“วีรสุข” แจงปมปรับสูตรค่าแรง เป็นข้อเสนอฝ่ายลูกจ้าง

"วีรสุข" แจงปมปรับสูตรค่าแรง เป็นข้อเสนอฝ่ายลูกจ้าง

วันนี้ ( 11 ก.ค.) นายวีรสุข แก้วบุญปัน กรรมการค่าจ้างฝ่ายลูกจ้าง ได้ชี้แจงกรณีที่มีกรรมการค่าจ้างชุดที่ 2 กับพวกรวม 5 คน จากฝ่ายสภาองค์การนายจ้าง ผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการค้าจ้าง หลังเห็นว่า รายงานการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ชุดที่ 22 ครั้งที่ 5/2567 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ไม่ชอบด้วยกฎหมายคุ้มครองแรงงาน เนื่องจากในรายงานการประชุมได้มีมติให้ปรับสูตรคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำใหม่เป็น 400 บาท และเห็นว่า การพิจารณาปรับสูตรอัตราค่าจ้างดังกล่าวเป็นการพิจารณาที่ไม่ได้ปฏิบัติตาม มาตรา 87 พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541

นายวีรสุข ระบุว่า ที่ออกมาให้ความเห็นครั้งนี้เป็นความเห็นส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการค่าจ้าง โดยทางฝั่งลูกจ้างได้เสนอไปว่า ในการพิจารณา ของคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ให้มีการปรับสูตรการคำนวณ เพื่อให้สมดุลกับข้อเท็จจริง หากแต่ละจังหวัดจะพิจารณา ค่าจ้างขั้นต่ำไปติดเพดานที่ประชุมไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ตามความเหมาะสม จึงมีข้อเสนอให้ปลดล็อคให้เป็นแบบลอยตัว ไม่ต้องให้มีกำหนดเพดานที่ 1.5% เพื่อให้อนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดพิจารณาค่าจ้างอย่างอิสระ

 

 

 

จากนั้นให้นำตัวเลขที่ได้เข้าสู่คณะอนุกรรมการวิชาการและกลั่นกรอง ซึ่งถือเป็นการกรองชั้นที่ 2 ก่อนที่จะส่งมาที่บอร์ดค่าจ้างฯ เพื่อให้มีการกรองครั้งที่ 3 ซึ่งในกระบวนการต่างๆ นั้นก็จะมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามความเหมาะสม

ซึ่งจากประเด็นดังกล่าวทำให้มีการอภิปรายในที่ประชุม และมีข้อสรุปว่าจะต้องโหวต เพื่อปรับสูตรซึ่งในที่ประชุมมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ ฝ่ายนายจ้างไม่เห็นด้วยจึงไม่ได้โหวต กลายเป็นมติ 7 ต่อ 5 เสียง ซึ่งตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานไม่ได้กำหนดไว้ เมื่อสูตรมีปัญหาในการคิดคำนวณก็สามารถปรับได้ เป็นอำนาจของคณะกรรมการไตรภาคี ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนได้

