สาวเปิดใจเล่าอุทาหรณ์ เตือนภัยโดนหลอก “ขายของออนไลน์” ทำสูญเงินหลายล้าน จน”สามี” เครียดฆ่าตัวตาย คนโกงลอยนวลเสวยสุข

สาวเปิดใจเล่าอุทาหรณ์ เตือนภัยโดนหลอก "ขายของออนไลน์" ทำสูญเงินหลายล้าน จน"สามี" เครียดฆ่าตัวตาย คนโกงลอยนวลเสวยสุข

Top news รายงาน วันที่ 15 ก.ค.2567 ทางรายการ “เรื่องนี้ต้องเคลียร์” ทางช่อง Top News ได้นำเสนอเรื่องราวเของผู้หญิงคนนึงเป็นพนักงานบริษัท แล้วก็อยากที่จะมีเงินเดือนเพิ่มเพราะว่าเงินเดือนเธอเพียงแค่หลักหมื่นเท่านั้น เธอเริ่มที่จะไปขายสินค้าออนไลน์ ตอนแรกเริ่มจากการไปรับสินค้ามาก่อนแล้วก็ขายให้กับคนรู้จัก คนรอบตัว แต่หลังจากนั้นพอเห็นว่าเริ่มได้เงิน เธอก็เริ่มที่จะขยับขยายเริ่มไปเปิดบิลการเปิดบิลก็คือรับสินค้ามาก่อน จ่ายเงินทีหลัง แล้วเธอก็เอาสินค้านี้ไปให้กับลูกทีม ซึ่งลูกทีมก็จะใช้วิธีการเดียวกันคือรับสินค้าไปก่อนแล้วจ่ายทีหลัง แต่ทีนี้ลูกทีมเธอไม่ยอมจ่ายเงิน

 

สาวเปิดใจเล่าอุทาหรณ์ เตือนภัยโดนหลอก ขายของออนไลน์ ทำสูญเงินหลายล้าน จนสามี เครียดฆ่าตัวตาย คนโกงลอยนวลเสวยสุข

 

นี่คือจุดเริ่มต้นเพราะว่าเธอโดนลูกทีมโกง ตอนแรกโดนโกงไปก้อนใหญ่ 2.5 ล้านบาทแล้วก็ยังมียิบย่อย 40,000 บาทก็มี 80,000 บาทก็มีสุดท้ายโดนไปอีก 400,000 บาท จนสามีของเธอตัดสินใจยิงตัวตาย วันนี้เธอก็มาเปิดใจพูดคุยในรายการนี้ด้วย นั่นก็คือ “คุณเอ๋” หรือ ทัศนีย์ทองศรี ดำเนินรายการโดย “อุบลรัตน์ เถาน้อย”

ข่าวที่น่าสนใจ

พิธีกร : คุณเอ๋เล่าจุดเริ่มต้นของการโดนโกงให้ฟังหน่อย?

คุณเอ๋ : ไปรับสินค้ามาจากแม่ทีมเป็นแบบเครดิต เครดิตก็คือจ่ายสิ้นเดือน ก้อนแรกโดนคนชื่อจ๋าโกง 2.5 ล้านบาทแล้วก็มียิบย่อยมาอีกเรื่อยๆ มูลค่าทั้งหมดรวมแล้ว 4.2 ล้านบาท

พิธีกร : เราเริ่มไปขายสินค้าออนไลน์ได้ยังไง?

คุณเอ๋ : คือตอนนั้นเงินไม่พอ เลยอยากหาอาชีพเสริม ก็เลยหันมาขายออนไลน์ตอนแรกก็ไปเปิดบิลมาสต๊อกของทีละ 10 ชิ้นแล้วพอมันขายได้ก็เริ่มขยับขยายมาเป็นตัวแทน ก็เลยไปเอาเครดิตมาจากแม่ทีมอีกต่อนึงเพื่อที่จะมาปล่อยเครดิตให้ลูกทีมตัวเองต่อ

พิธีกร : คุณเอ๋ไปรับสินค้ามาอีกทีนึงไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ใช่มั้ยคะ?

 

 

คุณเอ๋ : ใช่ค่ะ

พิธีกร : ตอนแรกที่เริ่มเปิดบิลไปรับมาเท่าไหร่?

