“เพจก้าวไกลโกหก” คาใจ “หมออ๋อง” รองปธ.สภาฯออกหน้าออกตา เชียร์ผู้สมัครอบจ.พิษณุโลก

"เพจก้าวไกลโกหก" คาใจ "หมออ๋อง" รองปธ.สภาฯออกหน้าออกตา เชียร์ผู้สมัครอบจ.พิษณุโลก

เพจก้าวไกลโกหก” คาใจ “หมออ๋อง” รองปธ.สภาฯออกหน้าออกตา เชียร์ผู้สมัครอบจ.พิษณุโลก

กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในโลกออนไลน์ เมื่อเพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง” โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า “ทุกคนคะ หมออ๋องประกาศสนับสนุนและช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร อบจ. พิษณุโลก ท่านหนึ่ง ชัดเจน ถ้าจะเชียร์ขนาดนี้ ลาออกจากรองประธานสภาก่อนดีกว่ามั๊ยคะ”

เพจก้าวไกลโกหก

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา เพจเฟซบุ๊ก “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร-สำรอง” ยังระบุอีกว่า ทุกคนคะ อ้างว่า นอกเวลาปฎิบัติงานรองประธานสภา อีกหนึ่งโมเดล “ความชั่วร้ายที่จำเป็น”

 

 

 

 

ก่อนหน้านั้น นายแสวง บุญมี รองเลขาธิการกกต. ชี้แจงถึงกรณีข้อสงสัยเรื่องพรรคการเมืองส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งท้องถิ่นได้หรือไม่ และมีโทษหรือไม่นั้นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นน่าสนใจ เพราะมาตรา 34 ของพ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ได้กำหนดไว้ว่า ห้ามข้าราชการการเมือง หรือ ส.ส. ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบ กลั่นแกล้งผู้สมัครหรือกระทำการใด ๆ อันเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัคร หากการส่งผู้สมัครไม่ได้ห้าม ก็ส่งได้ แต่การหาเสียงต้องอยู่ภายใต้มาตรา 34 ซึ่งในเรื่องนี้พรรคการเมืองสอบถามมาซึ่งกกต.ก็จะได้ตอบและเป็นแนวปฏิบัติเป็นการทั่วไป ทั้งผู้สมัคร ข้าราชการการเมือง ส.ส. รวมทั้ง ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด เพื่อให้ปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกัน ส่วนในกรณีเป็นคณะหรือเป็นกลุ่มสามารถส่งผู้สมัครได้หรือไม่นั้น เรื่องส่งผู้สมัครกฎหมายไม่ได้ห้าม แต่เวลาหาเสียงต้องเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบ กกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้าม ส่วนการที่คณะหรือพรรคการเมืองมีความเกี่ยวโยงกันจะพิสูจน์ได้อย่างไรว่าทำเพื่อพรรคหรือไม่นั้น ก็ต้องดูข้อเท็จจริงเป็นรายกรณีไป

 

เมื่อถามว่า หากพรรคการเมืองทำผิดมาตรา 34 จะมีโทษอย่างไร นายแสวงกล่าวว่า มาตรา 34 ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง เป็นเฉพาะตำแหน่ง เป็นตัวบุคคล หากคนที่มีตำแหน่งอยู่ในพรรคการเมืองก็จะผิดเฉพาะตัวบุคคล ซึ่งจริง ๆ แล้วมาตรา 34 ไม่มีโทษ ไม่มีบทกำหนดโทษ แต่ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือ กกต. สามารถสั่งระงับยับยั้งได้ ซึ่งนำมาเป็นเหตุให้การเลือกตั้งไม่สุจริตและเที่ยงธรรมได้ แต่โทษทางอาญาไม่ได้กำหนดไว้ ส่วนกรณีพรรคการเมืองที่บางคนเป็นรัฐมนตรี หรือเป็นข้าราชการการเมือง ควรจะแยกแยะบทบาทอย่างไร หรือกรณีคนในพรรคการเมืองที่มีตำแหน่งรัฐมนตรีไปสนับสนุน หรือไปช่วยหาเสียงจะมีผลต่อตัวรัฐมนตรีหรือตัวผู้สมัครนั้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่
"ทรัมป์" บี้หนัก ฮุบ แหล่งแร่หายาก "ยูเครน" ขู่ปิดเน็ต Starlink
เอาจริง "ตร.ปอท." บุกจับ 2 แอดมินเพจ ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลาง เกือบ 2 พันชิ้น
“ภูมิธรรม" เดินหน้าปราบแก๊งคอลฯ ผนึกกำลังเพื่อนบ้าน ปิดช่องโหว่ อาชญากรข้ามชาติทุกช่องทาง
ย้อนเกล็ดแสบ "จีน" ส่งเรือรบติดขีปนาวุธ3ลำประชิดออสซี่ อ้างซ้อมรบใช้กระสุนจริง
ไม่รอดสายตา บุกทลายรังเขมร ดอดปลูกหมู่บ้านซุกปลายไร่ฝั่งไทย
"รัฐบาล" ย้ำดูแลปศุสัตว์ไทยต่อเนื่อง เร่งจ่าย "วัคซีนลัมปี สกิน" อีก 7.85 ล้านโดส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น