RT รายงานว่าเมื่อวานนี้ (อังคารที่ 9 กค.) นายเยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการนาโตที่กำลังจะพ้นวาระในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ได้กล่าวอ้างระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต 32 ชาติที่กรุงวอชิงตันดีซีระหว่าง 9-11 กรกฎาคมว่าชัยชนะของรัสเซียในปฏิบ้ติการสู้รบกับยูเครนจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนาโต เนื่องจากจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบด้านความมั่นคงของโลก และว่าผลของสงครามจะเป็นตัวกำหนดโครงสร้างความมั่นคงในอนาคต
สโตลเตนเบิร์กกล่าวว่าหากรัสเซียชนะสงคราม ก็จะทำให้ศัตรูของนาโต ซึ่งรวมถึงอิหร่าน, เกาหลีเหนือและจีน ซึ่งให้การสนับสนุนรัสเซียยิ่งฮึกเหิมและแข็งแกร่ง ดังนั้นนาโตจะยอมให้รัสเซียชนะไม่ได้ พร้อมเรียกร้องชาติสมาชิกให้ระดมความช่วยเหลือไปยังยูเครน อย่างไรก็ตามสโตลเตนเบิร์กไม่พูดถึงแนวโน้มการเข้าเป็นสมาชิกนาโตที่ยูเครนเรียกร้องมาโดยตลอดแต่อย่างใด
ระหว่างพิธีเปิด ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐประกาศว่า 4 ชาติสมาชิกนาโตจะส่งแบตเตอรี่สำหรับขีปนาวุธเพเทรียต ซึ่งเป็นระบบต้านภัยทางอากาศจำนวนหลายสิบเครื่องไปให้ยูเครน
ด้านนายดมิทรี่ เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลินออกมาตอบโต้ทันทีว่ารัสเซียจะจับตามองผลการประชุมสุดยอดนาโตครั้งนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนว่าการจัดส่งอาวุธให้ยูเครนของชาติตะวันตกจะยิ่งยกระดับการเผชิญหน้า และในที่สุดก็ไม่สามารถหยุดยั้งรัสเซียจากการบรรลุเป้าหมายได้อยู่ดี และชี้ว่าการที่นาโตประกาศอย่างชัดเจนที่จะเอาชนะรัสเซียนั่นแปลว่านาโตได้เข้ามีส่วนร่วมโดยตรงในสงครามครั้งนี้แล้วแล้ว