คุณเอ๋ : เริ่มเปิดบิลประมาณ 2-3 หมื่น แล้วก็เริ่มขยับขยายจำนวนเงินไปเรื่อยๆเพราะว่ามีตัวแทนเพิ่มขึ้น

พิธีกร : มันไปเกิดปัญหาได้ยังไง?

คุณเอ๋ : พอตัวแทนเพิ่มขึ้นเขามาเปิดบิลเยอะขึ้น เขาไม่จ่ายเงินค่ะก้อนแรก 2.5 ล้านบาท คือเขาไม่จ่ายก็เลยมีการฟ้องกันเกิดขึ้น

พิธีกร : ขายเกี่ยวกับอะไรคะ?

 คุณเอ๋ :อาหารเสริม คอลลาเจน สกินแคร์

พิธีกร : แล้วลูกทีมคนนี้ คือลูกทีมของคุณเอ๋เขาเปิดบิลไป 2.5 ล้านบาท แล้วไม่จ่ายเงิน คุณได้คุยกับเขาไหม?

 

 

คุณเอ๋ : ก็ตามทวงค่ะ จริงๆมันเป็นยอดทบ จากเดือนก่อน 1.5 ล้านบาท แล้วก็มาทบอีกเลยรวมเป็น 2.5 ล้านบาท

พิธีกร : รู้จักลูกทีมคนนี้ได้ยังไง?

คุณเอ๋ : เคยซื้อขายกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เขารับไปไม่เยอะประมาณหลักหมื่น ก่อนที่เขาจะมาเอาหลักล้านก็เปิดบิลเราไป 200,000 บาท

พิธีกร : ก็แสดงว่าตอนแรกก็รู้จักกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ แล้วเขาก็จ่ายเงินตามปกติ?

คุณเอ๋ : ใช่ค่ะ เพราะว่าเขาบอกว่าเขาไปได้ลูกทีมมาจากแม่ทีมรายใหญ่ทางชลบุรี เขาก็ทำให้เราเกิดความมั่นใจว่าเขาได้ลูกทีมทางนั้นมา เราก็ดีใจกับเขาด้วย

พิธีกร :  2.5 ล้านบาทมันเป็นจำนวนที่เยอะมาก อะไรทำให้คุณเอ๋เชื่อใจว่าเขาจะไม่เบี้ยวเรา?

คุณเอ๋ : ก็คือตอนนั้น เรายังไม่เคยโดนโกงและในวงการแม่ค้าออนไลน์ยังไม่มีการโกงเกิดขึ้น ก็เลยมั่นใจว่าเขาไม่น่าจะเบี้ยว และเขาก็ไปได้ตัวแทนที่ชลบุรีที่เป็นรายใหญ่ซึ่งรายนั้นเขาน่าเชื่อถือได้ เราเห็นว่าเขาเปิดบินกันทีไรเยอะๆแล้วขายกันเก่งๆ เราก็เลยเชื่อแล้วก็มั่นใจ แล้วเขาก็บอกว่า เขาก็ได้ตัวแทนจากพวกพี่สะใภ้พวกคนในโรงงานเขาอีกเราก็เลยเชื่อเขาว่าเขาต้องจ่ายเงินให้เราได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายน-ตุลาคม 2564

พิธีกร : หลังจากที่เขาไม่จ่ายเราทำยังไง?

 

 

คุณเอ๋ : ก็มีการทวงเงินกันเกิดขึ้นตอนนั้นอุ้มลูก 1 เดือนไปทวงเขา ก็ไม่ได้กลับมาสักบาทเราคลอดลูกได้เดือนแรกแล้วเขาก็ไม่เห็นใจอะไรเราเลย เราก็ไปคุยกับเขาว่าจะจ่ายเรายังไงเขาก็บอกกับเราว่าเก็บเงินจาก 2 คนนั้นไม่ได้ คนที่ชื่อตองกับแอล เขาก็เลยไม่มีจ่ายหนู มันก็เลยทำให้เกิดการฟ้องกันเกิดขึ้น เราสู้คดีกันมา 2 ปี ตลอดระยะเวลา 2 ปีก็ไม่มีอะไรเยียวยาหนูเลย

พิธีกร : อย่างในกรณีที่คุณเอ๋เรียกเก็บเงินลูกทีมคนนี้ไม่ได้ แล้วคุณเอ๋มีความคิดที่จะไม่จ่ายเงินเจ้าของแบรนด์ไหม?

