“ศาลรัฐธรรมนูญ” หนีแรงกดดันสังคม เลิกชักกะเย่อคดียุบ “ก้าวไกล” ถึงเส้นตายต้องฟัน

"ศาลรัฐธรรมนูญ" หนีแรงกดดันสังคม เลิกชักกะเย่อคดียุบ "ก้าวไกล" ถึงเส้นตายต้องฟัน ระทึก 2 คดีสะท้านการเมือง "เศรษฐา" หรือ "พิธา" ปิดจ็อบใครก่อน?

TOP News เซียนการเมืองต่างพากันอ่านเกมคดียุบพรรคก้าวไกลในข้อหาล้มล้างการปกครองฯ เล่นชักกะเย่อกันอยู่นาน ในที่สุดถึงเวลาที่ระดับประธานศาลรัฐธรรมนูญต้องออกโรงทุบโต๊ะเสียที! ขีดเส้นตายต้องปิดเกมให้ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ หรือ ตั้งนาฬิกานับถอยหลังไม่เกิน 3 เดือนจะได้รู้กัน ก้าวไกล ชะตาขาด หรือ รอดตายปาฏิหาริย์? หมดเวลาต่อลมหายไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด เพราะที่ผ่านมา “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” เปิดหน้าชกไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม ปั่นกระแสให้สังคมรุมถล่ม ศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ “กกต.”อยู่ฝ่ายเดียว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ศาลรัฐธรรมนูญ” หนักใจถูกสังคมกดดัน”ก้าวไกล”ถล่มหนัก

แม้ศาลรัฐธรรมนูญ จะเตือนก็ไม่ฟัง เรื่องการละเมิดอำนาจศาล ตามที่ “ก้าวไกล” งัด 9 ข้อต่อสู้คดียุบพรรค 1.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจ 2.กระบวนการยื่นคำร้อง กกต.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย 3.คำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 แก้มาตรา 112 ของพรรคก้าวไกลเป็นการล้มล้างการปกครอง ไม่ผูกพันต่อคดีนี้ 4.การกระทำที่ถูกกล่าวหาไม่เป็นการล้มล้าง 5.การแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้เป็นมติของพรรค 6.โทษยุบพรรคต้องเป็นมาตรการสุดท้าย 7.ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรค 8.จำนวนปีในการตัดสิทธิ์ทางการเมืองต้องได้สัดส่วนกับความผิด และ 9.การพิจารณาโทษต้องสอดคล้องกับกรรมการบริหารพรรคในช่วงที่ถูกกล่าวหา ทั้ง 9 ข้อถล่ม “ศาลรัฐธรรมนูญ“และ “กกต.” เต็ม ๆ เพราะจำนนต่อหลักฐาน

ขณะที่ปฏิกิริยาโต้กลับของ “นครินทร์ เมฆไตรรัตน์” ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าการทำงานก็ต้องกดดันตัวเอง สังคมก็กดดันเรา เป็นที่เข้าใจได้เพราะคดีนี้สังคมสนใจ ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องมีความเที่ยงธรรมให้พอเหมาะพอควร ให้พรรคก้าวไกลได้ชี้แจงข้อสงสัย แล้วไปประชุมวินิจฉัยกันอีกครั้ง การตัดสินใจของศาลเป็นการตัดสินใจโดยองค์คณะไม่ใช่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งองค์คณะก็มีความเห็นเป็นอิสระซึ่งแสดงออกมาอย่างชัดเจนในคำแถลงการณ์ ใครตัดสินใจอย่างไรมีการเปิดเผยหมด

ตนเป็นหนึ่งในฐานะองค์คณะตุลาการจึงขอไม่ตอบโต้อะไร ส่วนพรรคก้าวไกลจะออกมาอธิบายอะไรได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับองค์คณะที่จะพิจารณา แต่อยากถามสื่อมวลชน คิดว่าทำได้หรือไม่ สังคมเสรีก็เป็นเช่นนี้ สังคมไทยมีสิทธิเสรีภาพพอสมควร พรรคก้าวไกล ก็ดำเนินการไปในสิ่งที่เห็นว่าพอเหมาะพอควร ยืนยันว่าศาลไม่ใช่คู่ขัดแย้งเพราะฉะนั้นศาลจะไม่ตอบโต้กับเรื่องเหล่านี้ ส่วนกรณีคดีของพรรคก้าวไกลคู่กรณีออกมาเคลื่อนไหว 2 ครั้งส่วนตัวคิดว่าไม่มีปัญหา สำหรับ 9 ข้อที่พรรคก้าวไกลมีการแถลงข่าวออกมา ถือเป็นคำแนะนำ และคำเตือนของศาลต้องดูความพอเหมาะพอดีพอควร

ระทึกคดี “เศรษฐา” หรือ “ก้าวไกล” ศาลรัฐธรรมนูญปิดจ็อบใครก่อน?

