พันเอกหญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีที่มีกำลังพลร้องเรียนว่าได้รับความเดือดร้อนจากโครงการบ้านพักสวัสดิการในพื้นที่ ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โดยกู้เงินสวัสดิการมาผ่อนชำระ แต่การก่อสร้างไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดนั้นว่า กองทัพบกได้ให้ความสำคัญกับงานด้านสวัสดิการกำลังพลเพื่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีสวัสดิการในหลายรูปแบบ สำหรับกิจการออมทรัพย์เพื่อการเคหะสงเคราะห์ (อทบ.) ที่เป็นการให้กู้เงินนำไปซื้อบ้านที่พักอาศัยและผ่อนชำระตามกำหนดเวลา ที่ผ่านมากองทัพบกได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการดำเนินการอย่างรัดกุม โดยให้ธนาคารของรัฐเข้ามาสนับสนุน กำหนดวิธีประเมินสินทรัพย์และระเบียบการกู้เงินที่ได้มาตรฐานเดียวกัน โดยมีผู้บังคับหน่วยและกรมสวัสดิการทหารบกกำกับดูแลให้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพบก ทั้งนี้การกู้เงินของกำลังพลเพื่อนำไปซื้อบ้านจากโครงการบ้านพักสวัสดิการกำลังพล ดำเนินการใน 2 ลักษณะ คือ เป็นโครงการที่กองทัพบกดำเนินการเอง และโครงการที่เอกชนดำเนินการและนำมาเสนอให้กำลังพลเข้าร่วม
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ กล่าวต่อว่า ในภาพรวมขณะนี้ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แต่งตั้งคณะทำงานเข้าดำเนินการตรวจสอบการบริหารจัดการโครงการบ้านพักเพื่อสวัสดิการกำลังพลทุกโครงการในทุกจังหวัด ทั้งในส่วนที่เป็นโครงการของหน่วยทหารกองทัพบกดำเนินการเอง และในส่วนที่ผู้ประกอบการภายนอกมานำเสนอให้หน่วยทหารและกำลังพลเข้าร่วมตรวจสอบให้เป็นไปตามนโยบายด้านสวัสดิการ และกำลังพลได้รับการดูแล เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเป็นไปตามกฎระเบียบ ที่สำคัญกำลังพลผู้เข้าร่วมโครงการได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ได้มีการตกลงกันไว้ และเป็นไปตามระบบการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน
พันเอกหญิง ศิริจันทร์ กล่าวอีกว่า สำหรับกรณี การร้องเรียนที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช นั้น ผู้บัญชาการทหารบกได้สั่งสอบสวนข้อเท็จจริงให้ปรากฏ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของกำลังพลอย่างเร่งด่วน โดยกองทัพบกได้ส่งคณะกรรมการจาก กรมจเรทหารบกเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 เพื่อหาผู้รับผิดชอบและรักษาสิทธิประโยชน์ของกำลังพล ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย พร้อมหาวิธีการแก้ปัญหาบรรเทาความเดือดร้อนให้กับกำลังพล จากการตรวจสอบพบว่า โครงการบ้านจัดสรรที่ จ.นครศรีธรรมราชนี้ ไม่ใช่โครงการของกองทัพบก แต่เป็นโครงการภายนอกที่เอกชนดำเนินการขายบ้านจัดสรรให้กับประชาชนทั่วไป โดยมี พ.อ.ไชยศักดิ์ หิรัญกิจ เป็นเสมือนผู้ประสานโครงการของเอกชน เป็นโครงการบ้านจัดสรรที่ผู้ซื้อสามารถกู้เงินจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปมาผ่อนชำระ โดยมีผู้ซื้อบ้านบางส่วนที่เป็นกำลังพลของกองทัพภาคที่ 4 ที่ได้กู้เงินจากกิจการออมทรัพย์เพื่อการเคหะสงเคราะห์จากกรมสวัสดิการทหารบก ตามเงื่อนไขและหลักเกณฑ์มาซื้อบ้านในโครงการดังกล่าวด้วยความสมัครใจ และได้เกิดปัญหาในเรื่องการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามรูปแบบรายการที่กำหนดไว้ ทำให้บ้านหลายหลังไม่สามารถเข้าพักอาศัยได้ แจ้งเจ้าของโครงการแล้วไม่ได้รับการแก้ไข จนนำมาสู่การร้องเรียนและกองทัพบกได้เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว ล่าสุดกองทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง สอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งเจ้าของโครงการและกำลังพลที่ได้รับความเดือดร้อน ตลอดจนศึกษารายละเอียดรูปแบบรายการที่ปรากฏในสัญญาเพื่อกำหนดแนวทางแก้ปัญหาตามแนวทางที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายต่อไป