดยอิสระ ทำหน้าที่ตรวจสอบไปตามที่กฎหมายกำหนด จะดีกว่า อย่าลืมว่าเรารอคอยสมาชิกวุฒิสภาของประชาชนชุดนี้มาเกือบ 10 ปี หากนับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อ 2557 ดังนั้นทุกฝ่ายควรเปิดทางให้ประเทศชาติเดินหน้าตามครรลองระบอบประชาธิปไตยได้แล้วครับ ด้วยความปรารถนาดี”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น