หมอตำแย "กกต." กระอักเลือด! จ่อเลือกซ่อมศึกนายกอบจ. ปล่อยผี "สว." เสี่ยงโดนเช็กบิลเสียเอง
ข่าวที่น่าสนใจ
เตือนแรง! “กกต.” ลุยไฟปล่อยผี200สว.เสี่ยงตายหมู่
ยิ่งได้อ่านความเห็นของ 1 ใน “40สว.” ถึงกับเสียวไส้ “ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม” ขู่ “กกต.” ว่า จะดึงดันลุยไฟต่อประกาศ “สว.”ชุดใหม่หมด จบเร็วแล้วตายหมู่ ประเทศชาติเสียหาย หรือ จะยอมใช้เวลาให้รอบคอบ จัดการคนทำผิดก่อนแล้วจึงประกาศ ช้าไปบ้าง แต่ถูกต้องจบจริงได้ แปลความหมายตามที่ “ดิเรกฤทธิ์” พูดถึงคือ ต้องการให้ “กกต.” สอย “สว.จัดตั้ง” ก่อนแล้วค่อยประกาศรับรองทีหลัง ด้วยการตรวจสอบหลักฐาน คุณสมบัติประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และ เจตนาแท้จริงในการสมัครของ “ผู้ต้องสงสัย” ประกอบหลักฐานการเลือกแบบจัดตั้งล็อคกลุ่มเบอร์ที่ชี้ถึงการทำทุจริตอย่างชัดเจน ถึงว่าเดิมที “กกต.” จะประกาศรับรอง “สว.” ป้ายแดงในวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ จึงเลื่อนออกไปก่อนไร้กำหนด
ผิดกับความเห็นของ “อังคณา นีละไพจิตร” “สว.” ป้ายแดง เห็นว่า “กกต.” ควรปล่อยไปก่อนแล้วค่อยไปสอยทีหลัง เพราะถึงจะมีการจัดเลือกซ่อม “สว.” หากยังใช้กติกาแบบเดิมยังไงก็ได้ “สว.” ลักษณะเหมือนเดิม ดังนั้นต้องแก้รัฐธรรมนูญที่มาของ “สว.” ถึงจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ขณะที่ “ยิ่งชีพ อัชฌานนท์” ผู้จัดการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือ ไอลอว์ งัดหลักคณิตศาสตร์เชื่อมโยงความเป็นไปได้ว่ามีการฮั้วเลือก “สว.”บางคน นั้นคือ 154 คน เลือก “สว.” คนเดียวกันหมด เหมือนเตี๊ยมกันมาแต่บ้าน ว่าจะล็อคใคร อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หมอตำแย “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. ยังอ้ำอึ้ง จะเอาไงดี ปล่อยผีไปก่อนแล้วค่อยไปสอยทีหลัง หรือ ปราบผีก่อนแล้วค่อยรับรองทีหลัง จึงกล่าวว่า อย่าใช้คำว่าเลื่อน แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ จึงจะมีการประกาศรับรอง สว.
จี้ลาออกและขอโทษประชาชน
อีกประเด็นการเมืองร้อนฉ่า ที่จะทำให้ “กกต.” งานงอก! อาจต้องจัดการเลือกตั้งซ่อม กรณี “ชาญ พวงเพ็ชร์” นายกอบจ.ป้ายแดง แต่ดูทรงแล้วไม่น่าจะไปถึงฝั่งฝัน เผลอ ๆ อาจตกเก้าอี้ก็เป็นได้ เมื่อระดับเซียนทางกฎหมาย “แก้วสรร อติโพธิ” ออกมาชี้ทางสว่างให้ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ลาออกและขอโทษประชาชน
งัดกฎหมายปราบโกงของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” หรือ “ปปช.” มาตรา 81 และ มาตรา 77 หากผู้ต้องหาคดีทุจริตถูกประทับรับฟ้อง ต้องโดนแขวนห้ามปฏิบัติหน้าที่ ไม่ต้องรอให้ศาลสั่ง ทั้งยังงัดความเห็น “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการกฤษฎีกา ออกมาฉายซ้ำอีกรอบ นี่เป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยของราชการ ไม่ให้คนที่ต้องคดีคอร์รัปชัน ยังคงอยู่ในตำแหน่งอีก เขาอาจไปยุ่งเหยิงกับพยาน หรือถ้าเป็นพยานบุคคล ก็จะยิ่งไม่กล้าพูดอะไรเลย
คดี “ชาญ พวงเพ็ชร์” นี่ก็เหมือนกัน มันเป็นคดีอาญาติดตัวไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งวาระใดก็ตาม และคดีนี้มีข้อห้ามทำหน้าที่ติดตรึงเป็นส่วนควบอยู่ด้วย ดังนั้นจะไปทำงานในวาระเดิมหรือวาระใหม่ ก็ต้องห้ามทำหน้าที่ไปตลอด และ ในสายตา “แก้วสรร อติโพธิ” มองว่า “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้บังคับบัญชา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ถ้านิ่งเฉยปล่อยให้ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ดำรงตำแหน่งในวาระใหม่ สั่งราชการไปโดยไม่มีอำนาจ ต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ
ส่วนที่กังขากันว่าทำงานคดี “ชาญ พวงเพ็ชร์” ถึงนานนับสิบปี จึงไม่จบเสียที อาจเป็นเพราะมี 2 คดีซ้อนกัน คือ ซื้อถุงยังชีพ และ ซื้อเครื่องออกกำลังกายในราคาสูงเกินจริง โดยค่าเสียหายของ อบจ.เป็นเงินถึงสามสี่สิบล้านเลยทีเดียวไม่ใช่หรือจึงทำให้คดีคาราคาซัง ดังนั้น “ชาญ พวงเพ็ชร์” ควรลาออก และ ขอโทษประชาชนงานเข้า “กกต.” เต็มเปา!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง