“อัษฎางค์” สุดเอือมพวกด้อยค่าปท. ยกเคส “ลิซ่า” ชี้ให้เห็นเด็กไทยโดนปั่นหัวหนัก

"อัษฎางค์" สุดเอือมพวกด้อยค่าปท. ยกเคส "ลิซ่า" ชี้ให้เห็นเด็กไทยโดนปั่นหัวหนัก

อัษฎางค์” สุดเอือมพวกด้อยค่าประเทศ ยกเคส “ลิซ่า” ชี้ให้เห็นเด็กไทยโดนปั่นหัวหนัก

นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ด้อยค่าประเทศชาติ ด้อยค่าความเป็นไทย เท่ากับการดูถูกตนเอง “ด้อยค่าผู้อื่นหรือสิ่งอื่นเพื่อยกตัวเองว่าสูงส่ง” แปลกดี ยิ่งลิซ่าโด่งดังและประสบความสำเร็จ ยิ่งมีคนออกมาด้อยค่าลิซ่าหรือไม่ก็ด้อยค่าประเทศไทย สงสัยเป็นพวกไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี และเห็นประเทศชาติบ้านเมืองของตนไม่พัฒนามีแต่ความล้าสมัย

อัษฎางค์ สุดเอือมพวกด้อยค่าประเทศ

ข่าวที่น่าสนใจ

แปลกดี ยิ่งลิซ่าโด่งดังและประสบความสำเร็จ ยิ่งมีคนออกมาด้อยค่าลิซ่าหรือไม่ก็ด้อยค่าประเทศไทย สงสัยเป็นพวกไม่อยากเห็นคนอื่นได้ดี และเห็นประเทศชาติบ้านเมืองของตนไม่พัฒนามีแต่ความล้าสมัย

เรื่องเห็นประเทศชาติบ้านเมืองของตนไม่พัฒนามีแต่ความล้าสมัยนี้ เป็นการด้อยค่าประเทศชาติโดยนักการเมืองกลุ่มที่อยากเข้ามามีอำนาจบริหารประเทศ จึงด้อยค่าประเทศของตนว่าไม่พัฒนาเพราะน้ำมือของนักการเมืองปัจจุบันและที่ผ่านมา ดังนั้นพวกตนคือความหวังใหม่ที่จะเข้ามาพัฒนาชาติ

คนที่ชอบด้อยค่าประเทศชาติ ด้อยค่าความเป็นไทย ด่อยค่าคนไทยนะหรือ ที่จะอาสามาพัฒนาและเปลี่ยนแปลงประเทศ ลองคิดดูดีๆ ว่าเราอยากทำงานอะไรกับองค์กรที่ย่ำแย่หรือเราอยากทำงานกับองค์กรที่ทันสมัย

การที่ใครอยากเข้ามาทำงานอะไร ที่ใด ก็เพราะความทันสมัยขององค์กรนั้น แต่วิธีที่จะเข้ามาทำงานได้ บางคนใช้วิธีด้อยค่าประเทศ เพื่อให้คนเชื่อตามว่า คนเก่าๆ ทำไว้ไม่ดี จึงต้องการคนใหม่มาแก้ปัญหานั้น

การที่ประเทศชาติจะดีหรือไม่ดี จะมีความทันสมัยหรือล้าหลัง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับนักกการเมืองและข้าราชการเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับประชาชน ซึ่งก็คือตัวเราเองทุกคนด้วย เพราะเราเลือกเขาเข้าไปทำงานแทนเรา

เราขาดความรู้ ขาดปัญญา ขาดสติ จึงถูกนักการเมืองชั่วๆ หลอกให้ได้นักการเมืองที่เก่งแต่ปากเข้าไปบริหารประเทศ

เขาด้อยค่าประเทศ ด้อยค่าความเป็นไทย ด้อยค่าจารีตประเพณีวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของเรา เท่ากับเขาดูถูกตัวเราและตัวเขาเอง เพราะเขาก็คือคนไทยคนหนึ่งเหมือนเรา

 

ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่มีค่านิยม “เต้นกินรำกิน” ทั่วโลกก็เคยมีค่านิยมเดียวกันนี้มาก่อนเหมือนกัน ความหมายหนึ่งของคำว่า เต้นกินรำกิน คือ ความไม่มั่นคงของอาชีพ จึงเกิดความเป็นห่วงของพ่อแม่ผู้ปกครองว่า เป็นอาชีพที่มีอายุสั้น โดยจะสามารถประกอบอาชีพนี้ได้แค่ช่วงหนึ่งของชีวิตเท่านั้น

นอกจากนี้ยังหมายถึง การถูกด้อยค่าว่าเป็นอาชีพที่ให้บริการหรือให้ความสำราญกับผู้คน ซึ่งสวนทางกับค่านิยมของการเป็นเจ้าคนนายคนในอดีต โดยค่านิยมเหล่านี้มีเหมือนกันทั้งโลก แต่มันค่อยๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลา ขึ้นอยู่ว่าใครเปลี่ยนก่อนหลังเท่านั้น เมืองไทยเปลี่ยนไปนานแสนนานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว

50 ปีที่แล้วตอนผมยังเป็นเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองล้วนสนับให้ลูกหลานให้เรียนดนตรี ร้องเพลง เต้นรำกันแล้ว ดูลิซ่าที่ประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้ก็เพราะพ่อแม่สนับสนุนมาตั้งแต่อายุน้อยๆ หรือครอบครัวอื่นๆ ก็เช่นกัน แม้แต่ครอบครัวเศรษฐีก็สนับสนุนให้ลูกหลานเรียนดนตรี ร้องเพลง เต้นรำกันทั้งนั้น แต่เด็กยุคปัจจุบันถูกนักกการเมืองเป่าหู ล้างสมองว่าเมืองไทยมีค่านิยมดูถูกอาชีพเต้นกินรำกิน เด็กยุคปัจจุบันบางคนถึงยังย้อนเอาค่านิยมเมื่อศตวรรษก่อนมาด้อยค่าประเทศตัวเองอยู่

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ซีพีเอฟ" พร้อมเคียงข้างสังคมในทุกวิกฤติ ระดมความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว
เปิดภาพเหล่าฮีโร่ 4 ขา สุนัขตำรวจ K-9 ผลัดเวรช่วยค้นหาผู้ประสบภัยตึกถล่ม
"ซีพี" ผนึกกำลังทุกกลุ่มธุรกิจ "ร้อยเรียงความดี" ระดมช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ร้อมส่งทีมซีพีอาสาฯ หนุนพื้นที่วิกฤตเร่งด่วน
กทพ. แจ้งทางด่วนทุกสาย เปิดบริการตามปกติ ยกเว้นทางขึ้น-ลงดินแดง
เตรียมพบแสดงดนตรีนานาชาติ 6 ชาติ "เมืองเหน่อ เฟสติวัล" สุพรรณบุรี 5-7 เม.ย.68
"ในหลวง" ทรงรับผู้บาดเจ็บ จากเหตุแผ่นดินไหว ไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์
"ออมสิน" เร่งช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหว “พักจ่ายต้น ลดดอกเบี้ย 0% นาน 3 เดือน” และมอบสินเชื่อฉุกเฉินซ่อมบ้าน
นาทีชีวิต แพทย์ทำคลอดที่ "วังพญาไท" หลังรพ.พระมงกุฎเกล้าฯ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย เหตุแผ่นดินไหว
"นฤมล" นำทีมสส. สมาชิกพรรค "กล้าธรรม" ส่งกำลังใจถึงผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหว "ธรรมนัส" มั่นใจศักยภาพพาเกษตรกรพ้นยากจน
"นายกฯ" ขึ้นรถไฟฟ้าตระเวนกรุงฯ สร้างมั่นใจต่างชาติเที่ยวไทย เตรียมแผนเยียวยาผู้ประสบภัย ข้องใจตึกสตง.สร้างใหม่ถล่มแห่งเดียว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น