AFP, AP และเซาธ์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่านางโยโกะ คามิกาวะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นและนายกิลเบอร์โต ทีโอโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ได้ลงนามในข้อตกลงต่างตอบแทนด้านการทหารระหว่างกัน (RAA) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (8 กค.)ที่กรุงมะนิลา โดยมีประธานาธิบดีเฟอร์ดินานท์ มาร์กอส จูเนียร์ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
ข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงฉบับนี้ถือเป็นฉบับแรกที่ญี่ปุ่นลงนามกับประเทศในกลุ่มอาเซียนและเอเชีย และมีขึ้นหลังจากญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์เริ่มหารือกันตั้งแต่พฤศจิกายนที่ปีแล้ว (2566) โดยมีเนื้อหาให้ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นสามารถซ้อมรบร่วม, ปฎิบัตการทางทหารร่วม และสามารถส่งกองกำลังของตนไปยังดินแดนของอีกฝ่ายได้ ซึ่งหมายความว่าหลังจากข้อตกลงฉบับนี้ผ่านการรับรองเป็นกฎหมาย ญี่ปุ่นก็จะสามารถส่งทหารเข้ามาที่ฐานทัพฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้ได้
ทั้งนี้นายมิโนรุ คิฮาระ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่นได้ร่วมเดินทางมาและได้มีการหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ด้วย
จีนได้กล่าวหาสหรัฐว่ามีความพยายามที่จะสร้างกลุ่มความร่วมมือด้านการทหารในเอเชียหรือนาโตเอเชีย และการลงนามความร่วมมือด้านการทหารระหว่างญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ก็มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนกับฟิลิปปินส์และจีนกับไต้หวัน สองพันธมิตรเอเชียของสหรัฐ
ญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์เคยขัดแย้งกันในอดีตหลังญี่ปุ่นส่งกองทัพเข้ารุกรานและยึดฟิลิปปินส์ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ความสัมพันธ์เริ่มใกล้ชิดมากขึ้นจากการค้าการลงทุนระหว่างกัน และล่าสุดมีเป้าหมายเดียวกันคือร่วมสกัดอิทธิพลของจีนที่กำลังเติบโตขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ญี่ปุ่นยังเป็นผู้จัดส่งอุปกรณ์ด้านความมั่นคงเช่นเรือลาดตระเวณและระบบเฝ้าระวังชายฝั่งให้กับฟิลิปปินส์ด้วย
ญี่ปุ่นทำข้อตกลงที่มีเนื้อหาคล้ายกันกับออสเตรเลียเมื่อปี 2565 และกับอังกฤษเมื่อปีที่แล้ว (2566)