BBC, CNN และ AFP รายงานว่าชาวอังกฤษทั่วประเทศซึ่งปีนี้มีผู้สิทธิเลือกตั้งราว 46.5 ล้านคนได้ทยอยออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั่วไปในวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 4 กค.) หลังจากที่หน่วยเลือกตั้งกว่า 4 หมื่นแห่งจากเขตเลือกตั้ง 650 เขต จะเปิดทำการตั้งแต่ 0700 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นหรือ 1300 นาฬิกาตามเวลาของไทยและจะปิดหีบในเวลา 2200 นาฬิกาหรือ 0400 นาฬิกาพรุ่งนี้ตามเวลาไทย (ศุกร์ที่ 5 กค.) และทันทีหลังจากปิดหีบ สื่ออังกฤษก็จะเริ่มรายงานเอ็กซิกโพล ซึ่งส่วนใหญ่จะบอกผลเลือกตั้งที่แม่นยำ
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีริชี่ ซูแน็ค ผู้สมัครจากพรรคอนุรักษ์นิยมได้เดินทางไปใช้สิทธิ์ตั้งแต่ช่วงเช้าที่เขตริชมอนด์และนอร์ธแอเลอร์ตัน ที่เมืองยอร์กเชียร์ ทางเหนือของอังกฤษ ขณะที่นายเคียร์ สตาร์เมอร์ คู่แข่งจากพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นตัวเต็งที่คาดว่าจะชนะเลือกตั้งครั้งนี้ได้เดินทางไปหย่อนบัตรที่เขตลอนดอนในช่วงเช้าเช่นกัน
การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกนับตั้งแต่บอริส จอห์นสันคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายให้กับพรรคอนุรักษ์นิยมในปี 2562 และคาดว่าจะเป็นการเลือกตั้งที่นำความพ่ายแพ้อย่างหมดรูปมาให้กับพรรคอนุรักษ์นิยมเช่นกัน ซึ่งหากเป็นไปตามคาดก็จะปิดฉากการบริหารประเทศของพรรคอนุรักษ์นิยมที่ครองอำนาจมานานถึง 14 ปี
ทั้งนี้โพลใหญ่ๆที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากซูแน็คประกาศยุบสภาเพื่อจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่าพรรคแรงงานที่นำโดยสตาร์เมอร์วัย 61 ปีจะคว้าชัยชนะอย่างถล่มทลาย โดยคาดว่าจะสามารถคว้าที่นั่งในสภาได้อย่างน้อย 430 ที่นั่ง ได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากมาอย่างสบายๆ โดยตามกฎของการเลือกตั้งอังกฤษ พรรคที่จะได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากจะต้องได้ที่นั่งไม่ต่ำกว่า 326 ที่นั่ง ส่วนพรรคอนุรักษ์นิยมของซูแน็คคาดว่าจะได้คะแนนต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้มาเพียง 127 ที่นั่ง
สำหรับสาเหตุที่สร้างความไม่พอใจให้กับคนอังกฤษก็เป็นปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่, ค่าครองชีพที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์, ภาษีและปัญหาผู้ลี้ภัย
ทั้งนี้หากผลเลือกตั้งเป็นไปตามที่โพลชี้ ซูแน็คก็จะเดินทางไปเข้าเฝ้าพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เพื่อยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (ศุกร์ที่ 5 กค.) จากนั้นสตาร์เมอร์ก็จะเข้าเฝ้าเพื่อรับการแต่งตั้งเป็นผู้นำคนต่อไปของอังกฤษ ก่อนที่จะไปเข้าทำเนียบรัฐบาลที่ถนนดาวนิ่งเพื่อกล่าวปราศรัยในฐานะนายกรัฐมนตรี จากนั้นสตาร์เมอร์ก็จะเริ่มกระบวนการจัดตั้งคณะรัฐบาลต่อไป