นางสาวกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ผู้นำในธุรกิจรถโดยสารสาธารณะพลังงานไฟฟ้า เปิดเผยว่า บริษัทมุ่งมั่นยกระดับระบบขนส่งมวลชนของไทยให้ทัดเทียมกับต่างประเทศ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ สะอาด ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยหนึ่งในหลายประเทศที่มีลักษณะโครงสร้างการคมนาคมขนส่งใกล้เคียงกับประเทศไทย คือ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง ที่ปัจจุบันมีการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งรุดหน้าเป็นอย่างมาก หลายเมืองได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งใหญ่ ทั้งกฎระเบียบข้อบังคับจนถึงการสนับสนุนจากทางภาครัฐ การร่วมมือกันของภาคเอกชน ส่งผลให้รูปแบบการขนส่งสาธารณะจากรถสันดาป ปรับเปลี่ยนมาสู่พลังงานสะอาด ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า(EV-Bus)เหมือนกับในประเทศไทย ของไทย สมายล์ บัส ที่เป็นรูปแบบรถเมล์พลังงานสะอาด ไม่ปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม
นาย วรวิทย์ ชาญชญานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายปฏิบัติการและกลยุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางมาศึกษาดูงานเรื่องระบบคมนาคมขนส่งที่ประะทศไต้หวันครั้งนี้ ได้เห็นถึงตัวอย่างการเชื่อมต่อระบบคมนาคมขนส่งโดยใช้บัตรใบเดียว“ไทย สมายล์ บัส” จะนำแนวทางโมเดลระบบขนส่งสาธารณะของไต้หวันไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ของเอกชนและรัฐวิสาหกิจ หรือผู้ให้บริการอื่นๆ ซึ่ง “ไทย สมายล์ บัส” ได้มีการเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างรถกับเรือไว้เรียบร้อยแล้ว
ขณะเดียวกัน จากการศึกษางานระบบขนส่งสาธารณะในครั้งนี้ มองว่า จะสามารถนำกลับมาใช้กับประเทศไทยได้อย่างแน่นอน เพราะระบบขนส่งสาธารณะของไทยและไต้หวัน โดยเฉพาะระบบเทคโนโลยี มีความใกล้เคียงกัน แต่สิ่งที่ระบบขนส่งสาธารณะของไทยยังไม่เทียบเท่าของไต้หวัน คือ ระบบสาธารณูปโภค การจัดสรรพื้นที่ เส้นทางที่รถวิ่ง รวมถึงภาพนโยบายการสนับสนุนผู้ให้บริการ ซึ่งของไต้หวันมีทั้งเอกชนและรัฐวิสาหกิจที่ไปในทิศทางเดียวกัน
นายวรวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของระบบขนส่งสาธารณะของไทย จะต้องมีการหารือกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นการดำเนินการเพียงเจ้าเดียว แต่จะดำเนินการอย่างไร ให้การเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะทั้งรัฐและเอกชนในรูปแบบใด โดยในส่วนของรัฐวิสาหกิจ มีการสนับสนุนจากภาครัฐ และธุรกิจระบบขนส่งสาธารณะค่อนข้างมีการผูกขาด ดังนั้น จะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ผู้ให้บริการอยู่รอด และแข่งขันบนมาตรฐานเดียวกัน ซึ่งถือเป็นจุดที่บริษัทจะนำกลับไปพิจารณาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากการศึกษาระบบขนส่งสาธารณะของไต้หวัน มองว่า ยังมีโอกาสที่ระบบขนส่งสาธารณะไทยจะมีความใกล้เคียงกับไต้หวันมากขึ้น โดยจากที่เห็นภาพของตัวรถโดยสาร และเทคโนโลยี ไทยมีความเทียบเท่าไต้หวัน หรืออาจจะเหนือกว่า รวมถึงเรื่องคอนเซป ของไทย ที่ไปไกลกว่าใต้หวันแล้ว
นายวรวิทย์ ระบุว่า ระบบขนส่งสาธารณะของที่ไทยยังเเข่งขันไม่ได้ คือ การเชื่อมต่อระหว่างขนส่งกับขนส่งด้วยกัน ในการทำให้บัตรใบเดียวสามารถใช้ บริการระบบสาธารณะได้ทุกรูปแบบ แต่ทั้งนี้ในรูปแบบของบัตรที่นำมาเชื่อมต่อนั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ใช้บริการว่าจะใช้บัตรของผู้ให้บริการรายใด ซึ่งบริษัท พร้อมที่จะร่วมผลักดันตรงจุดนี้กับหน่วยงานต่างๆ