“รองอธิการบดีม.พิษณุโลก” ปฏิเสธไม่มีการซื้อขายวุฒิการศึกษา ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง ย้ำไม่รู้จัก “ต้นอ้อ” ประธานมูลนิธิดัง

มหาวิทยาลัยพิษณุโลก แจงไม่เคยมีการซื้อขายวุฒิการศึกษา ระบุ ไม่รู้จัก คุณต้นอ้อ พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และดำเนินกฎหมาย แก่ผู้ที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสียหาย

“รองอธิการบดีม.พิษณุโลก” ปฏิเสธไม่มีการซื้อขายวุฒิการศึกษา ตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง ย้ำไม่รู้จัก “ต้นอ้อ” ประธานมูลนิธิดัง – Top News รายงาน

รองอธิการบดีม.พิษณุโลก

 

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 ที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก พร้อมด้วย นายชาตรี จำลองกุล นิติกรมหาวิทยาลัยพิษณุโลก และ ว่าที่ ร.ต.ดร.สุนิมิต ชุ่มพงษ์ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ได้ร่วมแถลงข่าวกับสื่อมวลชน กรณีที่มี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความแฉ ระบุว่า มีผู้เสียหายรายหนึ่งถูกประธานมูลนิธิดัง แอบอ้างขายวุฒิการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในราคา 200,000 บาท ซึ่งประธานมูลนิธิคนนี้ จะได้เปอร์เซ็นต์จากเงินส่วนนี้ด้วย และยังมีการแอบอ้างซื้อขายตำแหน่งในรัฐสภาราคา 60,000 บาท กระทั่งปัจจุบันเมื่อมีการทวงถามไปก็ตอบบ่ายเบี่ยง นั้น ในเรื่องนี้

ผศ.ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก เปิดเผยว่า จากกรณีที่เป็นข่าว รองศาสตราจารย์ ดร. วีระชัย พุทธวงศ์อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ หรือ อ.อ๊อด มีความห่วงใยการซื้อขายวุฒิการศึกษา ตามที่เป็นข่าวในสื่อ และโซเซียลดังกล่าว เกี่ยวกับเรื่องนี้ ขอพูดข้อเท็จจริงรายละเอียดเบื้องต้น กรณีที่เป็นข่าวในสื่อและโซเชียล , ทางมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ยืนยันว่า ไม่เป็นเรื่องจริงการซื้อขายวุฒิการศึกษาไม่มี , การพูดของนักศึกษาที่พูดออกไปทำให้ มหาวิทยาลัยพิษณุโลก ได้รับความเสียหาย , ทางนิติกร มหาวิทยาลัยจะดำเนินทางกฎหมายในทันที

ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องภายใน หรือเกิดการทะเลาะกัน ตนเองยังไม่ทราบแต่จากการตรวจสอบพบว่า นักศึกษารายดังกล่าว ได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยพิษณุโลกจริง แต่เพิ่งเข้ามาเรียนได้ไม่นาน ซึ่งจากการตรวจหลักฐานพบว่า มีการมาสมัครเรียน เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา มีการมาชำระตามระเบียบของมหาวิทยาลัย แม้ว่าจะเพิ่งเข้ามาเรียนในภาคเรียนที่ 2 ที่ผ่านมาก็ตาม ถือว่าเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่จบการศึกษา ยังคงมีสภาพการเป็นนักศึกษาที่ต้องมีการเรียนการสอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยอยู่ ไม่ทราบว่ามีการพูดคุยกับนักศึกษาอย่างไร , ทางมหาวิทยาลัยจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมของมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งกับดำเนินการตามกฎหมาย

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับนักศึกษาดังกล่าว ทางมหาวิทยาลัยได้พยายามติดต่อ แต่ไม่ยอมรับสาย โดยจากภาพที่โชว์หัวกระดาษเป็นชื่อของมหาวิทยาลัยพิษณุโลกที่ได้จ่ายค่าแรกเข้า 1,500 บาท ซึ่งในเรื่องนี้ทำให้มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เสียหายที่ไม่ชี้แจงว่า เอกสารดังกล่าวออกด้วยเรื่องอะไร คงต้องเรียกตัวมาพูดคุยกันว่า สิ่งที่ทำไปเพื่ออะไร ทางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการฟ้องร้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ในเรื่องนี้คงต้องมีการสอบสวนข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณี คุณต้นอ้อ กับทางมหาวิทยาลัย รู้จักหรือไม่ รองอธิการบดีฝ่ายบริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ตอบว่า ไม่รู้จักกันมาก่อน และไม่รู้ว่าที่มาที่ไปเป็นอย่างไร มหาวิทยาลัยขอปฏิเสธ , ส่วนที่อ้างว่าจ่าย 2 แสนบาท นักศึกษาไปแจ้งความเป็นการเรียกร้องเงินหรือไม่ ทางมหาวิทยาลัย ยืนว่า ไม่จริง มหาวิทยาลัยไม่ได้เก็บเงินเกินจริงจากค่าเทอมปกติ , ส่วนการที่จะไปจ่ายให้กับนายหน้า ทางมหาวิทยาลัยไม่ขอรับรู้ในเรื่องนี้ เป็นเรื่องของการดำเนินการของ นักศึกษาดังกล่าว , แต่ใครทำให้มหาวิทยาลัยเกิดความเสียหายทางนิติกรจะดำเนินการทางกฎหมาย เพราะมหาวิทยาลัยไม่ใช่จะสร้างมาได้ง่ายๆเราปฏิบัติตามกฎหมาย ตามระเบียบ ทุกประการ

