“แม่เชื่อมจิต” จ่อพบผอ.ปมแชทครูหลุด เล็งให้ลูกออกมาเรียนคนเดียวที่บ้าน Top News รายงาน
ข่าวที่น่าสนใจ
ยังมีประเด็นดราม่าไม่แผ่วเลยทีเดียว สำหรับกลุ่มเชื่อมจิต โดยก่อนหน้านี้ เพจอีซ้อขยี้ข่าว3 เผยแพร่แชตหลุด แม่เด็กเชื่อมจิต ทักไลน์หาครูประจำชั้น หลังคุณครูร่วมมือกับ พม.จ.สุราษฎร์ธานี ร่วมให้การประเมิน “เด็กเชื่อมจิต” กดดันจนคุณครูเตรียมจะทำเรื่องลาออก
โดยอีซ้อระบุแคปชั่นประกอบว่า “แม่นกส่งไลน์ไปข่มขู่ครูประจำชั้น ที่ไปเป็นพยานให้กับ พม.สุราษฎร์ จนครูคิดจะลาออก” นอกจากนี้อีซ้อยังดักทางเอาไว้ในใต้โพสต์ว่า “ในไลน์ครู มีบันทึกการสนทนา จะมาบอกว่าเป็นไลน์เท็จไม่ได้นะ”
สำหรับเนื้อหาที่อยู่ในแชต เป็นจากทางฝั่งของแม่น้องฝ่ายเดียว สอบถามทางคุณครูประจำชั้นของลูกชายว่า 2 เหตุการณ์ที่คุณครูให้การในชั้นศาล มีความคิดเห็นอย่างไร ที่ถามแบบนี้ เพราะเพิ่งจะได้มาเป็นครูประจำชั้นให้ลูกชายเพียงแค่เดือนกว่าๆ ทำไมถึงได้ประเมินไปเช่นนั้น
ล่าสุดเพจอีซ้อขยี้ข่าวปูดข่าวใหม่ออกมาอีก โดยโพสต์สั้นๆ ว่า “เชื่อมจิตลาออกจากโรงเรียนแล้ว คอนเฟิร์ม” งานนี้ทำเอาสำนักข่าวหลายแห่งติดต่อสอบถามไปยังแม่เด็กเชื่อมจิตทันที โดยแม่บอกว่า ลูกยังไม่ได้ลาออกจากโรงเรียน เพียงแต่หยุดพักการเรียนชั่วคราวเท่านั้น ในระหว่างที่กำลังรอคำตอบจากทางโรงเรียน ว่าแชทดังกล่าวหลุดไปถึงมือสื่อซึ่งเป็นคู่กรณีกับกลุ่มเชื่อมจิตได้อย่างไร ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้อง ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รู้สึกว่ามีการคุกคามไปถึงโรงเรียนของลูก จนวุ่นวายไปหมดแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าแชทดังกล่าวไม่ได้เป็นการคุกคาม แต่เป็นการสอบถามไถ่ปกติในฐานะที่เป็นผู้ปกครองเท่านั้น ส่วนตัวคิดว่าการที่แชทหลุดออกไปแบบนั้น เป็นเรื่องที่ซีเรียส เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการพูดคุยกับครู
ขณะเดียวกัน ในฐานะที่เป็นแม่รู้สึกว่าการที่สื่อรายงานข่าวพาดพิงไปถึงการใช้ชีวิตในโรงเรียนของลูก เป็นการกระทำที่เกินไป ไม่ควรไปแตะสถานที่ตรงนั้น เพราะเป็นสถานที่เด็กเรียน และเป็นเด็กเล็กอีกด้วย จึงกังวลว่าการเข้าไปถ่ายภาพ ไปสอบถามอะไรก็ตาม อาจเป็นการคุกคามเด็กคนอื่นๆ ไปด้วย
ด้านทนายธรรมราช ทนายความกลุ่มเชื่อมจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้น้องยังไม่ได้ลาออกจากโรงเรียน แต่ได้หยุดพักการไปเรียนมาได้ 2-3 วันแล้ว ส่วนเรื่องแชทหลุด เนื่องจากไม่ได้มีการแจ้งมายังครอบครัวว่าคุณครูจะไปขึ้นศาลให้การในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา แม่จึงได้สอบถามไปทางคุณครู แต่ปรากฎว่าไม่ได้คำตอบ แถมวันต่อมาแชทหลุดไปที่เพจ จนกลายเป็นข่าว แม่จึงไม่สบายใจที่จะให้ลูกไปโรงเรียนในขณะนี้ แต่ยืนยันว่ายังไม่ได้ลาออก
ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 1 ก.ค.นี้ ทางครอบครัวจะไปที่โรงเรียนเพื่อขอเข้าพบผู้อำนวยการโรงเรียน และครูประจำชั้นคนดังกล่าว เพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น ทำไมข้อมูลที่หลุดออกไป ส่วนจะมีการดำเนินคดีกับครูประจำชั้นหรือไม่ ต้องสอบถามข้อมูลกันให้รู้เรื่องก่อน ว่าไปส่งทำไม ส่งให้ใคร ทำไมถึงหลุดไปจนเป็นข่าว แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะฟ้องหรือไม่
ส่วนน้องจะกลับไปเรียนที่เดิม หรือจะมีการย้ายโรงเรียนหรือไม่ คงต้องดูบรรยากาศรวมๆ ก่อน แต่เรื่องแนวทางเรื่องให้น้องเรียนที่อื่น มีการคุยกันมานานแล้ว ก่อนที่จะเป็นข่าวเสียอีก เพราะต้องเข้าใจว่าน้องมีพัฒนาการที่เกินอายุ เรื่องความรู้ทางโลก แน่นอนว่าน้องต้องเรียนเหมือนเด็กทั่วไป แต่ในอีกบทบาทหนึ่ง น้องถือเป็นครูบาอาจารย์ที่สอนธรรมะ มีลูกศิษย์มากมาย ถ้าให้เปรียบเทียบคือเหมือนน้องเป็น ผอ.แล้วด้วยซ้ำ ดังนั้นพ่อแม่กับกลุ่มญาติธรรม มีการคุยกันว่าอาจมีการปรับแนวทางเรื่องการเรียน ให้เปลี่ยนเป็นแบบโฮมสคูลหรือไม่ เพราะถ้าน้องเรียนที่บ้าน จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของน้องด้วย
ขณะที่ทางด้านทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้โพสต์คลิปที่แม่เด็กเชื่อมจิตได้ตอบคำถามแอดมินเรื่องอายุขัยของลูก โดยอ้างว่าน้องเคยบอกว่า จะอยู่บนโลกมนุษย์เพื่อทำภารกิจเพียง 20 ปีเท่านั้น เมื่อครบอายุจะถอดจิตและกลับไป ขณะเดียวกันให้จับตาดูช่วงอายุครบ 12 ปี น้องจะมีพลังมาก จะมีการทำหน้าที่เต็มรูปแบบ ซึ่งในเรื่องที่น้องบอกว่าจะมีอายุขัย 20 ปีนั้น แม่บอกว่ากลัว เพราะนึกถึงคำพูดที่ว่า ถ้าตอนนั้นพระอานนท์ขอพระพุทธองค์ว่าขอให้ท่านอยู่ต่อ ท่านก็จะอยู่ต่อ แม่ก็เลยขอลูกว่า แม่ขอได้มั้ย ขอให้พ่อแม่ตายก่อน แล้วลูกค่อยไปได้มั้ย
หลังคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก เช่น
-แม่ผู้ประพันธ์บทการละคร
-12 ขวบ เด็กนั่นจะกลายเป็นซุปเปอร์ไซย่าหรือป่าวครับ เห็นบอกจะมีพลังมาก
-วิบากของเทพ คือ ต้องหาโรงเรียนใหม่ให้ได้ก่อนนะแม่
-แค่นี้น้องก็จะตายทั้งเป็นแล้ว
-คลิปนี้ผมถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ เพราะหากน้องมีอายุเกิน 20 ปี แสดงว่าโกหกทั้งเพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น