ฟังถึงอึ้ง “ดร.สามารถ” เปิดเบื้องหลัง “ทางด่วนใต้ดิน” สายแรกของไทย จุดลึกสุด 48.5 เมตร ภายใต้ 4 ความท้าทายยิ่งใหญ่

ฟังถึงอึ้ง "ดร.สามารถ" เปิดเบื้องหลัง "ทางด่วนใต้ดิน" สายแรกของไทย จุดลึกสุด 48.5 เมตร ภายใต้ 4 ความท้าทายยิ่งใหญ่

ฟังถึงอึ้ง “ดร.สามารถ” เปิดเบื้องหลัง “ทางด่วนใต้ดิน” สายแรกของไทย จุดลึกสุด 48.5 เมตร ภายใต้ 4 ความท้าทายยิ่งใหญ่

วันที่ 14 ก.ค. 67 ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และอดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า โอ้โฮ ! ทางด่วนใต้ดินสายแรกของไทย ลึกถึง 48.5 เมตร เท่ากับตึก 16 ชั้น

หลายคนที่ผ่านไปมาบนถนนประเสริฐมนูกิจ (หรือที่เรียกกันติดปากว่าถนนเกษตรฯ-นวมินทร์) คงไม่รู้ว่าตอม่อที่เกาะกลางถนนจำนวนมากถึง 281 ต้น ซึ่งถูกก่อสร้างมาเป็นเวลานานแล้วตั้งแต่ช่วงปี 2539-2541 โดยสร้างพร้อมๆ กับถนนประเสริฐมนูกิจนั้น เอาไว้รองรับทางด่วนขั้นที่ 3 ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ซึ่งอีกไม่นานจะมีการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 ทั้งลอยฟ้าและใต้ดิน เป็นทางด่วนใต้ดินสายแรกของไทย ลึกถึง 48.5 เมตร หรือเท่ากับตึกสูง 16 ชั้น !

1. ทางด่วนใต้ดินสายแรกของไทย

น่าเห็นใจ กทพ.ที่ได้ศึกษาความเหมาะสมโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 เพื่อรองรับการจราจรในแนวตะวันตก-ตะวันออก บนถนนรัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน-ประเสริฐมนูกิจ โดยจะก่อสร้างเป็นทางด่วนยกระดับตลอดทั้งสาย แต่รัฐบาลหลายรัฐบาลที่ผ่านมาจัดลำดับความสำคัญของทางด่วนสายนี้อยู่ในลำดับต่ำ ทั้งๆ ที่ กทพ.ได้ก่อสร้างตอม่อรองรับทางด่วนไว้พร้อมกับการก่อสร้างถนนประเสริฐมนูกิจโดยกรมทางหลวง เพราะถ้าไม่ทำเช่นนั้น หลังจากกรมทางหลวงสร้างถนนประเสริฐมนูกิจเสร็จ กทพ.ก็ต้องขุดเจาะถนนเพื่อทำตอม่อ จะก่อให้รถติด สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน

ในปัจจุบันได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในเวลานี้ จึงจำเป็นจะต้องสร้างเป็นทางด่วนใต้ดินในช่วงที่ผ่านด้านข้างของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อลดผลกระทบต่อมหาวิทยาลัยฯ ซึ่งทำให้ค่าก่อสร้างและค่าซ่อมบำรุงรักษาซับซ้อนยุ่งยากและแพงกว่าการก่อสร้างทางด่วนยกระดับมาก

ทางด่วนขั้นที่ 3 ช่วงที่ 1 เริ่มจากทางขึ้น-ลงทางด่วนบนถนนงามวงศ์วานไปจนถึงแยกสุคนธสวัสดิ์บนถนนประเสริฐมนูกิจ ระยะทาง 10.55 กม. ประกอบด้วยทางด่วนอยู่ในอุโมงค์ใต้ดิน 8.06 กม. ซึ่งถือเป็นทางด่วนใต้ดินสายแรกของไทย และทางด่วนยกระดับ 2.49 กม. มูลค่าโครงการเฉียด 5 หมื่นล้านบาท !