ด้าน นายชาตรี จำลองกุล นิติกร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก กล่าวว่า เพิ่งทราบข่าวเมื่อวานนี้ (2 กรกฎาคม 2567) ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้มหาวิทยาลัยได้รับความเสียหาย ในวันนี้เวลา 13.00 น.จะมีการประชุมคณะผู้บริหารเพื่อรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมจะหาข้อมูลเรื่องดังกล่าว , หากทราบรายละเอียดทั้งหมดแล้วจะได้แจ้งให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรี ดร.สุนิมิต ชุ่มพงษ์ คณบดีคณะรัฐประศาสนศาสตร์ กล่าวว่า นักศึกษาดังกล่าว ได้มาลงทะเบียนเป็นวงเงินทั้งสิ้น 130,000 บาท และค่าสมัครแรกเข้า 1,500 บาท เรียนทั้งหมด 6 เทอม 3 ปี 41 รายวิชา ยืนยันว่า ขณะนี้ยังเรียนอยู่ ยังไม่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด , ซึ่งเริ่มเรียนในภาคเรียนที่ 2 เมื่อปีการศึกษาที่ผ่านมา สำหรับเงินไม่ได้จ่ายเกินจากความเป็นจริง เป็นเงินที่จ่ายให้มหาวิทยาลัยตามปกติ คือ คนละ 130,000 บาท และค่าแรกเข้า 1,500 บาท , เป็นไปตามคอร์ส ปริญญาตรี ที่ได้เลือกเรียน

สำหรับมหาวิทยาลัยพิษณุโลกเปิดดำเนินการมากว่า 20ปี เป็นมหาวิทยาลัยเอกชน ต้องเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยต้องหารายได้เพื่อดูแลมหาวิทยาลัย ถ้าขาดทุนจะต้องหาเงินมาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการ โดยเราได้เปิดภาคเรียนปกตินักศึกษาสามารถเลือกเรียนในช่วงวันจันทร์-วันศุกร์ หรือเลือกเรียนช่วงเสาร์-อาทิตย์ ได้ตามความต้องการของนักศึกษาเพื่อเปิดโอกาสกับนักศึกษาได้ มีโอกาสทางการศึกษา วันนี้ให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการพร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงถ้า มีฝ่ายบุคลากรมหาวิทยาลัยเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ก็พร้อมที่จะดำเนินการตามระเบียบ ไม่ละเว้นไม่ได้กังวลอะไร เรื่องนี้มีหลักฐานชัดเจน ว่ากันไปตามกฎหมาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ทนายอาคม" รับทำคดีให้เฉพาะ "เดือน" ภรรยาทนายตั้ม ชี้เจ้าตัวไม่รู้สำนึก ดื้อดึงสู้หัวชนฝา
ประเด็นร้อน ! ข้อถกเถียงเรื่องภาษีบุหรี่ไฟฟ้า คุ้มค่ากับสุขภาพของคนไทยหรือไม่
ศาลออกหมายจับ "เอกภพ สายไหมต้องรอด" ปมพยานเท็จดิไอคอน
บีบหัวใจ ญาติช็อก "ศพหลานสาว" โผล่ลัทธิประหลาด เตรียมนำหลักฐานติดต่อขอรับร่างไปบำเพ็ญกุศลฯ
รองนายกเมืองพัทยา สั่งระงับสนามยิงปืน หลังชาวบ้านผวาหมู่บ้านไม่กล้านอนบ้านตัวเอง ทนทุกข์เสียงปืน และวิถีกระสุนมานานกว่า 4 เดือน
"ทวี" แจงกมธ.มั่นคงฯ ปมชั้น 14 ย้ำราชทัณฑ์ทำตามหน้าที่ ชี้เปิดประวัติรักษา ต้องให้ "ทักษิณ" ยินยอม
นายกฯ ยิ้มรับศาลรธน. ยกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง
‘แอ็คมี่’ นักธุรกิจนักลงทุนหมื่นล้าน หนุนประเทศไทยใช้ Bitcoin เป็นกองทุนสำรอง
อย่ากระพริบตา... ตามไปดูสนามเลือกตั้ง นายก อบจ. เมืองคอนกระแสน้ำวาริน ชิณวงศ์ สร้างปาฏิหาริย์ล้มบ้านใหญ่ ได้จริงหรือไม่-ในขณะที่คอการเมืองชี้บ้านใหญ่"เดชเดโช กนกพร"นอนมากำชัยชนะเป็นนายก อบจ. รอบ 2 อย่างแน่นอน
มติสภากทม.ไฟเขียว งบรายจ่ายเพิ่มปี 68 กว่า 1.4 หมื่นล้าน นำใช้คืนหนี้ BTS

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น