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “พิธา” อ้างว่า กระบวนการยื่นคำร้องของ “กกต.” ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และทำให้กระบวนการยุบพรรค 2 มาตรฐาน เพราะ กกต.อ้างว่ากรณีของพรรคก้าวไกลใช้แค่มาตรา 92 ยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคได้ ทั้งที่มาตรา 93 เขียนไว้ชัดเจนว่าต้องต่อเนื่องจากมาตรา 92 ถ้าตีความอย่างเคร่งครัดไม่สามารถแยกกรณีได้ และ กระบวนการยื่นคำร้องยุบพรรคต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกร้องได้รับทราบ และ มีโอกาสโต้แย้งพยานหลักฐานในชั้น “กกต.” ก่อนส่งศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลทำบันทึกถ้อยคำภายใน 7 วัน เพื่อตอบ 2 คำถามสำคัญ สำหรับใช้ในการนัดพิจารณาในวันที่ 3 ก.ค. และการนัดคู่กรณีมาตรวจพยานหลักฐานวันที่ 9 ก.ค.นี้

สำหรับเหตุผลที่ “กกต.” งัดตามมาตรา 92 เพราะคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 31 มกราคม 2567 ชี้ชัดว่า พรรคก้าวไกลใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ และด้วยคำวินิจฉัยนี้ทำให้ กกต.ไม่สามารถทำอย่างอื่นได้ เพราะเมื่อมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองใดมีการกระทำล้มล้างการปกครองฯ หรือการกระทำอันเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองฯ ตามกฎหมายพรรคการเมือง

จึงไม่แปลกเหตุใด “ประธานศาลรัฐธรรมนูญ” ออกมายืนยันว่าคดียุบพรรคก้าวไกลจะเสร็จสิ้นก่อนเดือนกันยายนนี้ รวมถึงคดีอนาคตการเมืองของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีที่ดันไปแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” รัฐมนตรีเจ้าปัญหา เพราะโดน 40สว.ร้องจึงทำให้เสี่ยงตกเก้าอี้นายกฯ ทั้ง 2 คดี ศาลรัฐธรรมนูญ ต้องปิดจ็อบให้เร็วภายใน 3 เดือนหลังจากนี้ ส่วนคดีไหนจะมาถึงก่อน “ศาลรัฐธรรมนูญ” ยังอุบไต๋อยู่ เพราะยิ่งศาลรัฐธรรมนูญเล่นชักกะเย่อทำคดีให้ยืดยาวออกไปนานเท่าไร แรงกดดันทางสังคมจะยิ่งถาโถมเข้ามา ถึงว่า “ประธานศาลรัฐธรรมนูญ” จึงสารภาพออกมาเองว่า ถูกสังคมกดดัน!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

น้ำใจแทร่ๆ "เจ้าของเต็นท์รถ" สระแก้ว ส่งมอบรถกระบะคันใหม่ พร้อมจยย. ให้ลุงป้า "มูลนิธิธรรมนัสฯ" สมทบเงิน 4 แสนไว้รักษาตัว
“รองโฆษกรัฐบาล” ยืนยันค่าไฟไม่ได้เพิ่ม แต่ลดลงเหลือ 3.99 บ.ต่อหน่วย
โค้งสุดท้าย "พิพัฒน์" นำทีมภูมิใจไทย เคาะประตูบ้าน ชาวเมืองคอน ขอเสียงหนุน "ไสว" เป็นสส.เขต 8
ชาวเมืองน่าน เข้าพบ "นิพนธ์" อดีตรมช.มหาดไทย ผลักดันพิสูจน์สิทธิ ออกโฉนดที่ดินสำเร็จ หลังรอคอยนานกว่า 30 ปี
"สันติสุข" ปลื้มปริ่ม "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ สุดประทับใจคนไทย
“ทักษิณ” ลั่นไม่สั่งใครเบรค “กัน จอมพลัง” ยุ่งคดีพีช ฟาด "เต้ มงคลกิตติ์" หลังปูดข่าว
"เจ้าอาวาส" สุดทนขึ้นป้าย “ไม่มีเงินให้ขโมยแล้ว” หลังคนร้ายงัดตู้บริจาคหลายครั้ง
“ทักษิณ” กลับเชียงใหม่อีกครััง เปิดให้รดน้ำดำหัว ขอพรในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนช่วย “อัศนี” หาเสียงพรุ่งนี้
“นายกฯ” เตรียมลุยประชุม ครม.สัญจร หลังออกจาก รพ.แล้ว จ.นครพนม 28-29 เม.ย.นี้
"ดีอี" ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบ “โจรออนไลน์”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น