ทางด่วนใต้ดินวิ่งใต้ถนนงามวงศ์วานตั้งแต่ทางขึ้น-ลงทางด่วนบนถนนงามวงศ์วาน ลอดผ่านถนนประชาชื่น คลองประปา คลองเปรมประชากร รถไฟฟ้าสายสีแดง ดอนเมืองโทลล์เวย์ ถนนวิภาวดีรังสิต รถไฟฟ้าสายสีเขียว แยกเกษตร คลองบางบัว แยกลาดปลาเค้า ไปจนถึงระยะทางจากแยกลาดปลาเค้าประมาณ 1 กม. แล้ววิ่งขึ้นบนระดับดินไปจนเกือบถึงแยกเสนานิคม จึงยกระดับไปจนถึงแยกสุคนธสวัสดิ์

ดร.สามารถ

ข่าวที่น่าสนใจ

2. ความท้าทายของทางด่วนใต้ดิน

ทางด่วนใต้ดินสายแรกของไทยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

(1) เป็นทางด่วน 2 ชั้นอยู่ในอุโมงค์ ชั้นละ 2 ช่องจราจร ชั้นบนวิ่งไปทางแยกสุคนธสวัสดิ์ ชั้นล่างวิ่งไปทางแคราย ใช้ได้เฉพาะรถยนต์ 4 ล้อเท่านั้น ไม่มีทางออกจากอุโมงค์ระหว่างทาง !

(2) อุโมงค์ทางด่วนมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 15 เมตร ภายนอก 16.3 เมตร ใหญ่กว่าอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดินซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน 5.7 เมตร ภายนอก 6.3 เมตร

(3) ศูนย์กลางของอุโมงค์ทางด่วนลึกกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง (MSL) 46.5 เมตร ในขณะที่ผิวถนนงามวงศ์วานและถนนประเสริฐมนูกิจสูงกว่า MSL 2 เมตร ดังนั้น อุโมงค์ทางด่วนจึงลึกกว่าผิวถนนงามวงศ์วานและถนนประเสริฐมนูกิจเท่ากับ 48.5 เมตร (46.5+2) หรือเท่ากับตึกสูง 16 ชั้น อุโมงค์ทางด่วนที่อยู่ลึกในระดับนี้เริ่มตั้งแต่ใต้คลองประปาไปจนถึงใต้คลองบางบัว ระยะทาง 5 กม. จากความยาวของอุโมงค์ทั้งหมด 8.06 กม. ทั้งนี้ ที่ระดับความลึก 48.5 เมตรนั้น จะเป็นระดับทางด่วนชั้นบนโดยประมาณ ส่วนระดับทางด่วนชั้นล่างจะลึกลงไปอีกประมาณ 5 เมตร

3. ข้อกังวลต่อทางด่วนใต้ดิน

แม้ว่าการก่อสร้างทางด่วนใต้ดินไม่เกินความสามารถของวิศวกรไทยและ กทพ. แต่ กทพ.ควรคำนึงถึงข้อห่วงใยที่สาธารณชนให้ความสนใจ เช่น อากาศเสียในอุโมงค์ ไฟไหม้ในอุโมงค์ เกิดอุบัติเหตุในอุโมงค์ หรือน้ำท่วมอุโมงค์ เป็นต้น ซึ่งผมเข้าใจดีว่า กทพ.ได้ออกแบบทางด่วนใต้ดินโดยให้ความสำคัญต่อข้อห่วงใยดังกล่าวไว้แล้ว แต่จะทำอย่างไรให้ทำสาธารณชนเกิดความมั่นใจ ? ข้อห่วงใยดังกล่าวมีดังนี้

(1) อากาศเสียในอุโมงค์

อากาศเสียในอุโมงค์ถูกปล่อยออกมาจากรถยนต์มีความเข้มข้นสูง เพราะถูกรวบรวมมาจากอุโมงค์เป็นระยะทางยาว จำเป็นต้องบำบัดให้อยู่ในระดับมาตรฐานไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพก่อนปล่อยออกมาจากอุโมงค์ที่อาคารระบายอากาศสู่บริเวณภายนอกต่อไป ซึ่งตลอดระยะทางมีอาคารระบายอากาศเพียง 4 อาคารเท่านั้น

(2) กรณีเกิดไฟไหม้ในอุโมงค์

หากเกิดไฟไหม้ในอุโมงค์จะต้องอพยพผู้ใช้ทางด่วนออกจากอุโมงค์โดยเร่งด่วน อุโมงค์ซึ่งลึกถึง 48.5 เมตร หรือเท่ากับตึกสูง 16 ชั้น มีทางด่วน 2 ชั้นอยู่ในอุโมงค์ ไม่ง่ายที่จะอพยพเด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้สูงอายุ คนพิการ และคนป่วยออกจากอุโมงค์ เพราะยากที่จะเดินขึ้นบันไดหนีไฟที่สูงเท่ากับตึก 16 ชั้น ซึ่งตลอดระยะทางมีเพียง 4 จุดเท่านั้น แม้จะมีการติดตั้งลิฟต์ไว้คู่กับบันไดหนีไฟก็ตาม แต่เมื่อเกิดไฟไหม้จะสามารถใช้งานได้หรือไม่ ? เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะต้องผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี พร้อมที่จะช่วยเหลือผู้ใช้ทางด่วนด้วยความชำนาญอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญ ผู้ใช้ทางด่วนในอุโมงค์จะต้องได้รับการเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตนเองเมื่อเกิดไฟไหม้หรืออุบัติเหตุอื่นๆ ขึ้นในอุโมงค์

