เปิดรายชื่อ 200 สว.-บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 ราย เช็กเลยมีใครบ้าง

เปิดรายชื่อ 200 สว.-บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 ราย เช็กเลยมีใครบ้าง

Top news รายงาน วันที่ 10 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ที่ประชุม กกต.มีมติรับรองผลการเลือก สว. 2567 ว่า เงื่อนไขตามกฎหมายตามมาตรา 42 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หาก กกต.เห็นว่า การเลือกเป็นไปโดยถูกต้อง หรือความชอบ ความควรตามกฎหมาย สุจริต ก็คือการกระทำที่ไม่เป็นการฝ่าฝืนกฎหมาย เที่ยงธรรม ก็คือการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย 3 เงื่อนไขนี้ กกต.จึงจะประกาศผลการเลือกได้ สิ่งที่จะพิจารณาเป็นไปตามเงื่อนไขคือ มีการกระทำผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หรือไม่ ซึ่งสำนักงาน กกต.เป็นหน่วยงานธุรการของ กกต. จึงรวบรวมกลุ่มความผิดที่อาจทำให้การพิจารณาที่มาใช้เป็นเงื่อนไขการประกาศผล สว.ครั้งนี้ แบ่งเป็น กลุ่มแรกคือ คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม หมายถึงการสมัครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง กลุ่มสอง กระบวนการเลือกคือกระบวนการเลือกตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ กลุ่มสาม ความไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ที่สังคมใช้คำว่า จัดตั้ง บล็อกโหวต หรือฮั้ว นี่คือ 3 กลุ่มความผิดที่สำนักงาน กกต.ได้จัดกลุ่ม

 

นายแสวง กล่าวว่า กรณีผู้สมัครรับเลือก สว. คุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ข้อมูลพื้นฐานที่จะพิจารณาเรื่องนี้ มีผู้สมัครสนใจมาสมัครช่วงเปิดสมัคร 5 วัน 48,117 คน ผอ.ระดับอำเภอ ไม่รับสมัครจำนวน 1,917 คน นั่นหมายความว่าได้ตรวจสอบเบื้องต้น และเมื่อ ผอ.รับสมัครไปแล้ว ท่านได้ลบชื่อก่อนมีการเลือกระดับอำเภอ 526 คน ต่อมาในชั้นจังหวัด ผอ.จังหวัด ได้ลบผู้มีสิทธิเลือกไปอีก 87 คน ต่อมาระดับประเทศ ผอ.ระดับประเทศ ได้ลบอีก 5 คน ที่บอกว่า กกต.ไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม จึงอาจไม่ตรงกับข้อเท็จจริง สรุปแล้วเราได้ตรวจสอบ และคัดคนที่ไม่มีคุณสมบัติออกไปเกือบ 3 พันคน

นายแสวง กล่าวอีกว่า กกต.ได้มีมติให้ใบส้ม คุณสมบัติตามมาตรา 20 วรรคสาม วรรคสี่ คือระงับสิทธิสมัครชั่วคราว จำนวน 89 ใบ เฉพาะเรื่องคุณสมบัติตามมาตรา 20 วรรคสาม วรรคสี่ รวมทั้งส่งให้ศาลฎีกาพิจารณาเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง และอีก 1 คน ที่พิจารณาคือ ตามมาตรา 60 เพราะหลังกระบวนการเลือกแล้ว ที่ให้เพราะว่าผู้มีสิทธิเลือกเหล่านี้ ทำให้การเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ในส่วนของผู้มีสิทธิเลือกตั้งระดับอำเภอ ที่ลบชื่อไป 526 คน จะไม่มีคำสั่งให้ใบส้ม เพราะยังไม่เข้ามาในระบบ แต่ว่าทุกคนที่ถูกลบชื่อ จะถูกพิจารณาว่า รู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิแล้วไปสมัครรับเลือกหรือไม่ ซึ่งเป็นคดีอาญา เป็นคนละส่วนกัน

 

เปิดรายชื่อ 200 สว.-บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 ราย เช็กเลยมีใครบ้าง

 

เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า สำหรับเรื่องร้องเรียนที่เคยบอกว่ามี 65% นี่คือเรื่องเหล่านี้ อยู่ใน 65% ที่ร้องเรียนทั้งหมดด้วย เป็นกรณีความปรากฏ เราไปรวมเรื่องร้องเรียนด้วย โดยแบ่งเป็น ผู้สมัครมาร้องเอง ความปรากฏต่อเรา และเราลบชื่อ ทำให้เรื่องร้องเรียนที่เคยบอกครั้งแรกว่ามี 600 กว่าเรื่อง เป็นเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด และทุกวันนี้มีเรื่องร้องเรียนรวม 800 กว่าเรื่อง ทำให้ตอนนี้เหลือเรื่องร้องเรียนเหลือ 200 กว่าเรื่อง ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด มาระดับประเทศ

ในส่วนคุณสมบัติผู้สมัครและลักษณะต้องห้ามนั้น นายแสวง กล่าวว่า เราได้ตรวจสอบทุกคน ไม่ว่าจะเป็น 200 หรือตัวสำรอง 100 หรือผู้สมัครระดับอำเภอหรือจังหวัด อยากให้ข้อมูลเกี่ยวกับการสมัครในกลุ่มที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ว่า คนแบบนี้ไปอยู่กลุ่มนั้นกลุ่มนี้ได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องของสำนักงานฯ ระดับอำเภอ ได้ให้ซักซ้อมข้อกฎหมายแต่ต้นว่า สังคมอาจเข้าใจไม่ตรงมาก เพราะว่าเวลาพูดถึงคือกลุ่มอาชีพ แต่ตามรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.ป.เลือก สว. ไม่มีกลุ่มอาชีพ เป็นกลุ่มของด้าน 20 ด้าน ในด้านมีอาชีพเป็นส่วนหนึ่งของคนประเภทหนึ่งที่จะอยู่ในด้านนั้น ในแต่ละกลุ่มของด้าน มีคนแต่ละประเภทสมัครได้ ไม่ใช่อาชีพอย่างเดียว เช่น ความรู้ในด้านนั้น ความเชี่ยวชาญในด้านนั้น อาชีพในด้านนั้น ประสบการณ์ในด้านนั้น มีลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงานร่วมกัน คน 6 ประเภทสามารถเข้าไปอยู่ในด้านต่าง ๆ ได้ อาชีพเป็นเพียงประเภทหนึ่งในกลุ่มนั้นเท่านั้น กฎหมายเปิดกว้างให้ประชาชนชาวไทยมีโอกาสที่จะสมัครรับเลือก สว.อยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งได้อย่างกว้างขวาง โดยมีผู้รับรอง 1 คน ซึ่ง กกต.ตรวจสอบไปแล้ว

 

เลขาธิการ กกต.กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มความผิดเรื่องการดำเนินการในวันเลือก คือระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ มีสำนวนที่มาร้องที่เรา 3 สำนวน ได้พิจารณาจบแล้ว สำนวนไปร้องที่ศาลฎีกา 18 คดี เป็นไปตามมาตรา 44 แห่ง พ.ร.ป.เลือก สว. โดยศาลฎีกาได้ยกคำร้องทุกคดีแล้ว

ส่วนการร้องเรียนประเด็นเลือกโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรมนั้น นายแสวง กล่าวว่า ตอนนี้มี 47 เรื่อง เช่น ที่สังคมเรียกว่าฮั้ว บล็อกโหวต จัดตั้ง ในส่วนนี้สำนักงาน กกต.ได้รวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควรแล้ว ลักษณะที่รวบรวมมามีเป็นขบวนการ ต้องใช้หลักฐานทางวิทยาศาสตร์มาพิจารณา สำนักงาน กกต.ได้ขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) 10 คน และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) 10 คน และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) 3 คน ทั้งหมดเป็นระดับผู้บังคับบัญชา ประสานงานกันมาตลอดสัปดาห์หนึ่งแล้ว เป็นความร่วมมือที่สำนักงาน กกต.ขอใช้เครื่องมือ เพื่อเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เพื่อหาคนอยู่เบื้องหลังว่าจะไปได้ถึงไหน อย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาว่าเกิดการกระทำให้การเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริต

“เมื่อดำเนินการมาถึงขั้นนี้จะเห็นว่า ถามว่าการเลือกถูกต้องหรือไม่ เราจะพิจารณาจากกระบวนการเลือกในวันเลือกคือวันที่ 9 วันที่ 16 และ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทุกคดีได้จบไปหมดแล้ว ผู้สมัครไปร้องศาลฎีกา 18 คดีก็จบไปแล้ว นั่นคือไม่มีคดีคั่งค้างที่ศาลฎีกาอีกแล้ว นั่นถือว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยชอบ” เลขาธิการ กกต.กล่าว

 

 

 

เลขาธิการ กกต.กล่าวด้วยว่า ในส่วนความไม่สุจริต คือความชอบตามกฎหมาย เมื่อมีคำร้องสำนักงาน กกต.ได้รับเป็นสำนวนไว้แล้ว ขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้ตามสมควร ข้อมูล ณ วันนี้ยังไม่พอเพียงที่จะบอกว่าเขากระทำความผิด สำนักงาน กกต.ต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมในชั้นนี้ จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม เพราะการนำหลักฐานไปยื่นกับศาลฎีกา กฎหมายบอกว่า ต้องมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าการเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริต สำนักงาน กกต.ต้องพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานที่เรามีอยู่มาเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อยุติ เพื่อให้เกิดความเที่ยงธรรม คือการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ฝ่ายผู้ร้อง หรือผู้ถูกร้อง เมื่อดำเนินการตามระเบียบสืบสวน หรือไต่สวน ต้องให้โอกาสเขาพิสูจน์ข้อกล่าวหา ข้อเท็จจริง มีโอกาสแก้ข้อกล่าวหา ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย นี่คือความเที่ยงธรรมที่ทุกฝ่ายจะได้รับจาก กกต.

“ด้วยเหตุดังกล่าว ณ วันนี้ กกต.พิจารณาแล้วเห็นว่า การเลือก สว.2567 เป็นไปด้วยความถูกต้อง สุจริต และเที่ยงธรรม จึงมีมติประกาศผลการเลือก สว. ของแต่ละกลุ่ม โดยทั้ง 20 กลุ่ม ลำดับที่ 1-10 ของแต่ละกลุ่มเป็น สว. ส่วนลำดับที่ 11-15 ของแต่ละกลุ่ม เป็นบัญชีสำรอง ยกเว้นกลุ่มที่ 18 ซึ่ง กกต.ได้ระงับสิทธิชั่วคราวของผู้ได้รับเลือกเป็น สว. ที่อยู่ในลำดับที่ 1-10 จึงต้องเลื่อนลำดับที่ 11 ตามระเบียบของ กกต.ฉบับที่ 3 ขึ้นไปอยู่ในลำดับที่ 10 แทน” นายแสวง กล่าว

นายแสวง กล่าวด้วยว่า สรุปแล้วก็คือ กกต.มีมติเห็นชอบให้ประกาศผู้ได้รับคะแนนจำนวน 200 คน เพื่อให้เปิดสภาฯได้ ส่วนที่สำรองมี 99 คน เพราะกลุ่ม 18 เหลือสำรองอยู่ 4 คน โดยผู้ที่ได้รับประกาศทั้ง 200 คน ให้มารับหนังสือรับรองการได้รับเลือกเป็น สว. เพื่อเป็นหลักฐานในการรายงานตัวกับสำนักเลขาธิการวุฒิสภา 2 วัน ในวันที่ 11-12 ก.ค. 2567 เวลา 08.30-16.30 น.

นายแสวง กล่าวอีกว่า การประกาศไปก่อนแล้วมาสอยทีหลัง เป็นการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 226 และ พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง สว.มาตรา 62 ส่วนที่ได้ใบส้มไป 1 คน จนต้องเลื่อนสำรองมาแทน เพราะพบความผิดชัดเจนในเรื่องของคุณสมบัติต่อข้อถามว่าการที่กกต. ประกาศบัญชีสำรอง 99 คน จะขัดกับกฎหมายที่ให้กกต.ต้องประกาศบัญชีสว. 200 คน และบัญชีสำรอง 100 คน หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ก็ทำไปแล้ว ซึ่งตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 42 ไม่ได้เขียนกรณีดังกล่าวไว้ แต่ กกต. มาออกระเบียบ กกต. ว่าด้วยการเลือก สว. ฉบับที่ 3 ข้อ 154/1 ให้ กกต. สามารถเลื่อนบัญชีสำรองขึ้นมาแทนได้

ส่วนที่ถามว่า ก่อนหน้านี้ศาลปกครองเคยเพิกถอนบางข้อของระเบียบดังกล่าว กังวลหรือไม่ ว่าจะถูกเพิกถอนอีก นายแสวงกล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่เมื่อข้อเท็จจริงออกมาเช่นนี้ก็ต้องดำเนินการ และทำไปแล้ว หากไม่เลื่อนจะเป็นปัญหามากกว่านี้ เพราะจะเปิดสภาไม่ได้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวสะท้อนว่า กกต. ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อถามต่อว่า ทำไม่ไม่รับรองไปก่อนแล้วค่อยมาสอยทีหลัง จะได้ไม่เกิดปัญหา นายแสวง กล่าวว่า มีคำพิพากษาของศาลฎีกาวินิจฉัยวางแนวเอาไว้แล้ว เมื่อเราพบ ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้ว่าจะหลีกเลี่ยงได้อย่างไร วันนี้จะส่งประกาศราชกิจจานุเบกษา

รายงานข่าวแจ้งว่า บุคคลที่ถูก กกต.ระงับสิทธิชั่วคราวหรือแจก “ใบส้ม” คือ น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.อ่างทอง ลำดับที่ 4 กลุ่ม 18 กลุ่มสื่อสารมวลชน โดยระบุในประวัติการทำงานว่า “ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายหมู่บ้าน เป็นประชาสัมพันธ์อำเภอไชโย” อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.คอดียะฮ์ เป็นที่ปรึกษา นายก อบจ.อ่างทอง จึงถูกระงับสิทธิชั่วคราว ทำให้เลื่อนว่าที่ พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ ผู้ได้รับเลือกเป็น สว.ลำดับที่ 11 ซึ่งอยู่ในบัญชีสำรองเลื่อนขึ้นมาอยู่ในบัญชีตัวจริงลำดับ 10 โดยว่าที่ พ.ต.กรพด อดีตประธานรุ่น 5 หลักสูตร “พัฒนาสัมพันธ์เครือข่ายความมั่นคงระดับผู้บริหาร” (พคบ.) ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) มาแทน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับรายชื่อสว.200 คน และสำรอง 99 คน มีดังนี้
สำหรับรายชื่อสมาชิกวุฒิสภา 200 คน จาก 20 กลุ่มอาชีพกลุ่มอาชีพละ 10 คน และสำรองกลุ่มอาชีพละ 5 คน ประกอบด้วย

กลุ่ม1 กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง
1.พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์
2.นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี
3.นายมงคล สุระสัจจะ
4.นายธวัช สุระบาล
5.นายวร หินดี
6.พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา
7.พล.ท.สุกิจ ทั่งทอง
8.นายอภิชาติ งามกมล
9.พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร
10.นายอภินันท์ เผือกผ่อง

สำรองได้แก่
1.พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
2.นายภิญโญ ประกอบผล
3.พ.อ.ไพบูลย์ พัสดร
4.พล อ.นุชิต ศรีบุญส่ง
5.นายสมชัยฐ์ หทยะตันย์ติ

กลุ่ม2 กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม
1.พล.ต.ท.บุญจันทร์ นวลสาย
2.พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร
3.นายเศก จุลเกษร
3.นายสืบศักดิ์ แววแก้ว
5.พล.ต.ต.สุนทร ขวัญเพ็ชร
6.พ.ต.ท.สุริยา บาราสัน
7.นายบุญส่ง น้อยโสภณ
8.นายฉลอง ทองนะ
9.พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง
10.พล.ต.ท.วันไชย เอกพรพิชญ์

สำรองได้แก่
1.นายอุลิช ดิษฐปราณีต
2.พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว
3.นายชำนาญพัฒน์ หาญแก้ว
4.นายพงศกรณ์ ตั้งกิตติ์ตระกูล
5.น.ส.วิยะดา มุ่งผล

กลุ่ม3 กลุ่มการศึกษา
1.นายอัษฎางค์ แสวงการ
2.นายสมทบ ถีระพันธ์
3.นายวิวัฒน์ รุ้งแก้ว
4.นายสุเทพ สังข์วิเศษ
5.นายโสภณ ผาสุข
6.นายสามารถ รังสรรค์
7.นายนิฟาริด ระเด่นอาหมัด
8.นายสุทิน แก้วพนา
9.นายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ
10.นายกมล รอดคล้าย

สำรองได้แก่
1.นางอรทัย มูลคำ
2.น.ส.จิตรา พีชะพัฒน์
3. นายธนชน มุทาพร
4.นายบุญรักษ์ยอดเพชร
5.นายสมจิต สุวรรณบุษย์

กลุ่ม 4 สาธารณสุข
1.นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล
2.นายสมบูรณ์ หนูนวล
3.นายบุญชอบ สระสมทรัพย์
4.นางนงลักษณ์ ก้านเขียว
5.นายฤชุ แก้วลาย
6.นางพลินจิต ขันแก้ว
7.นายวันชัย แข็งการเขตร
8.นายเปรมศักดิ์ เพียยุระ
9.น.ส.วิธาวีร์ ประทุมสวัสดิ์
10.นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย

สำรองได้แก่
1. นายชัยรัตน์ ธรรมสุภาพงศ์
2.นายประชา กัญญาประสิทธิ์
3.นางศิรินทร สนธิศิริกฤตย์
4 นายสุชาติ เอื้อพันธุ์พงศ์
5 นายไพโรจน์ บุญศิริคำชัย

กลุ่ม 5 กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก
1.นายสมศักดิ์ จันทร์แก้ว
2.น.ส.อมร ศรีบุญนาค
3.นางปวีณา สาระรัมย์
4.นายสมชาย นุ่มพูล
5.นายพิมาย คงทัน
6.นายสาลี สิงห์คำ
7.นางกัลยา ใหญ่ประสาน
8.นายเดชา นุตาลัย
9.น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค
10.นายชูชาติ อินสว่าง

สำรองได้แก่
1.นายทรงพลพู ลสวัสดิ์
2.นายมนัส ไหวพริบ
3.น.ส.ณัฐนันท์ ทองดีวงศ์
4.นายโกเมท เกิดสมบัติ
5.นายธนกฤต ทองเต็ม

กลุ่ม 6 กลุ่มอาชีพทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง
1.นายเตชสิทธิ์ ชูแก้ว
2.นายวิรัตน์ ธรรมบำรุง
3.น.ส.มาเรีย เผ่าประทาน
4.นายยะโก๊ป หีมละ
5.นายนิสิทธิ์ ปนกลิ่น
6.นายจรุณ กลิ่นตลบ
7.นายธนกร ถาวรชินโชติ
8.นายโชติชัย บัวดิษ
9.นายอิสระ บุญสองชั้น
10.นายเศรณี อนิลบล

สำรองได้แก่
1.นายสมศักดิ์ คงเทศ
2.นายสง่า มังคละ
3.นายนำศักดิ์ อุทัยศรีสม
4.นายวิถี สุพิทักษ์
5 นายตรีพล เจาะจิตต์

กลุ่ม7.กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้าง ที่ไม่ใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้ใช้แรงงาน
1.นายชินโชติ แสงสังข์
2.น.ส. เข็มรัตน์ สุรเมธีมาณพ
3.น.ส.วิภาพร ทองโสด
4.นายประกาสิทธิ์ พลซา
5.นายจตุพร เรียงเงิน
6.นางสมพร วรรณชาติ
7.นายชวภณ วัธนเวคิน
8.นายแล ดิลกวิทยรัตน์
9.นายปิยพัฒน์ สุภาวรรณ
10.นายอมรศักดิ์ กิจธนานันท์

สำรองได้แก่
1.นายร่มไทร ทิพยเศวต
2 .นายอุทัย อัตถาพร
3 น.สศรีไพรนนทรีย์
4.นายจารุดล เขมิการัศมีกุล
5.นายภัทรพล เพชรพรหม

กลุ่ม 8 กลุ่มอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน
1.นายจิระศักดิ์ ชูความดี
2.นายชีวะภาพ ชีวะธรรม
3.นายสัมพันธ์ ชัยวิเศษจินดา
4.นายไพบูลย์ ณะบุตรจอม
5.นายนิรัตน์ อยู่ภักดี
6.นายอภิชา เศรษฐวราธร
7.นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์
8.นายนพดล อินนา
9.นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์
10.นายปฏิมา จีระแพทย์