คุณเอ๋ : ไม่มีความคิดนั้นเลยค่ะ เราสำรองเงินตัวเองไปจ่ายเขา หนูไม่เคยเป็นหนี้ทำงานโรงงานมา 12 ปีไม่เคยกู้หนี้ยืมสินใครไม่มีก็คือกินตามไม่มี มาม่าหนูก็กินเป็นเดือนกับแฟนหนูร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา

พิธีกร : การเปิดบิลหลักล้านแบบนี้ ทำไมเราถึงกล้าไปเปิดบิลหลักล้าน เพื่อออกให้กับลูกทีมเราก่อนหรอ?

คุณเอ๋ : ตอนนั้นหนูมีเงินสำรองค่ะ หนูมีเงินสำรองประมาณหลักล้าน หนูถึงกล้าให้คนชื่อจ๋าไป 2.5 ล้านบาทแต่หนูไม่คิดว่าหลังจากเดือนถัดมา ก็มีลูกทีมทำตามกันมาเรื่อยๆๆ อย่างเช่นเขาเอาสินค้าไปแล้วก็ไม่จ่ายเหมือนกันทุกคนทำเหมือนกันหมด ลูกทีมคนแรกเอาสินค้าของเราไปแล้วก็ไม่จ่ายเงิน เขาก็ทำเหมือนคนชื่อจ๋าเหมือนกัน คือเอาสินค้าไปแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน

พิธีกร : ลูกทีมเหล่านี้คุณสนิทกับเขาขนาดนั้นเลยหรอคะ?

คุณเอ๋ : เรียกว่าเราเคยซื้อขายกันมาก่อน บางคนก็คือมาเอาสินค้าจากเราหลังจากที่สินค้าของแม่ทีมเขาขาดเพราะว่าเรามีสินค้าตัวนี้ไหม พอดีแม่ทีมหลักของเขาของขาด เขาจะขอสินค้าตัวนี้หน่อย ตอนที่ซื้อขายกันแรกๆยังไม่มีการโกงกันเกิดขึ้น พอซื้อขายกันสัก 2-3 ครั้งเขาก็เริ่มมีพฤติกรรมแบบนี้ อันนี้เกิดขึ้นหลังจากเคส 2.5 ล้าน

 

พิธีกร : คุณเคยเจอเคส 2.5 ล้านบาท มาแล้ว ไม่ได้ทำให้เราเกิดความระมัดระวังมากขึ้นหรอคะ?

คุณเอ๋ : เราก็ระวังเพิ่มขึ้นค่ะ แต่อย่างว่าแต่ละคนมาไม่ซ้ำหน้าเราไม่ได้รับคนใหม่ เป็นคนที่เคยซื้อขายกับเรามาก่อนเลยทำให้เขาอาจจะมาทำพฤติกรรมแบบนี้กับเรา และเคสที่ทำให้เรารู้สึกว่าไม่ทนแล้ว ก็คือเคสที่โดนไปอีก 4 แสนบาท คนนั้นคือคนชื่อ “จอย” ทำให้หนูหมดตัวจริงๆ หมดทุกอย่าง หมดทุกสิ่งทุกอย่าง หนูก็เลยยอมกัดฟันหาค่าทนายเพื่อที่จะลองฟ้องเขาดู เพราะว่าหนูหมดเงินแล้ว หวังที่จะได้คืนมาบ้าง แต่มันก็ยังไม่ใช่อย่างนั้น

เคสคุณจอยเกิดขึ้นเพราะว่าตอนนั้นเขาเคยซื้อขายกับหนูครั้งสุดท้ายน่าจะเป็นหลักพัน เขาซื้อพวกขนมจ่ายเงินสดแล้วหายไปช่วงนึง หนูก็เป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก เขาก็ชอบกดไลค์สตอรี่เรา แล้วหนูก็เห็นเขาว่าชอบโพสต์ว่าเขาขายได้ขายปังในเฟซบุ๊ก มีเงินเป็นปึกๆ หนูก็เลยทักไปหาเขา ว่าทำยังไงหรอถึงปังใน tiktok อยากจะปังบ้างจัง เพราะว่าอยากออกจากระบบเครดิต ไม่ไหวแล้ว โดนโกงเยอะเกินประมาณนี้ เขาก็บอกกับหนูว่า เขาก็ทำคลิปไปเรื่อยๆ พอคลิปไหนแมทมันขายได้ มันก็จะติดเทรนประมาณนี้ค่ะ