(3) กรณีเกิดอุบัติเหตุในอุโมงค์

หากเกิดอุบัติเหตุ รถชน รถพลิกคว่ำ รถไฟไหม้ หรือรถเสียในอุโมงค์ จะกู้ภัยได้อย่างไร ? ทางด่วนที่มีแค่ 2 ช่องจราจร และไหล่ทางกว้างแค่ 1.2-1.5 เมตร บางช่วงเหลือแค่ 0.5 เมตรเท่านั้น ยากที่รถกู้ภัยจะฝ่ารถติดไปถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว เพราะหน่วยกู้ภัยมีอยู่เพียง 2 จุดเท่านั้น คือที่ทางเข้า-ออกอุโมงค์ทั้ง 2 ด้าน เมื่อมีรถติดยาวเหยียดในอุโมงค์ อากาศเสียหรือมลพิษจะถูกปล่อยออกมามาก ซึ่งอาจจะเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ทางด่วนได้

(4) การป้องกันน้ำท่วม

ผมเข้าใจดีว่า กทพ.ได้ออกแบบแนวทางการป้องกันน้ำท่วมอุโมงค์ไว้อย่างดีเช่นเดียวกับการออกแบบรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่ก็อดห่วงไม่ได้ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณทางขึ้น-ลงทางด่วนบนถนนงามวงศ์วานซึ่งจะเป็นทางเข้า-ออกอุโมงค์ทางด่วนใต้ดิน บริเวณนี้เคยมีน้ำท่วมขังเป็นประจำเมื่อมีฝนตกหนัก แต่ต่อมาได้รับการแก้ไข ทำให้น้ำท่วมขังลดน้อยลง เมื่อมีการก่อสร้างทางเข้า-ออกอุโมงค์บริเวณนี้ จะต้องป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อระบบป้องกันน้ำท่วม

4. สรุป

การก่อสร้างทางด่วนทั้งลอยฟ้าและใต้ดิน ณ ถนนงามวงศ์วานและถนนประเสริฐมนูกิจ คาดหวังว่าจะช่วยบรรเทารถติดในการสัญจรผ่านแนวตะวันตก-ตะวันออกของกรุงเทพฯ ตอนเหนือ ซึ่งเวลานี้มีรถติดอย่างหนัก ความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างทางด่วนสายนี้ในขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งเป็นงานสำคัญที่จะชี้ชะตาของโครงการ หากโครงการนี้ไม่ผ่าน EIA ก็จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน

นอกจากทางด่วนดังกล่าวแล้ว ยังมีรถไฟฟ้ายกระดับบนถนนทั้ง 2 สายนี้ ซึ่งมีเส้นทางซ้อนทับกับทางด่วน รถไฟฟ้าสายนี้เรียกว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล เชื่อมแครายกับลำสาลี ระยะทาง 22 กม. ผมเป็นผู้เสนอแนวความคิดรถไฟฟ้าสายนี้เมื่อปี 2556 และได้รับการตอบสนองจากรัฐบาลในขณะนั้น โดยได้บรรจุเส้นทางไว้ในแผนแม่บทรถไฟฟ้า การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะยังคงดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลตามแผนแม่บทอยู่หรือไม่ ? หาก รฟม. จะก่อสร้าง ก็ควรที่จะวางแผนการก่อสร้างให้ดี หาเวลาที่เหมาะสมให้สอดรับกับการก่อสร้างทางด่วนโดย กทพ. เพื่อลดปัญหารถติดในระหว่างการก่อสร้าง และลดปัญหาทางเทคนิคการก่อสร้าง

ทั้งหมดนี้ หวังว่าการก่อสร้างทางด่วนและรถไฟฟ้า ณ ถนนงามวงศ์วานและถนนประเสริฐมนูกิจ จะช่วยทำให้การสัญจรระหว่างพื้นที่ตะวันตกและตะวันออกของกรุงเทพฯ ตอนเหนือมีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนครับ

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น