นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมว่า แกนนำผู้ชุมนุมทั้ง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ลูกนัท รวมถึงแกนนำม็อบทะลุฟ้าฟัด ทะลุแก๊ส กลุ่ม 3 นิ้ว จะกลุ่มใดก็ตามไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นได้ เพราะเป็นผู้เชิญชวนให้คนออกมาชุมนุมซึ่งพบว่าการชุมนุมมีทั้งอาวุธรวมถึงระเบิดเพลิงระเบิดไฟระเบิดปิงปอง ระเบิดหลากหลายชนิด นำอาวุธมาก่อจลาจลในการชุมนุมซึ่งชี้ให้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่การชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยขับไล่นายกตามที่กล่าวอ้าง ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บสาหัสหลายนาย ซึ่งไม่ใช่การเรียกร้องประชาธิปไตยเลย
ทั้งนี้ตนได้ไปร้องทุกข์กล่าวโทษแกนนำไว้แล้วในมาตรา 13 และ 16 ก่อความไม่สงบในบ้านเมืองแล้ว และเจ้าหน้าที่ก็เร่งดำเนินการกับม็อบที่ก่อกวนรายวันที่แยกดินแดงอย่างเต็มที่ รวมถึงให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเป็นนายทุนให้กับการก่อจลาจลของกลุ่มผู้ชุมนุมต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ไม่ละเว้น
นอกจากนี้ยังจะฟ้องร้องเอาผิดมาตรา 112 กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กระทำการจับช่วงสถาบันมีการเผาพระบรมฉายาลักษณ์และซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุมต้องรับผิดชอบด้วยเพราะเป็นผู้ชักชวนกลุ่มผู้ชุมนุมออกมา จะเห็นได้จากที่นายณัฐวุฒิ ขับรถมาตามกลุ่มผู้ชุมนุมให้กลับออกมาจากแยกดินแดง แสดงถึงการมีส่วนรู้เห็นแต่จะแกล้งทำเป็นแสดงละครก็ตามจะต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 ด้วยเช่นเดียวกับนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบหลังม็อบ ส.ส.พรรคก้าวไกล และส.ส. ในพรรคอีกหลายคนที่ออกมาประกันตัวผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ต่อให้เห็นถึงการสมรู้ร่วมคิดจึงถือว่ามีความผิดด้วย โดยตนให้ทีมกฎหมายรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมฟ้องร้องเอาผิดดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป