“เผ่าภูมิ” ย้ำศก.ไทยยังมีปัญหา แจง “คลัง” เร่งมาตรการกระตุ้นเต็มสูบ

“เผ่าภูมิ” ยอมรับเศรษฐกิจไทยยังมีปัญหา ล่าสุดเตรียมเสนอแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชงครม.ใน 1-2 สัปดาห์นี้ หวังดันจีดีพีปีนี้โต 3% ตามเป้า

“เผ่าภูมิ” ย้ำศก.ไทยยังมีปัญหา แจง “คลัง” เร่งมาตรการกระตุ้นเต็มสูบ – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการกล่าวปาฐกถาพิเศษในงานเปิดตัวรายงานตามติดเศรษฐกิจไทย (Thailand Economic Monitor) ในหัวข้อ “ปลดล็อกศักยภาพการเติบโตของเมืองรอง (Unlocking The Growth Potential of Secondary Cities)” จัดโดยธนาคารโลก ณ ห้องรอยัล มณียา โรงแรมเรเนซองส์ กรุงเทพฯ ราชประสงค์ ถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2567ว่า กระทรวงการคลังจะเร่งดำเนินการ มาตรการต่างๆเพื่อให้ จีดีพีไทยโตได้ถึง 3% ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้ประกาศไว้ และยังมีหลายๆกลไกที่สามารดำเนินการได้

ขณะเดียวกัน กระทรวงการคลัง จะมีมาตรการทางด้านภาษีออกมา เพื่อดึงดูการลงทุนและกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงมาตรการที่จะทำให้ภาคธุรกิจและประชาชนสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น เช่น มาตรการสินเชื่อซอฟท์โลน ของธนาคารออมสิน วงเงิน 1 แสนล้านบาท ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในสัปดาห์หน้า

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยยังมีปัญหา รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการกระจายเม็ดเงินลงสู่ประชาชนให้เร็วที่สุด ผ่านการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ รวมถึงพยายามออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในหลายเรื่อง ทั้งมาตรการด้านภาษี มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง ซึ่งถือเป็นมาตรการใหญ่ รวมถึงมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะมาตรการ PGS11 ที่จะทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กที่มีความเสี่ยงสูง และยังเข้าไม่ถึงสินเชื่อ มีช่องทางเข้าถึแหล่งเงินทุนได้

โดยมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้จะเป็นช่วยอุ้มเศรษฐกิจในช่วงที่โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยังไม่ลงสู่ระบบ และเม็ดเงินจากโครงการนี้ จะส่งผลต่อจีดีพีน้อยมาก หรือเห็นผลในช่วงสั้น ๆ ในปีนี้เท่านั้น ส่วนใหญ่ผลของมาตรการจะชัดเจนในช่วงครึ่งแรกของปี 2568   ดังนั้นมองว่าระหว่างนี้เศรษฐกิจไทยจำเป็นจะต้องมีมาตรการอื่น ๆ เพื่อเพิ่มเติมในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพราะหากรอดิจิทัลวอลเล็ตเพียงอย่างเดียวคงไม่พอ

นายเผ่าภูมิ กล่าวอีกกว่า สำหรับแผนการออกพันธบัตรของรัฐบาลนั้น เป็นหน้าที่ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ที่จะดูจุดเหมาะสมของอัตราดอกเบี้ย โดยยืนยันว่า ไม่มีความกังวลเรื่องการปรับแผนบริหารหนี้ที่เพิ่มขึ้น เพราะหากพูดถึงหนี้สาธารณะของไทยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 63 -64 % ต่อจีดีพีนั้น เป็นการนับรวมหนี้ของรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกันไปด้วย แต่หากพิจารณาในรายละเอียดแท้จริงจะพบว่า หนี้สาธารณะของไทยอยู่ที่ 57% ของจีดีพีเท่านั้น และยังถือว่าเป็นระดับต่ำมาก ซึ่งตรงจุดนี้หลายๆประเทศเข้าใจไทย

ส่วนแผนการคลังระยะปานกลางที่จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะปรับสูงขึ้นนั้น ตามคาดการณ์การขาดดุลงบประมาณ นายเผ่าภูมิ ยืนยันว่า ไม่ได้น่าเป็นห่วง เนื่องจากแผนการคลังระยะปานกลางดังกล่าว ยังไม่ได้รวมถึงตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ดังนั้นหากจีดีพีเพิ่มสูงขึ้น ก็จะทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะลดลงในระยะถัดไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คลี่ 6 ข้อกล่าวหาเขย่าขวัญ “ทักษิณ” ล้มล้างฯ จับตาศาลรธน.รับ-ไม่รับคำร้อง?
เกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ "โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่" จ.สมุทรสาคร คาดความเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 ล้าน
เกิดแผ่นดินไหวบริเวณ "จ.ลำพูน" ขนาด 2.5 ลึกประมาณ 1 กิโลเมตร ปชช.รับรู้แรงสั่นสะเทือน
"กรมอุตุฯ" เผยภาคเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในช่วงเช้า กทม.เช้านี้ 24 องศา เตือน 14 จังหวัดภาคใต้ ฝนยังตกหนัก
นาทีชีวิต 3 พลเมืองดี ช่วยหนุ่มจะกระโดดสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง
แตกตื่นช่างไฟดวงกุดซ่อมพัดลมเพดาน อะโกโก้ พลาดถูกช็อตดับ
เดือดร้อนหนัก ! เด็กนักเรียน มพย.7 กว่า 1,000 คน ไม่มีห้องเรียนต้องอาศัยเรียนนอกอาคาร หลังคนร้ายลักลอบตัดสายไฟ จากหม้อแปลงส่งไฟไปอาคารเรียนและโรงยิม วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
ไม่รอดสายตา 2 นายพรานย่องเบาหวังเข้ามาล่าสัตว์ในเขตอุทยานฯ เจ้าหน้าที่เร็วกว่าเข้ารวบก่อนลงมือล่า
"พิพัฒน์" ลุยเพื่อแรงงาน ถกประกันสังคมเอสโตเนีย ยกระดับบริการให้สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
ศาลอาญา สั่งจำคุก 4 ผู้ชุมนุมกลุ่ม REDEM คนละ 2-4 ปี ฐานทำร้ายคฝ. ก่อนได้ประกันตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น