สำรองได้แก่
1.นายไตรวินิจ ตู้จินดา
2.น.ส.เพียงพร ดีเทศน์
3. นายปัญญา โตกทอง
4. นายดิเรก เหมนคร
5.นายโองการ ยาสิงห์ทอง

กลุ่ม9 กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม
1.นายนิพนธ์ เอกวานิช
2.นางวรรษมนต์ คุณแสน
3.นายพิชาญ พรศิริประทาน
4.นางสุมิตรา จารุกำเนิดกนก
5.นางสมศรี อุรามา
6.นางเบ็ญจมาศ อภัยทอง
7.นายชัยธัช เพราะสุนทร
8.น.ส.มณีรัฐ เขมะวงค์
9.น.ส.ชญาน์นันท์ ติยะตระการชัย 10.นายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร

สำรองได้แก่
1.นายสมชาย สาโรวาท
2.นางสุจิตรา ผาลีพัฒน์
3.นายชัยณรงค์ เยาวลักษณ์
4. นายอารักษ์ พลอยพาณิชย์
5.นายธนาธิป พรหมมชื่น

กลุ่ม 10 กลุ่มผู้ประกอบกิจการอื่นนอกจากกลุ่ม 9
1.นายโสภณ มะโนมะยา
2.นายรุจิภาส มีกุศล
3.พ.ต.ท.สง่า ส่งมหาชัย
4.นางแดง กองมา
5.นายสมพาน พละศักดิ์
6.นายสุนทร เชาว์กิจค้า
7.นายนิคม มากรุ่งแจ้ง
8.นายสหพันธ์ รุ่งโรจน์พณิชย์
9.นายนิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล
10นายมังกร ศรีเจริญกุล

สำรองได้แก่
1.นายภิญโญ ขันติยู
2. นายสามารถ รัตนประทีปพร
3.ส.อ.อัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล
4.นางฉัฐสุภา พงษ์เสนา
5.นายปฏิมา เหล่าชัย

กลุ่ม11 กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว
1.นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร
2.นายกัมพล สุภาแพ่ง
3.นายพิศูจน์ รัตนวงศ์
4.น.ส.ภาวนา ว่องอมรนิธิ
5.นายอัครวินท์ ขำขุด
6.นายสุวิทย์ ขาวดี
7.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์
8.นายณภพ ลายวิเศษกุล
9.นางประทุม วงศ์สวัสดิ์
10นายกมล สุขคะสมบัติ

สำรองได้แก่
1.นางชโลมใจ ชยพันธนาการ
2.นายกฤษฎนันต์ ทองวิภาวรรณ
3.นายธัญยะ พูลสวัสดิ์
4.นายพันธ์เลิศ ใบหยก
5.นางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์

กลุ่ม 12 กลุ่มผู้ประกอบอุตสาหกรรม
1.นางวราภัสร์ ไพพรรณรัตน์
2.นางธารนี ปรีดาสันติ์
3.นางรจนา เพิ่มพูล
4.น.ส.ปุณณภา จินดาพงษ์
5.นายพละวัต ตันศิริ
6.นายณรงค์ จิตราช
7.นาย ธนชัย แซ่จึง
8.นายวีรยุทธ สร้อยทอง
9.น.ส.ตวงคุณ ทรงธรรมวัฒน์
10.นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต

สำรองได้แก่
1. นายสาโรจน์ สุวรรณวงศ์
2. นายชัชชัย ชินธรรมมิตร
3. นายรังสรรค์ สบายเมือง
4. นายนิพนธ์จิระนรวิชช์
5. นายวิวัฒน์ ทีฆคีรีกุล

กลุ่ม13 กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนานวัตกรรม
1.นายสรชาติ วิชยสุวรรณพรหม
2.นายพรเพิ่ม ทองศรี
3.นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์
4.นายกัมพล ทองชิว
5.นายสิทธิรัชต์ จารุไชยกุล
6.นายสุพัตรชัย เตียวเจริญโสภา
7.นายขวัญชัย แสนหิรัณย์
8.นายนพดล พริ้งสกุล
9.นายชาญวิศว์ บรรจงการ
10นายมานะ มหาสุวีระชัย

