ข่าวที่น่าสนใจ
จากนั้นขับรถยนต์หลบหนีแล้วมีผู้พบว่ารถถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ โดยตำรวจตรวจสอบพบรอยเลือดสดจำนวนมากภายในรถ ซึ่งต่อมาสามารถติดตามจับกุมตัว นายนิพิฐพนธ์ สมบูรณ์สุขยิ่ง อายุ 26 ปี ผู้ต้องหา ไปสอบสวนที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ โดยนายพินิจพนธ์ ถูกจับกุมได้ที่บ้านพักในอำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พร้อมของกลางทองรูปพรรณ น้ำหนักประมาณ 70 บาท พร้อมปืนกล็อก 19 ขนาด 9 มม. และเสื้อผ้าที่สวมใส่ตอนก่อเหตุ
ล่าสุดเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 8 ก.ค.67 ที่บริเวณศาลา 1 ก่อนถึงวัดผาลาด เส้นทางขึ้นดอยสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโทกฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน, แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุไปชี้จุดฆ่าชิงรถยนต์จากคนขับรถรับส่งผู้โดยสารผ่านแอปพลิเคชั่นและนำศพไปทิ้งในป่าที่เป็นเหวลึกลงไปประมาณ 50 เมตร ซึ่งทราบว่าผู้ตาย คือ ว่าที่ร้อยโทสุเทพ ชัยนันตา อายุ 48 ปี ชาวอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกโรยตัวลงไปเพื่อนำศพขึ้นมาให้แพทย์ทำการตรวจชันสูตรเบื้องต้นก่อนที่จะนำไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ขณะเดียวกันพบว่ามีกลุ่มเพื่อนของผู้ตายมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย พร้อมกับตะโกนต่อคนร้ายด้วยความโกรธแค้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถกันเอาไว้ได้
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเช้ามืดวันนี้ (8 ก.ค.) คนร้ายได้ขับรถไปจอดทิ้งไว้ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกาแล เชิงดอยสุเทพ ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วเดินเท้าลัดเลาะป่าขึ้นไปถึงริมถนนทางขึ้นดอยสุเทพใกล้กับน้ำตกผาลาด และเรียกรถยนต์โดยสารผ่านแอปพลิชั่นให้มารับที่จุดดังกล่าว ซึ่งเมื่อขึ้นไปนั่งบนเบาะด้านหลังรถแล้วทางคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงคนขับจนเสียชีวิตทันที จากนั้นนำศพไปทิ้งในป่าที่เป็นเหวลึกลงไป ก่อนที่จะขับรถออกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและไปก่อเหตุชิงทองบนห้างดัง เสร็จแล้วนำรถไปจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทางขึ้นดอยสุเทพ
จากนั้นกลับไปเอารถของตัวเองที่จอดทิ้งไว้ใช้ขับไปตระเวนนำทองที่ชิงมาได้ไปขายย่านกาดหลวงเชียงใหม่ แต่ไม่มีร้านใดรับซื้อ เนื่องจากเห็นสัญลักษณ์ของร้านทองที่คนร้ายก่อเหตุติดอยู่ ซึ่งหลังจากที่ขายให้กับร้านทองในตัวเมืองไม่ได้ คนร้ายจึงนำไปตระเวนขายให้กับร้านทองในอำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ด ร้านละ 2 บาท รวมเป็น 4 บาท และได้เงินไปจำนวนหนึ่ง แล้วกลับไปที่บ้านพัก
กระทั่งตำรวจติดตามจับกุมตัวได้ในที่สุด พร้อมทองคำของกลางที่เหลืออยู่อีกประมาณ 70 บาท โดยจากการสอบสวนและลักษณะการก่อเหตุแล้วเชื่อว่าคนร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดีก่อนที่จะลงมือก่อเหตุ เนื่องจากตามประวัติพบว่าคนร้ายเป็นเด็กติดเกม ชื่นชอบการเล่นเกมวางแผนและใช้ความรุนแรง ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น คาดว่ามาจากปัญหาทางการเงิน เพราะไม่ได้ทำงานหรือประกอบอาชีพใดๆ ซึ่งจากนี้จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
