วันที่ 15 กันยายน 2564 เวลา 11.00 น. ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รอง สว. สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูก ภายในโรงสีร้าง ที่หมู่บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี ,พ.ต.ท.พัฒน์วงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ต.ธนนท์ ศรีกงพาน สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี ,ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี และ อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม รุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุเป็นโรงสีร้าง มีต้นไม้และหญ้าขึ้นปกคลุม บริเวณข้างกำแพงคอนกรีต ใต้เสาไฟฟ้าสูงประมาณ 12 เมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ ไร้ศีรษะ มีสวมเสื้อแขนยาวลายพลางสีเขียว กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าแตะสีเหลือง มีเชือกไนล่อนมัดท่อนเหล็กยาว 1 ฟุตมัดติดรองเท้าทั้งสองข้าง เลื่อยตัดเหล็ก 1 ปื้น ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบกะโหลกมนุษย์ วางอยู่พื้นปูนลานตากข้าว ตรวจที่เกิดเหตุ พบสายไฟสีดำถูกตัดห้อยลงจากเสาไฟ และพบโคมไฟส่องสว่างที่ติดอยู่บนเสาไฟตกลงที่พื้นใกล้กับศพ แพทย์ระบุเสียชีวิตมามกกกว่า 1 ปี จึงสั่งนำกระดูกไปเก็บไว้ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพ
ต่อมาได้มี น.ส.อมรรัตน์ บุญศรี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 15 ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เดินทางมาดูศพ และสงสัยว่าโครงกระดูกดังกล่าว คือนายอิด บุญศรี อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 15 ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พี่ชายที่หายไปตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เพราะจำเสื้อลายพลางที่พี่ชายชอบสวมใส่ก่อนหายตัวออกจากบ้านได้ พร้อมกับบอกว่า นายอิดเป็นพ่อหม้ายแยกทางกับภรรยานานแล้ว มีลูกชายอาศัยอยู่กับปู่ นายอิดทำงานก่อสร้าง รับจ้างทั่วไป รับจ้างตัดฟืนไปเผาถ่าน และชอบมาหาเพื่อนที่มีบ้านในซอย 5 บ้านสวรรค์ ใกล้กับโรงสีร้างประจำ
น.ส.อมรรัตน์ บอกต่อว่า เมื่อเดือนมีนาคม 2563 นายอิดมาเล่นที่บ้านเพื่อนแล้วได้หายตัวไปไม่กลับบ้าน ครอบครัวของตนจึงได้ออกตามหา รวมทั้งลูกชายของนายอิดด้วย ทั้งตามหาที่บ้านเพื่อนก่อนหายตัวไป และร้านคาราโอเกะใกล้โรงสีร้าง และสอบถามเพื่อนของนายอิดทุกคน ก็ไม่มีใครพบเห็น ตนจึงโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ร้องไปที่มูลนิธิกระจกเงา ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี ประกาศตามหาคนหาย แต่ก็ไม่มีใครพบเห็น หลังจากนั้น 1 เดือน จึงได้มาแจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองอุดรธานี
น.ส.อมรรัตน์ บอกต่ออีกว่า หลังจากนายอิดหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ติดต่อไม่ได้มาประมาณ 1 ปี 6 เดือน เมื่อเช้านี้มีคนที่รู้จักกับตน โทรศัพท์มาบอกว่า มีคนเข้าไปหาปลาในโรงสีร้าง และพบโครงกระดูกมนุษย์ สวมเสื้อลายพลางคล้ายกับพี่ชายของตนที่หายไป ตนจึงรีบมาดูก็มั่นใจทันทีว่าเป็นศพนายอิด พี่ชายที่หายตัวไปแน่นอน เพราะจำเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้ ที่ไม่ได้เข้ามาหาในโรงสีร้าง เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล “ช่วงที่พี่ชายหายไปใหม่ๆ พ่อและลูกชายผู้ตายก็ฝันเหมือนกัน เห็นว่าผู้ตายมาหา บอกว่าหนาว ออกไปไม่ได้ ให้มารับกลับบ้านด้วย ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะไปตามหาพี่ชายได้ที่ไหน”
ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า ผู้ตายอาจจะแอบเข้ามาโรงสีร้าง เพื่อตัดเอาสายไฟฟ้าไปช่างกิโลขาย โดยใช้ท่อนเหล็กมัดใส่รองเท้า แล้วเสียบเข้าไปในรูเสาไฟฟ้าไต่ขึ้นไปตัดสายไฟ แต่พลาดท่าตกลงมาได้รับบาดเจ็บหมดสติ ไม่มีคนเห็นและช่วยเหลือเนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่มีใครเข้าออก ทำให้เสียชีวิตนานนับปีจนเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนหัวกะโหลกที่อยู่ห่างออกไป น่าจะเป็นสุนัขคาบไป เมื่อมีญาติมายืนยันว่าเป็นโครงกระดูกของนายอิด ที่หายตัวไปก็จะได้ตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคล และมอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนา ต่อไป.
ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี