รพ.ธรรมศาสตร์ ปรับกลยุทธ์ หลังผู้ติดเชื้อโควิดลดลง

รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ปรับกลยุทธ์ หลังผู้ติดเชื้อโควิดลดลง  ดูแลผู้ป่วยสีเขียว ผ่าน Home isolation  ทำเตียงใน รพ. - การใช้แพทย์ พยาบาล ลดลงตามไปด้วย

สถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิค-19 ในประเทศไทยขณะนี้ ยอดผู้ป่วยรายใหม่ ลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่ ศบค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มีการปรับยกระดับมาตรการป้องกันและมีการประกาศเคอร์ฟิว ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19   จากเดิม ผู้ป่วยรายใหม่ มีถึง 20,000 กว่าราย/วัน  ล่าสุด วันนี้เหลือแค่เพียง 13,798 ราย เมื่อเทียบกับผู้ติดเชื้อที่หายป่วย วันนี้ 14,133 ราย  ซึ่งเป็นการบ่งบอกถึงสถานการณ์ว่า เริ่มดีขึ้น ทำให้โรงพยาบาลสนามต่าง ๆ ที่สร้างมาเพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ต่างพากันส่งบุคลากรทางการแพทย์ กลับไปทำงานตามปกติ ส่วนอุปกรณ์การแพทย์ ยังคงเก็บไว้ เพื่อรอรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

และหลังจากที่แนวโน้มผู้ติดเชื้อนั้นลดลง ล่าสุด โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ฯ ก็ได้โพสต์ประกาศว่า จะมีการลดเตียงภายในโรงพยาบาล เนื่องจาก สถานการณ์เริ่มเบาบางลง  ทีมข่าว Top News  จึงได้สอบถามไปยัง  รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ  ถึงประเด็นดังกล่าวว่า  ความต้องการนอนที่ รพ. นั้น ลดน้อยลงตามธรรมชาติ เพราะ รพ. มีสถานที่สำหรับการดูแล หรือ Home isolation และ Community isolation สำหรับผู้ป่วยระดับสีเขียว ซึ่งก่อนหน้า หากมีผู้ป่วยติดเชื้อ ก็ต้องนำมานอนรักษาโรงพยาบาลทุกราย  ตอนนี้หากมีผู้ป่วยประมาณ 100 ราย  รพ.ก็สามารถดูแลรักษาแบบ Home isolation และ Community isolation ได้ 80 ราย  อัตราส่วนของคนที่ต้องนอน รพ. หรือ รพ.สนาม ก็จะเหลือแค่ 20%  ก็เป็นการลดในส่วนอัตรากำลังของทีมแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยลงไปด้วย และเป็นการลดเตียงไปโดยปริยาย แต่ในส่วนของห้องและเตียง ยังไม่ได้หายไปไหน หากมีการระบาดระลอกใหม่ ก็จะสามารถจัดส่งทีมแพทย์เข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ทันที

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยที่อยู่ในการดูแลของ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ช่วงที่มีคนไข้มากที่สุดอยู่ที่ 120 ราย/วัน ปัจจุบัน เหลือเพียงแค่ 70 – 80 ราย/วัน  รพ.สนาม มีคนไข้มากที่สุดอยู่ที่ 420 ราย/วัน ลดลงเหลือ 150 ราย ไม่เกิน 180 ราย/วัน  ตอนนี้ ทุก ๆ รพ. และ รพ.สนาม ถ้าได้ผลบวกจาก ATK หรือ RT-PCR ก็พยายามแอดมิดทุกราย  ตนเข้าใจว่าบางแห่งยังใช้วิธีนี้อยู่   แต่ทาง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ เริ่มปรับนโยบาย  โดยจะใช้วิธี  Home isolation กับ Community isolation ในการช่วยดูแลผู้ป่วยระดับสีเขียวเป็นหลัก  ซึ่งมั่นใจทำได้เต็มรูปแบบ เพราะ 1.ข้อจำกัดในการรับคนไข้ไม่มีแล้ว จะพยายามรับคนไข้ทุกรายที่ติดต่อมาให้ได้ 100%  2.การส่งอุปกรณ์ออกซิเจน กับ ยาฟาวิพิราเวียร์  รพ. สามารถจัดส่งให้คนไข้ได้ ภายใน 24 ชม. หลังจากที่รับคนไข้มาไว้ในการดูแล  3.การจัดส่งอาหาร 3 มื้อต่อวัน ในช่วง 14 วัน ที่อยู่ใน Home isolation   ส่วนในเรื่องการดูแลของทีมแพทย์กับพยาบาล ที่ต้องดูแลวันละ 2 ครั้ง ตรงนี้ทาง รพ. ก็ทำได้ตามเกณฑ์อยู่แล้ว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม
โฆษกกห. ยัน ไม่ได้ปิดด่านชายแดนจังหวัดตาก แค่สกัดโรค อุดช่องทางธรรมชาติ
“พิพัฒน์” ลุยปฏิรูป “ก.แรงงาน” ก้าวใหม่สู่ยุค AI สร้างทักษะพัฒนาฝีมือ ดูแลสวัสดิการทุกมิติ
"สรรเพชญ" พร้อมกลุ่มสส.ร่วม "ชวน-บัญญัติ" ส่งหนังสือเร่งรัฐ เยียวยาน้ำท่วมทำใต้วิปโยค
“ทักษิณ” อวย ฉายา “แพทองโพย” เก่งกว่าพ่อนั่งนายกฯ ฟุ้งคนเหนือก็เป็นพ่อเลี้ยงกันหมด
“อนุทิน” น้อมรับฉายา “ภูมิใจขวาง” ลั่นไม่ได้คิดขวางใคร ชื่นชม “นายกฯ” ตั้งใจทำงาน หลังถูกมองเป็นรบ. (พ่อ) เลี้ยง
“รทสช.” เคลื่อนไหว หลังสื่อทำเนียบฯตั้งฉายา “พีระพันธุ์” Fc แห่คอมเมนต์ให้กำลังใจ
ชวนเที่ยวงาน "เที่ยวถิ่น กินอร่อย สมุทรปราการ" ปี 67 จัดใหญ่จัดเต็มส่งท้ายความสุขช่วงปลายปี
"ทักษิณ" เล่นใหญ่ กลับเชียงใหม่ นำ "พิชัย" ชิงนายกอบจ. เชื่อเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อไทยได้ 10 สส.
แตกตื่นทั้งวอร์ด! หามผู้ป่วยพม่าติดโรคห่า 1 ราย ข้ามแดน ส่ง รพ.แม่สอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น