“ทนายอนันต์ชัย” จัดเต็ม โพสต์เตือนแม่สามเณร ปมขอรับบริจาค

ทนายอนันต์ชัย ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม โพสต์เตือนแม่สามเณรรูปหนึ่ง ปมขอรับบริจาค

“ทนายอนันต์ชัย” จัดเต็ม โพสต์เตือนแม่สามเณร ปมขอรับบริจาค – Top News รายงาน

ทนายอนันต์ชัย

กลายเป็นประเด็นมาแรงอีกครั้ง บนโลกออนไลน์ เมื่อทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงกรณี แม่สามเณรรูปหนึ่ง และการรับบริจาค โดยระบุว่า.. การขอรับบริจาค ผิดกฎหมาย หรือไม่ ?

มีแม่สามเณร รูปหนึ่ง ขอรับบริจาค สร้างสถานปฏิบัติธรรม การกระทำดังกล่าวผิดกฎหมายหรือไม่ ? มีหลักกฎหมายให้พิจารณาอยู่หลายเรื่องดังนี้
1. พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487
“การเรี่ยไร” หมายความรวมตลอดถึงการซื้อขาย แลกเปลี่ยน ชดใช้ หรือบริการ ซึ่งมีการแสดงโดยตรงหรือโดยปริยาย ว่ามิใช่เป็นการ ซื้อขาย แลกเปลี่ยน ชดใช้ หรือบริการธรรมดา แต่เพื่อรวบรวมทรัพย์สิน ที่ได้มาทั้งหมดหรือบางส่วนไปใช้ในกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นด้วย มาตรา 5 ห้ามมิให้จัดให้มีการเรี่ยไร หรือทําการเรี่ยไร ดังต่อไปนี้
(1) การเรี่ยไรเพื่อรวบรวมทรัพย์สินมาให้หรือชดใช้แก่จําเลยเพื่อใช้เป็นค่าปรับ เว้นแต่จะเป็นการเรี่ยไรในระหว่าง วงศ์ญาติของจําเลย
(2) การเรี่ยไรโดยกําหนดเก็บเงินหรือทรัพย์สินอย่างอื่นเป็นอัตราโดยคํานวณตามเกณฑ์ปริมาณสินค้า ผลประโยชน์หรือวัตถุอย่างอื่น
(3) การเรี่ยไรอันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมทรามแก่ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน มาตรา 8 การเรี่ยไรในถนนหลวงหรือในที่สาธารณะ การเรี่ยไร โดยโฆษณาด้วยสิ่งพิมพ์ ด้วยวิทยุกระจายเสียงหรือด้วยเครื่องเปล่งเสียงจะจัดให้มีหรือทำได้ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว ข้อความในวรรคก่อนนี้มิให้ใช้บังคับแก่
(1) การเรี่ยไรซึ่งได้รับอนุญาตหรือได้รับยกเว้นตามมาตรา 6
(2) การเรี่ยไรเพื่อกุศลสงเคราะห์ใน โอกาสที่บุคคลชุมนุมกันประกอบศาสนกิจ
(3) การเรี่ยไร โดยขายสิ่งของในงานออกร้าน หรือในที่นัดประชุมเฉพาะแห่งอันได้จัดให้ขึ้นโดยชอบด้วยกฎหมาย
มาตรา 17 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 5 มาตรา 6 วรรคแรกมาตรา 8 วรรคแรก มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองร้อยบาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ

ข่าวที่น่าสนใจ

2.พรบ. ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559
มาตรา 13 ห้ามบุคคลใดทำการขอทานการกระทำอย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้ให้ถือว่าเป็นการขอทาน
(1) การขอเงินหรือทรัพย์สินจากผู้อื่นเพื่อเลี้ยงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจาหรือการแสดงกิริยาอาการใด
(2) การกระทำด้วยวิธีการใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้ มาตรา 19 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 13 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
3.ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 341 ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 343 ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
4. พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560
มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา
จากบทกฎหมายดังกล่าว ผมความเห็นว่า การโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์(เพจเฟสบุ๊ค)ที่เปิดเป็นสาธารณะนั้น มีเจตนาที่จะให้ประชาชนทั่วไปที่อาจเข้าถึงได้ให้ร่วมบริจาคเงิน น่าจะเป็นการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พรบ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ.2487 มาตรา 5(2),(3) มาตรา 8 ,มาตรา 17 มีโทษปรับไม่เกิน 200 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ
และอาจจะมีความผิดตาม พรบ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13 (1),(2) ตามมาตรา 19 มีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ การขอรับการสนับสนุนเงินบริจาคนั้น หากมีการหลอกลวงหรือมีเจตนาในการฉ้อโกง หรือฉ้อโกงประชาชน ก็จะมีความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 หรือมาตรา 343 แล้วแต่กรณี รวมไปถึงมีความผิดตาม พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14 (1) มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท สุดท้าย ก็อาจจะถูกตรวจสอบทรัพย์สิน เนื่องจากความผิดข้อหาฉ้อโกงประชาชนนั้น เป็นความผิดมูลฐาน ตามพรบ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน อีกด้วย และการเรี่ยไรดังกล่าวถือว่ามีรายได้จากการบริจาค ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยครับ
ฝากเตือนแม่สามเณรและบุคคลที่คิดจะขอรับบริจาค ท่านกำลังทำผิดกฎหมายครับ
ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช
(ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองปราบฯ" รับโอนคดี "ซินแสชื่อดัง" หลอกผู้เสียหายสูญเงิน 66 ล้าน
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 6 (ตรัง) ศึกษาดูงานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล
"นครราชสีมา" เสี่ยงภัยแล้ง 10 อำเภอ ชลประทานประกาศงดทำนาปรังทั้งจังหวัด
"อัจฉริยะ" แจงผลสอบ "อาหารเสริม Eighteen 18" พบมีเลข อย.ถูกต้อง
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ชี้เจรจา MOU 44 ถามคนไทยหรือยัง เอาพลังงานหรืออธิปไตย
สุดเศร้า "นักเรียน ม.4" เรียนวิชาพละ  วิ่งได้ 200 เมตร หัวใจวายเสียชีวิต
"ณัฐวุฒิ" โอ่คนไทยอ่านขาดแล้ว เกมฝ่ายขวาจัด ปลุกชาตินิยม ล้มรบ. เย้ยรอบนี้ไม่ง่ายเหมือนก่อน
เปิด 40 รายชื่อ สรุปยอดผู้สมัคร ป.ป.ช. พบคนดังเพียบ
"ยายวัย 80 ปี" เครียดอยากจบชีวิต หลังถูก "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี
"ร้านเนื้อย่างดัง" โพสต์ตามหา "ลูกค้า" โอนเงินค่าอาหารเกิน 2 แสนบาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น