วันที่ 16 กันยายน 2564 นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นหนังสือเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยื่นศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาว่าเป็นไปโดยชอบตามกฎหมายหรือไม่ ภายหลังจากที่ยื่นญัตติแก้ไขเพียง 2 มาตราคือมาตรา 83 และมาตรา 91 แต่ในรายละเอียดรัฐสภากลับแก้ไขใน 3 มาตราคือพวกมาตรา 86 เข้ามาโดยไม่ได้ผ่านวาระแรก ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากบัตรใบเดียวเป็นบัตรสองใบ ที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งสร้างความกังขาของประชาชน ว่ามาตราที่ไม่ได้ขอแก้จะแก้ไขได้หรือไม่ ทุกอย่างต้องทำให้ชัดเจน ถูกต้อง เนื่องจาก
1. รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุด ด้วยหลักที่เสนอแล้ว เสนอแก้มาตราไหน ต้องแก้ได้มาตรานั้น ถ้าทุกอย่างยอมให้ผ่านไป จะทำให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถูกสร้างมาตรฐานใหม่ขึ้นมา ในอนาคตก็จะมีการแก้ไขมาตราที่ไม่ได้เสนอแก้ หรือเสนอให้แก้มาตราเดียว แล้วโยงไปแก้มาตราอื่นๆ ด้วยเหตุผลความเกี่ยวเนื่องกัน และอ้างสิ่งที่เคยทำของครั้งนี้
2. เนื่องจากกระบวนการแก้ไขที่ไม่ตรงไปตรงมาเช่นนี้ ไม่ทำให้ชัดเจนถูกต้องเสียก่อน แต่ไปนำขึ้นทูลเกล้า ถ้าหากมีการตีกลับเพราะกระบวนการไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะยิ่งทำให้เกิดการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะปัญหาตามมา
นายแพทย์วรงค์ จึงขอเรียกร้องให้นายกฯ ต้องใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 256(7) ประกอบ 81 มาตรา 145 และมาตรา 148(2) คือเป็นการตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัตของรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐสภาไปแก้ไขบทบัญญัติในมาตรา 86 ที่ไม่ได้เสนอขอแก้ไขไว้ ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเสียก่อน ว่า การกระทำของรัฐสภาดังกล่าวนั้น ถูกต้องหรือไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะได้ไม่เป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท และเป็นบรรทัดฐานในการแก้ไขกฎหมายสูงสุดของชาติ ต่อไปในอนาคต
หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยืนยันว่า แม้พรรคจะเป็นพรรคเล็กหากสมัยหน้าในการเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบจะเสียเปรียบก็ตาม ไม่ได้ติดใจในเรื่องนี้ เพราะพรรคฯพร้อมจะสู้และมั่นใจว่ามีที่ยืนและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนอย่างแน่นอน แต่เกรงว่าหากกฎหมายที่ผ่านมาจากพวกนักการเมืองที่เป็นศรีธนญชัย จะกลายเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ถูกต้องของสภา ขอ 2 แก 3 ขอ 1 แก้ 5 และก็เคยมีมาแล้ว มากกว่านั้น เป็นการใช้เสียงข้างมากในสภา กลายเป็นเผด็จการรัฐสภาในรูปแบบใหม่ ยังไงก็ตามหากยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้วศาลวินิจฉัยว่า ไม่ถูกต้องถูกตีกลับลงมาจะกลายเป็นปัญหาและพวกที่คิดไม่หวังดีก็จะใช้กรณีนี้โจมตีสถาบันได้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมาว่า การแก้รัฐธรรมนูญถูกต้องก็จะทำให้คนไทยสบายใจกันทั้งประเทศ ไม่ทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทและรัฐบาลก็เดินหน้าต่อไปได้