อาชีพเสริม “เกษตรกร” จ.ตรัง “ปลูกไผ่เลี้ยงหวาน” แซมสวนยางพารา สร้างรายได้หลักแสนต่อปี

อาชีพเสริม "เกษตรกร" จ.ตรัง "ปลูกไผ่เลี้ยงหวาน" แซมสวนยางพารา สร้างรายได้หลักแสนต่อปี

อาชีพเสริม “เกษตรกร” จ.ตรัง “ปลูกไผ่เลี้ยงหวาน” แซมสวนยางพารา สร้างรายได้หลักแสนต่อปี

ราคาปาล์มร่วง ราคายางตกช่วงนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อรายได้ใด ๆ สำหรับ นายสมศักดิ์ ใสเพี๊ย เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด เจ้าของสวนไผ่เลี้ยงหวาน แห่งบ้านต้นโพธิ์ ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ที่ปลูกไผ่แซมยางพาราเป็นอาชีพเสริม บนเนื้อที่ 20 ไร่ จนสามารถสร้างรายได้เฉลี่ย 2-3 หมื่นบาทต่อเดือนจากการจำหน่ายหน่อและลำไผ่ โดยมีตลาดหลักเจ้าของฟาร์มเลี้ยงกุ้งในจังหวัดตรังและพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนหน่อไผ่จำหน่ายที่ตลาดในหมู่บ้าน

 

 

โดยจุดเริ่มต้นของการปลูกไผ่เลี้ยงหวานของเขา มาจากการให้คำปรึกษาแนะนำของเจ้าหน้าที่สหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด เมื่อ 5 ปีก่อน ที่ต้องการให้สมาชิกสหกรณ์ฯมีรายได้เสริม โดยไม่หวังพึ่งพาอาชีพหลักจากราคายางเพียงอย่างเดียว พร้อมแนะนำให้ทำเรื่องขอกู้เงินผ่านโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ(เสริม) สมาชิกสหกรณ์ได้ หากไม่มีเงินทุนเพียงพอ โดยสามารถรณรงค์หาเสียงขอกู้ปีต่อปี ไม่มีอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ไผ่เลี้ยงหวานสีทองปลูกมา 12 ปีแล้ว ปลูกในร่องยาง เนื้อที่ 20 ไร่ ปีนี้กู้สหกรณ์มา 1 แสน ขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มอีก 200 ต้น ปลูกขายหน่อที่ตลาดใกล้บ้านกิโลละ 60 บาท ส่วนลำต้นขายให้นากุ้ง เมตรละ 8 บาท ตัดขายเฉลี่ยสัปดาห์ละ 800 ต้นส่งให้เจ้าของนากุ้ง ทั้งในตรังและจังหวัดใกล้เคียง เขาบอกว่าใช้ไม้ไผ่ต้นทุนจะถูกกว่า ทนทาน มีอายุใช้นาน 5-6 ปี เฉพาะไผ่รายได้เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 20,000 หมื่นบาทต่อเดือน ส่วนเงินที่กู้มาจะเป็นค่าต้นพันธุ์ ค่าปุ๋ย ค่าวางท่อน้ำ ตอนนี้พื้นที่แถวนี้มีคนปลูกไผ่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทำรายได้ดี ใช้เวลาปลูกแค่ 8 เดือนก็เก็บหน่อ ตัดลำต้นขายได้แล้ว”นายสมศักดิ์ ใสเพี๊ย เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัดเผยการปลูกไผ่เลี้ยงหวาน เป็นอาชีพเสริม

 

นางสาวพิมศิกรณ์ คีรีรักษ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด กล่าวถึงนายสมศักดิ์ ใสเพี๊ย เกษตรกรสมาชิกที่ปลูกไผ่เลี้ยงหวานว่าเป็นตัวอย่างเกษตรกรสมาชิกที่ดีในการมุ่งมั่นทำอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ด้วยการปลูกไผ่เลี้ยงหวาน ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ(เสริม)แก่สมาชิกสหกรณ์ฯ โดยนายสมศักดิ์ได้ทำเรื่องขอกู้กับสหกรณ์เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา วงเงิน 100,000 บาทเพื่อนำมาลงทุนต่อยอดขยายพื้นที่ปลูกไผ่เลี้ยงหวานแซมยางพารา โดยเขากู้มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้ว ซึ่งเป็นเงินกู้ในโครงการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ(เสริม)สมาชิกสหกรณ์ โดยวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาทต่อราย ระยะเวลากู้ปีต่อปี โดยไม่มีดอกเบี้ยแต่อย่างใด

 

 

“จุดเริ่มต้นเลยจะทำอย่างไรให้สมาชิกมีรายได้เพิ่ม นอกจากอาชีพหลักยางและปาล์ม เป้าหมายเราอยากให้สมาชิกชำระหนี้ได้ แต่ไม่อยากให้มีรายได้ทางเดียว เพราะยางและปาล์มราคาก็ไม่แน่นอน จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกันว่าใครอยากมีอาชีพเสริมอะไรก็เสนอโครงการเข้ามา บางรายก็ปลูกพืชผัก ทำเกษตรผสมผสาน เลี้ยงปศุสัตว์ เลี้ยงหมู ไก่ไข่ ขุดบ่อเลี้ยงปลา ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ บางรายก็ปลูกไผ่ ซึ่งโครงการนี้สหกรณ์ได้ดำเนินการ 5 ปีแล้ว มีสมาชิกมาขอกู้เพิ่มขึ้นทุกปี อย่างที่แล้วขอมา 74 ราย ปีนี้มีเพิ่มขึ้นเป็น 94 ราย วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 1 แสน โดยไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ทุก ๆ ปีจะตั้งงบไว้ที่ 1 ล้าน แต่ปีนี้เพิ่มเป็น 5 ล้าน เพราะสมาชิกสนใจเยอะขึ้น เป็นงบของสหกรณ์ฯเราเอง ไม่ได้กู้จากภายนอก”ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยยอดจำกัดระบุ

 

เธอยังกล่าวถึงแนวทางการดำเนินโครงการฯ ว่าการยื่นของกู้ของสมาชิกแต่ละรายจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปแบบและลักษณะโครงการฯ ซึ่งจะมีคณะกรรมการฯเป็นผู้พิจารณา โดยก่อนจะอนุมัติเงินกู้นั้นจะมีเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจก่อนเพื่อดูความเป็นไปได้สอดคล้องกับจำนวนเงินที่กู้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกขอกู้วงเงินต่ำสุดอยู่ที่ 8,000 บาท ส่วนใหญ่นำไปทำเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชผักสมนุไพร ส่วนรายที่กู้สูงสุด 100,000 บาท มีจำนวน 3-4 ราย นำเงินลงทุนปลูกไผ่เลี้ยงหวาน เลี้ยงวัว เลี้ยงสุกร ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น โดยขณะนี้เงินโครงการฯ จำนวน 5 ล้านบาทที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการฯนั้นใกล้จะหมดแล้ว โดยสมาชิกที่กู้ทุกรายจะต้องส่งเงินคืนทั้งหมดตามยอดจำนวนที่กู้ไปภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 จากนั้นถ้าสมาชิกรายใดสนใจกู้ต่อก็สามารถมาทำสัญญากู้ฉบับใหม่ได้ในวงรอบของปีถัดไป

 

ปัจจุบันสหกรณ์ฯมีสมาชิกจำนวนทั้งสิ้น 4,700 ราย ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน สำหรับรายได้ของสหกรณ์ฯส่วนใหญ่จะมาจากธุรกิจสินเชื่อและธุรกิจบริการ โดยธุรกิจสินเชื่อนั้นสหกรณ์ปล่อยกู้แก่สมาชิกในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากอัตราร้อยละ 3 ซึ่งสัดส่วนเงินกู้กับเงินฝากใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีธุรกิจปั้มน้ำมันอีก 2 แห่ง ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่าย อาทิอุปกรณ์การตลาดและเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ปุ๋ย ยา เครื่องจักกลการทางการเกษตร เป็นต้น ให้บริการเช่าห้องประชุม ซึ่งสามารถจุคนได้ 700 คน ซึ่งเป็นรายได้หลักของสหกรณ์ในปัจจุบันและล่าสุดมีการเตรียมจัดทำร้านกาแฟของสหกรณ์อีก 1 แห่งด้วย อย่างไรก็ตามในปีงบประมาณ 2567 ) สหกรณ์ฯมีกำไรสุทธิ 32 ล้านบาท (ปิดงบ 31 มีนาคม2567) มีทุนดำเนินการทั้งสิ้น 1,400 ล้านบาท ส่วนหนี้เสียไม่มี

 

“สหกรณ์ห้วยยอดมีธุรกิจสินเชื่อทำรายได้หลัก รองลงมาธุรกิจบริการจัดหาสินค้ามาจำหน่าย เราขายทุกอย่าง ร้านทองเราก็มี ตอนนี้มีทั้งหมด 3 สาขาและกำลังจะเพิ่มอีกสาขาอยู่ระหว่างการหาทำเล ต้องบอกว่าสหกรณ์เรามียอดขายของสูงที่สุดในจังหวัดตรัง ขายสินค้าได้เป็นเกือบ 100 ล้านต่อปี” นางสาวพิมศิกรณ์เผย

อย่างไรก็ตามผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรห้วยยอด จำกัด ยังกล่าวขอบคุณสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังที่ได้เข้ามาช่วยเหลือดูแลและให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องกฎระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่งโดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาเฉลี่ยเดือน 1-2 ครั้ง ทำให้สามารถช่วยป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังส่งเจ้าหน้าที่ ผู้เชี่ยวชาญมาให้คำแนะนำในเรื่องส่งเสริมอาชีพแก่สมาชิก มีการจัดโครงการฝึกอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ในอาชีพแขนงต่าง ๆ ที่สมาชิกสนใจ พร้อมพาไปดูงานตามสถานที่ต่าง ๆ ด้วย