พอผ่านไปช่วงนึงเขาก็ทักมาขอสินค้าบอกว่าหนูอยากได้สินค้าไปขาย ตอนนี้หนูมาทำงานอยู่ที่ระยองหนูอยากเอาสินค้าไปให้คนในโรงงานที่ระยอง แล้วก็ยังมีตัวแทนเก่าๆที่เขายังขายอยู่แต่ว่าเปิดบิลกับเรา สินค้าสั่งในจำนวน 40,000 บาท ซึ่ง 40,000 บาทนี้ เขาจ่าย แต่พอล็อตต่อไปเขามาสั่งเพิ่มขึ้นและล็อตต่อไปก็สั่งเพิ่มขึ้นอีกเกิดการทบยอดขึ้น เขาก็มามีพฤติกรรมที่บ่ายเบี่ยง ที่เราเชื่อเขาเพราะว่าเราก็บอกกับเขาตรงๆว่าจ่ายให้เราได้ไหม เพราะว่าเราโดนโกงมาเยอะมาก เขาก็บอกว่าเขาจ่ายให้เราได้ เพราะว่าเขามีลูกค้าเก่าๆอยู่ที่เคยซื้อขายกันแล้วเขาก็จะเอาสินค้านี้ไปขายในช่องทางติ๊กต็อกด้วย ติ๊กต็อกก็คือได้เงินสด มันเลยทำให้เรายิ่งเชื่อเขา ครั้งแรกสั่ง 40,000 บาทเขาจ่ายแต่ 400,000 บาทก้อนหลัง เขาไม่จ่าย เราก็พยายามตามทวงเขาทางเฟซบุ๊ก เขาก็พยายามบ่ายเบี่ยงเราไปเรื่อยๆแล้วก็มีจ่ายมาให้เรา 5,000 บาท 10,000 บาทตามกำหนดแล้วก็หายไปเลย

พิธีกร : สุดท้ายเห็นว่าศาลยกฟ้อง?

คุณเอ๋ : สุดท้ายคือศาลยกฟ้องเคสของ “จอย” มันทำให้พวกหนูเสียใจมาก เพราะว่าหนูหมดตัวแล้วต้องมาหาเงินค่าทนายที่ฟ้องเขาอีก ไหนยังจะต้องจ่ายแม่ทีมอีก ช่วงที่เขามาซ้ำเติมหนูมีการแท็กทวงหนูหน้าโซเชียล หนูไม่มีจ่ายเขาในตอนนั้น เขาแท็กทวงหนู

เสร็จแล้วหลังจากศาลยกฟ้องคนชื่อ “จอย” เขาก็โพสต์หน้าเฟซบุ๊กเขาว่าเกิดมาไม่เคยโกงใคร ใช้หนี้คนอื่นจนตัวเองลำบากอะไรประมาณนี้ค่ะ แล้วก็มีอีกโพสต์นึงเลียนแบบที่เจ้าหนี้ทวงหนี้หนูหน้าโซเชียลใช้คำว่าคุณพี่คะ ทำไมไม่ใช้หนี้ ใช้คำพูดเดียวกันกับแม่ทีมที่ทวงหนี้หนู

 

 

 

พิธีกร : ที่ผ่านมาสามีรู้เรื่องนี้บ้างไหมคะ?

คุณเอ๋ : รู้มาตลอดค่ะ เขาพยายามช่วยใช้หนี้มาโดยตลอดแล้วเขาก็บอกว่าเขาเหนื่อย เหนื่อยมาตลอดที่ต้องมาใช้หนี้แทนคนอื่น จะโพสต์อะไรหน้าเฟสที่มีความสุขก็ไม่ได้ เพราะเราติดหนี้เขาอยู่ก็มีแต่กัดฟันหาเงินใช้หนี้ แต่พอไปส่องเฟสลูกหนี้เขาก็มีชีวิตที่ลั้ลลาในเฟซบุ๊กในช่องของเขา แต่ตัวเราต้องมาหาเงินที่จะใช้หนี้แทนเขา บางเดือนเราติดลบเราก็ยังมีทยอยจ่าย แต่ถ้ามันติดลบสุดจริงๆ เราก็ไปบอกแม่ทีมว่าเออหนูไม่ไหวนะเดือนนี้ มันจะมีทั้งคนยอมแล้วก็ไม่ยอม หนูโดนด่าบ้างก็มี

ทำให้สามีเลือกที่จะจบชีวิตเพราะว่าก่อนหน้านั้น เขาบอกมาตลอดว่าเขาเหนื่อย เหนื่อยที่จะต้องมาใช้หนี้แทนคนอื่น หนี้ตัวเองก็ไม่เคยก่อ เขาพูดกับน้องเขาว่าเหนื่อย พูดกับแม่เขาว่าเหนื่อยอยากตายแล้ว เขาเคยไปปรึกษาเพื่อนเขาว่าเคยอยากตายไหม ที่ต้องมาใช้หนี้แทนคนอื่นไม่จบไม่สิ้น ประมาณนี้ค่ะ แล้วเขาก็พูดกับหนูเหมือนกันประมาณว่าหนี้ไม่เคยก่อแต่จะต้องมานั่งใช้แทนคนอื่น เอาจริงๆพวกเราคุยกันมาโดยตลอด แต่กัดฟันสู้ยิ่งสู้คดีไป ก็มาโดนยกฟ้องมีแต่เสียกับเสีย แล้วก็ต้องมานั่งใช้หนี้ต่อ แต่คนที่โกงเราเขาไม่ได้คิดเหมือนเรา เขาไม่ใช้หนี้เรา เขาหนีเรา ถึงเขาไม่หนีก็ทำตัวปกติ แต่ภาระมันอยู่ที่เรา

แล้วตอนนี้สามีก็เสียไปแล้วด้วย ก็มีแม่ทีมเขาก็ทักมา ถ้าฟื้นแล้วก็อย่าลืมเขานะ น้ำตาหนูก็ไหลเลย คือแฟนเราก็เพิ่งเสีย ลูกเราก็ 2 คนยังกินนมอยู่เลย คือมันกระทบจิตใจทุกเรื่องก็นั่งร้องไห้อย่างเดียว สามีเสียโดยการยิงตัวตาย วันนั้นสามีออกไปไร่ แล้วเขาก็ยิงตัวตายเลยค่ะ หนูรู้มาจากแม่เพราะว่าแม่โทรมาบอก กว่าหนูจะรู้เรื่องก็เย็น เขาขับมอเตอร์ไซค์ออกไปแล้วก็เลือกที่จะจบชีวิต แต่ตอนนั้นเราอยู่อีกที่นึง ตามจริงแล้วหนูไม่ได้อยากห่างกันเพราะว่าที่ผ่านมาเราก็คอยให้กำลังใจกันมาตลอด ไม่เคยห่างกัน แต่พอห่างกันมันก็เลยปล่อยให้ช่องโหว่ทำให้เขามีความคิดแบบนี้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมเขาเริ่มตัดพ้อ วันที่ 2 มิถุนายนเขาเลือกจบชีวิต

 

 

สาวเปิดใจเล่าอุทาหรณ์ เตือนภัยโดนหลอก ขายของออนไลน์ ทำสูญเงินหลายล้าน จนสามี เครียดฆ่าตัวตาย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบช.ทท. สั่งการ ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา คุมเข้ม ดูแล นทท. คืนปล่อยผี พร้อมแจกอมยิ้มสร้างสีสัน
“พิชัย” เร่งเจรจา FTA ไทย-ยูเรเซีย เปิดการค้าการลงทุน
ตร.บช.ก.สอบ "เจ๊อ้อย" มาราธอนนานกว่า 10 ชั่วโมง ปมเงิน 71 ล้านบาท
ฮือฮา วัตถุมงคล "หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์"  ด้าน "สำนักปฏิบัติธรรมฯ" แจงฆราวาสเป็นผู้จัดสร้าง นิมนต์พระไปอธิษฐานเท่านั้น
อบจ.อยุธยา เตรียมจัดงานแสง สี เสียง ลอยกระทงกรุงเก่า อาบน้ำเพ็ญเดือน12กับเกจิชื่อดัง ชมแข่งขันชกมวยเยาวชนไทย
20 ปี “เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ” เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ตอกย้ำความประทับใจ ชวนสัมผัสธรรมชาติ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จเป็นองค์ประธานการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 1 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก 2-5 พ.ย.นี้
แชร์สนั่น ปลุกเสก หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์
ผบ.ทร. มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย กำลังพล ประกอบคุณงามความดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น