ทั้งนี้ เมื่อความเห็นที่ไม่ตรงกันในที่ประชุม มีการ ได้โหวตเสียงข้างมาก ก็น่าจะวินิจฉัยได้ว่าจะไปในทิศทางไหน ซึ่งตามกฎหมายระบุว่า การพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำ หรือ ค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือแรง เมื่อมีมติไม่เป็นเอกฉันท์ให้มีการโหวต ซึ่งจะต้องมีผลโหวต 2 ใน 3 ถึงจะชนะ ส่วนกรณีการโหวตเพื่อการเปลี่ยนแปลงวิธีการคิดคำนวณสูตร กฎหมายไม่ได้ระบุไว้ว่าจะต้องเป็นมติ 2 ใน 3 การมีเสียงข้างมากในที่ประชุมก็ถือว่าใช้ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวีรสุข กล่าวอีกว่า ผลการประชุมของคณะกรรมการค่าจ้างครั้งล่าสุด ฝั่งนายจ้าง อาจจะมองว่า ไม่เป็นธรรมจึงได้มีการไปร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่อย่าลืมว่าเสียงข้างมากเห็นว่าถูกต้อง และฝ่ายกฎหมายก็ยืนยันว่าสามารถทำได้ ยืนยันว่าที่ประชุมไม่มีการบิดเบือน หากไม่เชื่อมั่นในมติที่ประชุมก็สามารถ ไปร้องได้ แต่มติที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ ว่าอย่างไรก็ต้องว่าไปตามนั้นใครจะ ไม่พอใจก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตว่า เกิดการฮั้วกันระหว่างฝ่ายราชการและฝ่ายลูกจ้าง นายวีรสุข กล่าวว่า ถ้าพูดว่าฮั้วคงไม่ใช่ เพราะเราเป็นลูกจ้างเราก็อยากได้ค่าแรงเพิ่ม ฝ่ายรัฐบาลก็อยากเพิ่มให้ เพราะอยากให้ผู้ใช้แรงงาน พออยู่พอกินพอดำรงชีพได้ แต่จะไปว่าฝ่ายนายจ้างก็ไม่ได้ เพราะเขาก็ต้องสงวนท่าทีทางเศรษฐกิจว่าเขาจ่ายไหวหรือไม่ แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจในทุกวันนี้ไปต่อไม่ได้ สรุปแล้วทุกฝ่ายก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเอง

 

 

 

ส่วนกรณีที่มีการเสนอต่อที่ประชุมให้มีการกำหนดวาระการทำงานของบอร์ดค่าจ้างฯ ใหม่ ไม่ให้ใครอยู่ในตำแหน่งเกิน 2 สมัยข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร นายวีรสุขกล่าวว่า คณะกรรมการทุกคนได้มาจากการเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครเป็นผู้แทนมาจากสภาลูกจ้าง หรือสภานายจ้าง โดยจะมีวาระละ 2 ปี และสามารถสมัครใหม่ได้เรื่อยๆ ทำให้บอร์ดค่าจ้างฯ หลายคนทำงานมามากกว่า 10 สมัย ตนจึงได้หารือในที่ประชุมว่า บอร์ดค่าจ้างฯ ควรมีการครองตำแหน่งไม่เกิน 2 สมัย และมีการเว้นวรรคก่อนจะมาเป็นใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดการผูกขาดและเปิดโอกาสคนอื่นได้มาทำงาน รวมถึงได้เสนอไม่ให้คณะกรรมการในแต่ละชุด เป็นคนเดียวกัน

เพราะเมื่อมีการเสนอเรื่องใดขึ้นมาจากคณะกรรมการชุดเล็ก มาถึงคณะกรรมการชุดใหญ่ คนพิจารณาก็จะเป็นคนเดียวกันกับที่เสนอตนจึงมีความเห็นว่าควรมีข้อกำหนดว่าคณะกรรมการควรนั่งอยู่เพียงแค่ชุดใดชุดหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ค่อนข้างกังวลกับเรื่องการร้องเรียนที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบต่อการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างในการประชุในัดถัดไป ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากหากคณะกรรมการไตรภาคีทั้ง 3 ฝ่าย มีข้อขัดแย้งเกิดขึ้น และในอีกไม่กี่เดือนก็น่าจะมีการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำครั้งใหม่ เมื่อมีกรณีร้องเรียนเกิดขึ้นจะต้องรอผู้ตรวจการแผ่นดิน ว่าจะพิจารณาอย่างไร และจะต้องชะลอออกไปก่อนหรือไม่ ซึ่งตนเองเห็นว่าน่าจะคุยกันได้ดีกว่านี้ในที่ประชุม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว
ไทยตอนบนอากาศยังหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 12 องศา ใต้เจอฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กทม. มีหมอกบางตอนเช้า ร้อนสุด 31 องศา
ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น