 

“ปกติเราจะไม่กู้เงินจากภายนอก แต่ปีนี้ สหกรณ์ฯเพิ่งทำเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนพัฒนาสหกรณ์(กพส.) จำนวน 4 ล้านบาทเพื่อนำมาจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ใหม่และพัฒนาโปแกรม ระบบแอพพลิเคชั่นสหกรณ์ให้ทันสมัย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอนุมัติจากคณะกรรมการกพส.”นางสาวพิมศิกรณ์ คีรีรักษ์กล่าว

 

ด้านนายสงบ เย็นใจ ผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังกล่าวถึงโครงการส่งเสริมอาชีพ(เสริม) ให้กับสมาชิกสหกรณ์ในจ.ตรังว่าขณะนี้มีหลายสหกรณ์ทั้งในและนอกภาคเกษตรได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องในทุกรูปแบบเพื่อช่วยเหลือสมาชิกให้มีรายได้เพิ่ม โดยเฉพาะสหกรณ์ภาคการเกษตร ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน 60 แห่งทั้งหมด 70แห่ง ได้ขับเคลื่อนอยู่แล้ว อย่างเช่นสหกรณ์การเกษตรปะเหลียน จำกัด ขณะนี้มีโครงการนำร่องปลูกพริกไทย มีทั้งปลูกจำหน่ายเมล็ดและต้นพันธุ์ มีการแปรรูปแบบครบวงจร หรืออย่างสหกรณ์ฯห้วยยอด ก็มีการจัดหาเงินทุนให้กับเกษตรกรสมาชิกเพื่อนำไปประกอบอาชีพเสริมโดยไม่คิดดอกเบี้ย ซึ่งสหกรณ์การเกษตรฯในจ.ตรัง ส่วนใหญ่ค่อนข้างพร้อมในเรื่องเงินทุนสำหรับการส่งเสริมาอาชีพแก่สมาชิก จึงทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้บริการเงินกู้จากภายนอกมากนัก

“สหกรณ์ฯตรังที่ไม่กู้กรมก็มีอยู่ลายแห่ง ที่ไม่กู้ เพราะเขามีเงินเพียงพอ อย่างสหกรณ์ห้วยยอดไม่กู้ วังวิเศษก็ไม่กู้ แต่ปีนี้ห้วยยอดขอกู้เงินกพส.ไป 4 ล้านเพื่อพัฒนาโปรแกรม ระบบแอพพลเคชั่นในสหกรณ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ สหกรณ์ย่านตาขาวทำไปแล้ว เมื่อปีก่อน ภาคเกษตรช้ากว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ตำรวจ เขาทำไปก่อนแล้ว เพราะเขามีความพร้อม ส่วนตลาดจำหน่ายผลผลิตพืชผลสีเขียวสหกรณ์ ตอนนี้ห้วยยอดยังไม่มี สมาชิกต่างคนต่างขายกันเอง สหกรณ์ฯเมืองมีแล้วจัดทุกวันพุธ ย่านตาขาวมีแล้วจัดทุกวันพฤหัส ปีนี้จะต้องโฟกัสตรงนี้มากขึ้น”ผู้อำนวยการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังกล่าวย้ำ

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตุลาคมนี้!! ห้ามพลาด… ทริปสุดคุ้ม ชวนเที่ยวสไตล์แอดเวนเจอร์ กับขบวน KIHA 183 เติมเต็มความสุขอย่างที่เคย
"ไพบูลย์" ชง "บิ๊กป้อม "ออกคำสั่ง "สามารถ" พ้นรองโฆษกพปชร.มีผลวันนี้
ตร.ปคบ.คุมตัว "บอสพอล" ดิ ไอคอน ฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านประกันตัว
อย่าลืมคนนี้! “เคลวิน” แฟนบอสมิน เป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ หรือขึ้นแท่นบอส
โจ๋ยกพวกถล่มผิดคน หนุ่มไรเดอร์ถูกยิงดับ ย่านรามอินทรา จนท.เร่งตามตัวดำเนินคดีตามกม.
แชร์สนั่นโซเชียล! จวกยับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โยนขยะลงทะเลพัทยา
"ดร.อานนท์" เล่าเบื้องหลังตร.ทำคดี "ดิ ไอคอน" หลังได้เข้าไปช่วย "กองปราบ" วิเคราะห์รูปคดี
'ว.วชิรเมธี' เตือน 'หนุ่ม กรรชัย' อย่าทำตัวเป็นศาลเตี้ย ปล่อยให้คนใส่ร้ายป้ายสี โซเชียลเมนต์เพียบ ก่อนลบโพสต์ทิ้ง
อุตุฯ เตือน ฝนฟ้าคะนอง 31 จว.อ่วม ฝนถล่ม เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน กทม.เจอฝน 70%
"เกรียงศักดิ์" แนะรัฐบาลเร่งสร้างแบรนดิ้งประเทศไทย ควบคู่ขับเคลื่อนนโยบาย Soft Power จริงจัง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น