สำรองได้แก่
1. น.ส.ศิริวรรณ คูอัมพร
2.พ.ต.นฤต รัตนพิเชฎฐชัย
3.นายธนวัฒน์ ศรีสุข
4.นายศรีเมืองเจริญศิริ
5นายนันทวัฒน์ จรัสโรจน์ธนเดช

กลุ่ม 14 สตรี
1.นางมยุรี โพธิแสน
2.นางเจียระนัย ตั้งกีรติ
3.น.ส.จารุณี ฤกษ์ปราณี
4.น.ส. อัจฉรพรรณ หอมรส
5.นางอจลา ณ ระนอง
6.นางจุฑารัตน์ นิลเปรม
7.นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์
8.พ.อ.หญิงธณตศกร บุราคม
9.นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย
10.นางวาสนา ยศสอน

สำรองได้แก่
1.น.ส.นฤมล ปิตาทานันท์
2.ณัฐมน ชื่นดวง
3.นางพาณิช แต้กิจพัฒนา
4.นางรุ่งนภา พุฒแก้ว
5.น.ส.พรรณรัตน์ จงอมรรัตน์

กลุ่ม15 กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น
1.นายกฤษณุ เหลืองพิบูลกิจ
2.นายกิตติพันธ์ อนันตกูลจิรโชติ
3.นายประเทือง มนตรี
4.นายนิเวศ พันธ์เจริญวรกุล
5.นายสมดุลย์ บุญไชย
6.นายสมหมาย ศรีจันทร์
7.นายชาญณรงค์ พรรุ่งโรจน์
8.นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา
9.นายธนภัทร ตวงวิไล
10.นาย ศรายุทธ ยิ้มยวน

สำรองได้แก่
1. นายชูเกียรติ สิงห์สูง
2. นายปิยวิทย์ โกฎเพชร
3 นายขวัญชัย บุญเพ็ชร
4.นายอานันท์ รองพล
5.นายวีระ เขนย

กลุ่ม16 กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา
1.นายวิวรรธน์ ไกรพิสิทธิ์กุล
2.นายสุวิช จำปานนท์
3.นายนฤพล สุคนธชาติ
4.นายพิบูลย์อัฑฒ์ หฤหรรษ์ปราการ
5.นายวิเชียร ชัยสถาพร
6.นายปราณีต เกรัมย์
7.น.ส.รัชนีกร ทองทิพย์
8.นายอะมัด อายุเคน
9.นายชวพล วัฒนพรมงคล
10.นางเอมอร ศรีกงพาน

สำรองได้แก่
1.นายพิสุทธิ์ ทรัพย์วิจิตร
2.นายณพลเดช มณีลังกา
3.น.ส.ณภัทร โชติพฤกษ์ชูกุล
4.นายศุภชัย มั่นใจตน
5.นายปัญญา หาญลำยวง

 

 

 

กลุ่ม 17 กลุ่มประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์
1.นายนิรุตติ สุทธินนท์
2.นางประไม หอมเทียม
3.นายชาญชัย ไชยพิศ
4.นายสากล ภูลศิริกุล
5.นายภาณุพงษ์ เต็งวงษ์วัฒนะ
6.น.ส.สายฝน กองแก้ว
7.นายศุภโชค ศาลากิจ
8.นายประภาส ปิ่นตบแต่ง
9.นางอังคณา นีละไพจิตร
10.นายประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล

สำรองได้แก่
1.พล.อ.สุรชาติ จิตต์แจ้ง
2.นางนุชนารถ แท่นทอง
3.นายสงบ จินะแปง
4.นายษิทธา เบี้ยบังเกิด
5 นายธัชพงศ์ แกดำ

กลุ่ม18 สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม
1.นายสุทนต์ กล้าการขาย
2.นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล
3.นายสุพรรณ์ ศรชัย
4.น.ส.คอดียะฮ์ ทรงงาม (ระงับสิทธิชั่วคราว)
5.นายศุภชัย กิตติภูติกุล
6.นางอารีย์ บรรจงธุระการ
7.นายจำลอง อนันตสุข
8.นายชิบ จิตนิยม
9.น.ส.นันทนา นันทวโรภาส
10.นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย

สำรองได้แก่
1.ว่าที่พ.ต.กรพด รุ่งหิรัญวัฒน์ (เลื่อนขึ้นมาแทน)
2.น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนีย์ชีวิน
3.นายประทีป คงสิบ
4.นางวราภรณ์ คัตตะพันธ์
5นายสฤษดิ์ ไพรทอง

กลุ่ม 19 กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ
1.น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย
2.นายขจรศักดิ์ ศรีวิราช
3.นายสิทธิกร ธงยศ
4.นายโชคชัย กิตติธเนศวร
5.นายกิติศักดิ์ หมื่นศรี
6.นายเอนก วีระพจนานันท์
7.นายสมชาย เล่งหลัก
8.น.ส.นวลนิจ หงษ์วิวัฒน์
9.นายพรชัย วิทยเลิศพันธุ์
10.นาย สุนทร พฤกษพิพัฒน์

สำรองได้แก่
1.นายธนัชญ์พงศ์ วงศ์มุลาลี
2.นายธีระศักดิ์ อรัญพิทักษ์
3.นายแดน ปรีชา
4.นายธนากร แหวกวารี
5.นายสุรชัย พรจินดาโชติ

กลุ่ม 20 อื่นๆ
1.พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี
2.นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์
3.นายอลงกต วรกี
4.นายณัฐกิตติ์ หนูรอด
5.นายภมร เชาว์ศิริกุล
6.พ.ต.อ.กอบ อัจนากิตติ
7.นายชูชีพ เอื้อการณ์
8.นายวราวุธ ตีระนันทน์
9.นางวลีรักษ์ พัชระเมธาพัฒน์
10.นายเอกชัย เรืองรัตน์

สำรองได้แก่
1.นายปภัชเดช เกตุพันธ์
2.น.ส.ภัทราภรณ์ คิดซ้าย
3. น.ส.ชนัดดา สงพัฒน์แก้ว
4.นายสุชพงศ์ บุญเสริม
5.นายดิชฐ์พิเชษ สุวรรณโพธิ์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อธิบดีเอ็ดดี้ให้ภูเรือเป็นWAR ROOM รับไฟป่า ย้ำจนท.ต้องปลอดภัย
"นักวิจัยไทย" คิดค้นนวัตกรรมแผ่นแปะ สำหรับผู้ป่วย “โรคสะเก็ดเงิน” คว้ารางวัลเหรียญเงินจากเวทีนานาชาติ
"หมอวรงค์" ให้กำลังใจ "แพทยสภาฯ" เดินหน้าสอบเบื้องหลัง"ทักษิณ" นอนชั้น 14 รพ.ตร.
บุกรวบ 2 สามีภรรยา "นายทุนใหญ่" ขบวนการจัดหาบัญชีม้าข้ามชาติ พบเงินหมุนเวียน 5 พันล้าน
"ดีอี" เร่งแก้กฎหมายปราบ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกโอนเงิน เอาผิดแบงก์-ค่ายมือถือ
โซเชียลแชร์ว่อน! "นทท.ต่างชาติ" ไม่สนตำรวจล็อกล้อ ลาก จยย.ไปทั้งโซ่ใครเตือนก็ไม่ฟัง
เชิญชมการแสดงแสง สี เสียง อิงประวัติศาสตร์ชุดการแสดง “ย่าฉันท่านชื่อโม บุญเหลือหลานย่า ผู้กล้าแห่งทุ่งสัมฤทธิ์” รำลึกถึงวีรกรรมของคุณหญิงโม และเหล่าวีรชนผู้กล้าหาญชาวโคราช 18 – 22 ธันวาคมนี้ ณ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จังหวัดนครราชสีมา
ระทึก "กระบะเมาขับ" เลี้ยวตัดหน้า "รถพยาบาล" พุ่งชนสนั่น ขณะนำส่งคนไข้ จนท.เจ็บ 1 ราย
รวบ "หนุ่มจีน" ขนเฮโรอีน 120 กก. ยัดไส้แบตเตอรี่รถยนต์ ขายในไทย 70 ล้าน ส่งออกตปท.เพิ่ม 10 เท่า
เครือข่าย Bizclub จ.กาญจนบุรี เข้าพบนายก อบจ.กาญจนบุรี เพื่อปรึกษาหารือและขอคำแนะนำในแนวทางการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการในจ.กาญจนบุรี รวมถึงการพัฒนาสินค้า OTOP

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น